จับหลงจู๊ ยัก 7 ล้าน โรงจำนำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.00 น. วานนี้ (19 ก.ค.) พ.ต.ท.ธวัชชัย ศรีสุรางค์ สว.สส.สน.บางมด จับกุมนายวรากร หรือสมชัย หรือแก้ว วรสุวรรณสกุล อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76 หมู่ 12 ต.ดอนข่อย อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี เลขที่ 376/2548 ลงวันที่ 17 ก.พ.2548 ในข้อหาลักทรัพย์นายจ้าง จับกุมได้ที่แผงเช่าพระไม่มีชื่อ หน้าบ้านเลขที่ 440 ตลาดวัดนาค ถนนสุขสวัสดิ์ แขวงและเขตจอมทอง กทม. ก่อนนำมาส่งมอบให้กับ พ.ต.ท.พินัย ชูแก้ว พงส. (สบ2) สน.บางมด สอบปากคำที่ สน.

จากการสอบปากคำนายวรากร รับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับ และได้กระทำความผิดตามข้อกล่าวหาจริง พร้อมทั้งให้การว่า เมื่อ 17 ปีที่ผ่านมา เคยทำงานอยู่ที่ หจก.โรงรับจำนำบางปะกอก เลขที่ 159/2 หมู่ 3 ถนน สุขสวัสดิ์ แขวงและเขตจอมทอง กทม. ต่อมาได้เลื่อนตำแหน่งเป็นหลงจู๊ ก่อนถูกนายจ้างจับได้ว่า ตนคิดไม่ซื่อ ใช้วิธีฉีกต้นขั้วใบรับจำนำจากลูกค้าที่นำเงินพร้อมตั๋วจำนำมาไถ่ถอนทรัพย์สิน ก่อนทำลายทิ้งทั้งตั๋วจำนำและต้นขั้วเพื่อทำลายหลักฐาน แล้วนำเงินสดที่ลูกค้ามาไถ่ถอนทรัพย์สินเอาไปใช้ส่วนตัว โดยนำไปลงทุนซื้อขายเพชร และเล่นพนันฟุตบอล เริ่มทำมาตั้งแต่ต้นปี 2545 ระยะแรก จะนำเงินมาโปะคืน แต่ระยะหลังเกิดหมุนเงินไม่ทัน เสียทั้งพนันบอลและถูกพรรคพวกโกง เรื่องการซื้อขายเพชร จึงทำให้กลายเป็นดินพอกหางหมูเรื่อยๆ

นายวรากรรับสารภาพต่อว่า ต่อมาทางนายจ้างตรวจสอบพบการกระทำผิดของตน มีหลักฐานในการยักยอกเงินจากการไถ่ถอนทรัพย์สินของลูกค้า รวมทั้งสิ้น 436 ราย คิดเป็นเงินกว่า 7 ล้านบาท เมื่อจำนนต่อหลักฐาน จึงยอมรับว่าได้กระทำความผิดจริง เจ้าของจึงให้ออกจากตำแหน่งหลงจู๊ และไปหาเงินมาใช้หนี้ผ่อนจ่ายเป็นรายเดือน เพื่อแลกกับการไม่ถูกแจ้งความ ตนจึงออกมาเช่าแผงพระในละแวกใกล้เคียง แต่ธุรกิจไม่ดี ไม่ได้ส่งเงินคืนแม้แต่งวดเดียว ทางเจ้าของโรงรับจำนำจึงไปแจ้งความไว้ที่ สน.บางมด จนกระทั่งถูกจับกุมได้

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ