ยิงทิ้งยุทธอู่ทอง หน.โจรลักรถตัวฉกาจ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 ก.พ. พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ เมืองฮาม สารวัตรเวร สภ.เมืองนครปฐม ได้รับแจ้งจาก พล.ต.ต.เรวัช กลิ่นเกสร ผบก.ภ.จ.กาญจนบุรี ว่า

ได้ร่วมกับตำรวจหน่วยคอมมานโดกองปราบปราม ชุดสืบสวนภาค 7 และชุดสืบสวนภาค 6 วิสามัญฆาตกรรมคนร้ายที่ก่อคดีปล้นฆ่าจี้ชิงทรัพย์และลักรถในหลายจังหวัดทั้งภาคกลางและภาคเหนือ มีหมายจับติดตัวนับ 10 ใบ ชื่อนายยง-ยุทธ สุทธง อายุ 36 ปี หรือฉายา “ยุทธ อู่ทอง” อยู่ บ้านเลขที่ 226 หมู่ 12 ต.พลับพลาไชย อ.อู่ทอง จ.สุ-พรรณบุรี เสียชีวิตที่ทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น เลขที่ 9/15 หมู่ 7 ต.หนองปากโลง อ.เมืองนครปฐม จึงรายงานให้ พล.ต.ท. ถวิล สุรเชษฐพงษ์ ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ศักดิ์ชัย ตันบุญ-เอก ผบก.ภ.จ.นครปฐม พ.ต.อ.ภาสกร กลั่นหวาน ผกก.สภ. เมืองนครปฐม นำกำลังตำรวจ พร้อมแพทย์เวร รพ.ศูนย์ นครปฐม ไปตรวจสอบ 

ที่เกิดเหตุพบ พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผบช.ภ.6 เดินทางมาร่วมตรวจสอบ
 
โดยมีชาวบ้านพากันมามุงดูจำนวนมาก บริเวณระเบียงประตูหลังบ้านชั้น 2 พบศพนายยงยุทธ สุทธง หรือ “ยุทธ อู่ทอง” มือปืนปล้นฆ่าและเป็น หน.แก๊งลักรถยนต์รายใหญ่ ถูกยิงที่หน้าอก 2 นัด และเบ้าตาขวา 1 นัด นอนจมกองเลือดคาระเบียงบ้าน สภาพศพนุ่งกางเกงยีนส์ตัวเดียว ไม่สวมเสื้อ มือขวากำปืนลูกโม่ .38 บรรจุกระสุน 6 นัด ยิงไปแล้ว 2 นัด เหลือที่ยังไม่ได้ยิงอีก 4 นัด ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ต่อมา พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. ฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการปราบปรามมือปืนรับจ้าง ได้รับรายงานเหตุที่เกิดขึ้น เดินทางมาร่วมตรวจที่เกิดเหตุ พร้อม แจ้งเจ้าหน้าที่วิทยาการ แพทย์ และอัยการ มาตรวจชันสูตรพลิกศพ ใช้เวลาร่วม 1 ชม.

พล.ต.ต.เรวัช กลิ่นเกสร ผบก.ภ.จ.กาญจนบุรี หนึ่งในทีมงานชุดปราบปรามมือปืนรับจ้างที่ รอง ผบ.ตร.แต่งตั้งขึ้น และเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์เผยว่า

นายยงยุทธ ผู้ตาย เป็นคนร้ายมีประวัติก่อคดีอุกฉกรรจ์มาอย่างโชกโชน โดย เฉพาะพื้นที่ภูธรภาค 6 ตำรวจต้องการตัวเป็นอย่างมาก ได้ประสานงานกับตำรวจภูธรภาค 7 หลังสืบทราบว่า นายยงยุทธหนีคดีมากบดานอยู่ที่ทาวน์เฮาส์หลังดังกล่าว โดยพักอยู่กับแฟนสาว เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏและเป็นลูกสาวของผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่ง กับเพื่อนนักศึกษาชายอีก 3 คน ชุดสืบสวนเฝ้าสังเกตการณ์อยู่นานหลายวันจนทราบข้อมูลแน่ชัด ทางตำรวจภูธรภาค 6 และตำรวจภูธรภาค 7 จึงประสานไปยังหน่วยคอมมานโดกองปราบปราม ร่วมวางแผนจู่โจมบุกจับกุม 

ก่อนเกิดเหตุ ช่วงเช้าวันเดียวกัน กำลังตำรวจที่ ซุ่มอยู่ใช้วิธีดักอุ้มนักศึกษาชายทั้ง 3 คน และนักศึกษาสาวแฟนของนายยงยุทธ ขณะทยอยออกจากบ้านไปเรียนหนังสือ เพื่อนำตัวไปสอบปากคำ และเพื่อความปลอดภัยของทุกคนที่ไม่เกี่ยวข้อง เหลือเพียงนายยงยุทธอยู่ในบ้าน เพียงคนเดียว จากนั้นกำลังตำรวจคอมมานโดพร้อมอาวุธ ครบมือ นำหมายจับในคดีฆ่าและพยายามฆ่าบุกเข้าตรวจ ค้นทันที เมื่อเคาะประตูเรียกปรากฏว่านายยงยุทธไหวตัวทันแอบดูทางช่องหน้าต่าง เมื่อเห็นเป็นตำรวจก็รีบวิ่งหนี ขึ้นชั้นบนไปที่ระเบียงหลังบ้าน แต่ก็เจอทางตันเพราะตำรวจปิดล้อมไว้หมดทุกด้านแล้ว เมื่อเห็นจวนตัว นาย ยงยุทธจึงชักปืนออกมายิงใส่ตำรวจ 2 นัดซ้อน เพื่อจะเปิดทางหลบหนี แต่กระสุนไม่ถูกใคร กำลังตำรวจจึงระดมยิงตอบโต้กระสุนพุ่งเจาะร่างนายยงยุทธ 3 นัดซ้อน จนล้มทรุดเสียชีวิตคาที่

ด้าน พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผบช.ภ.6 เผยว่า
 
ได้ติดตามดูพฤติกรรมนายยงยุทธมาตลอด พบว่ามีประวัติก่อเหตุมาอย่างโชกโชนทั้งฆ่าคนตาย ปล้นจี้ชิงทรัพย์ เป็นมือปืนรับจ้าง และยังเป็นหัวหน้าแก๊งลักรถรายใหญ่ ถูกศาลหลายจังหวัดออกหมายจับนับสิบคดี โดยเฉพาะท้องที่ตำรวจภูธรภาค 6 เคยก่อคดีใหญ่ เมื่อคืนวันที่ 8 พ.ย. 51 ขณะขับรถกระบะแวนพาลูกสมุน 3 คน ตระเวนลักรถในพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ ถูกตำรวจทางหลวงเรียกตรวจค้น แต่นายยงยุทธกลับชักปืนยิงใส่รถตำรวจพร้อมซิ่งรถหลบหนี ไปซุ่มอยู่ชายป่าใน ต.แสนปอ อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ ขณะนั้น ด.ต.อาทิตย์ พาทา และ ส.ต.ต.สมชาติ พิมพ์จันทร์ ผบ.หมู่ ร้อย ตชด.316 ขี่รถ จยย.ลาดตระเวนมาพบเข้า จะเข้าไปจับกุมกลับถูกนายยงยุทธชักปืนยิงใส่ ด.ต.อาทิตย์ เสียชีวิตคาที่ ส่วน ส.ต.ต.สมชาติ ได้รับบาดเจ็บ ก่อนทิ้งรถหลบหนีเข้าป่าไป ส่วนลูกสมุนที่มาด้วยกัน 3 คน ถูกตำรวจจับกุมตัวได้

ผบช.ภ.6 เปิดเผยด้วยว่า

เท่าที่รวบรวมเฉพาะท้องที่ตำรวจภูธรภาค 6 นายยงยุทธถูกศาลออกหมายจับแล้ว 5-6 หมายจับ ในคดีฆ่าและพยายามฆ่า ส่วนท้องที่อื่นๆ อาทิ ก่อเหตุยิงอดีต ส.จ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี เสียชีวิต ก่อคดีฆ่าและพยายามฆ่า ที่ถูกศาลจังหวัดปทุมธานีออกหมายจับ เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 51 หลังใช้ปืนยิงนายสุธน บัวพิบาล เสียชีวิต และนางสมร แตงอ่อน ภรรยาบาดเจ็บสาหัสที่ ต.หน้าไม้ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี นอกจากนี้ยังมีคดีอื่นๆอีกจำนวนมาก ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมหมายจับในคดีต่างๆ เพื่อดำเนินการต่อไป