จำคุกหลานชายฆ่าชินวัฒน์ แกนนำนปช.7 ปี 6 ด.

วันนี้ (17 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลนัดฟังคำพิพากษาในคดีที่ หมายเลขดำที่ อ.4889/2551

ที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา
8 เป็นโจทก์ฟ้อง นายสายชล สีทัน อายุ 40 ปี เป็นจำเลยฐาน พยายามฆ่าผู้อื่น และความผิดตามพ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนฯ, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน และทางสาธารณะฯ กรณีที่จำเลยก่อเหตุยิง นายชินวัฒน์ หาบุญพาด นายกสมาคมพิทักษ์ผลประโยชน์ผู้ขับรถแท็กซี่ และแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) รุ่น 2 ซึ่งเป็นลุงของ นายสายชล


คดีนี้โจทก์ฟ้องและนำสืบว่า เมื่อวันที่
26 ก.ย. 51 จำเลยได้มีอาวุธปืนพกลูกซองไทยประดิษฐ์ เบอร์ 20 ไม่มีเครื่องหมายทะเบียนของเจ้าพนักงานประทับไว้ จำนวน 1 กระบอก และกระสุนปืนลูกซอง จำนวน 9 นัด

ซึ่งจำเลยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ตามกฎหมาย จำเลยได้พาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนดังกล่าว ติดตัวไปที่บริเวณบ้านเลขที่
549/6 ซอยวิภาวดี 3 ท้องที่ แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร อันเป็นในเมือง หมู่บ้าน และทางสาธารณะ โดยจำเลยไม่ได้รับอนุญาต จำเลยได้ใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวยิงประทุษร้ายนายชินวัฒน์  ผู้เสียหาย จำนวน 1 นัด ถูกที่บริเวณลำตัว เป็นบาดแผลหลายแห่ง โดยเจตนาฆ่าผู้เสียหาย ซึ่งจำเลยได้ลงมือกระทำความผิดไปโดยตลอดแล้วแต่การกระทำของจำเลยยังไม่บรรลุผล เนื่องจากกระสุนปืนที่จำเลยยิงไปนั้นไม่ถูกอวัยวะสำคัญของผู้เสียหาย และแพทย์ได้ทำการรักษาได้ทันท่วงที จึงทำให้ผู้เสียหายไม่ถึงแก่ความตายสมดังเจตนาของจำเลย แต่เป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส เหตุเกิดที่แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
 

ศาลจึงพิเคราะห์ให้ลงโทษตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา
288,
พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง

และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.
2490 มาตรา 7 , 8 ทวิ, 72 ทวิ ศาลพิเคราะห์ประกอบคำรับสารภาพของจำเลยแล้ว เห็นว่า โจทก์มี นายชินวัฒน์ ผู้เสียหาย เบิกความว่า ก่อนเกิดเหตุ จำเลยนั่งดื่มเบียร์ อยู่ที่หน้าบ้านพักที่เกิดเหตุ ระหว่างนั้นมีช่างมาซ่อมคอมพิวเตอร์ที่บ้านพัก โดยจำเลยไม่พอใจช่าง ด้วยความมึนเมาจึงได้ตะโกนด่า นายชินวัฒน์ ผู้เสียหาย ซึ่งนอนอยู่ในห้องพัก บ้านเดียวกัน ได้ออกมาต่อว่าจำเลย ไม่ให้ใช้ถ้อยคำที่หยาบคาย และต่อว่าจำเลยว่า หากทำต่ออย่างนี้ก็อยู่ด้วยกันไม่ได้ พร้อมกับหยิบเงินให้จำเลย 1,000 บาท จำเลยเห็นดังนั้นจึงคว้าเงินมาขว้างทิ้ง แล้วตอบกลับไปว่า ถ้ากูอยู่ไม่ได้ มึงก็อยู่ไม่ได้ ก่อนจะชักปืน ยิง นายชินวัฒน์ 1 นัด ที่หน้าอก อันเป็นอวัยวะสำคัญ ในระยะห่างเพียง 3 เมตร ก่อนหลบหนีไปทันที และเชื่อว่าผู้เสียหายเบิกความไปตามสัตย์จริง ไม่มีเหตุให้ระแวงสงสัยว่าจะเบิกความปรักปรำให้จำเลยได้รับโทษ 
 

ศาลจึงพิพากษาว่าจำเลยมีความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา
288 ประกอบมาตรา 80 พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 7 , 8 ทวิ , 72
ทวิ

ให้ลงโทษในความผิดฐาน พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาเป็นเวลา
12 ปี ฐาน มีปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 2 ปี และฐานพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร จำคุก 1 ปี คำให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาเห็นสมควรลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลยไว้ทั้งสิ้น เป็นเวลา 7 ปี 6 เดือน

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์