ลูกแชร์!ขู่อุ้มเท้าแชร์เบี้ยวเงินตร.ซ้อนแผนรวบ3ราย

แชร์ล้ม!เท้าแชร์ไม่มีเงินจ่ายลูกแชร์เกือบ1แสนบาท "เมีย-ผัวลูกแชร์"พาชายฉกรรจ์กว่า10คนอุ้มพร้อมลูกทวงเงินข่มขู่พาโยนทะเล-อ้างเป็นสารวัตรสืบ-เจ้าหน้าที่ กอ.รมน. เท้าแชร์ผวาให้ลูกออกจากโรงเรียน-หนีออกจากบ้านหวั่นอันตราย สุดท้ายโร่เข้าแจ้งความตำรวจสน.ลาดพร้าว ซ้อนแผนรวบแก๊งทวงหนี้ 3 ราย ตามล่าที่หลบหนีอีก 3 ราย

เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 8 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายอุกฤษฏิ์ ขวัญบุญ อายุ 45 ปี อาชีพรับซื้อของเก่าสินค้ามือสอง อยู่บ้านเลขที่ 40/282 หมู่บ้านเคซี 8 แขวงคลองสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กทม. ว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ตนพร้อมด้วย นางวนิดา คุ้มธนะกิจ อายุ 41 ปี ภรรยา และบุตรชายอายุ 12 ปี บุตรสาวอายุ 5 ปี เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.วรพล ทิพยโสธร ร้อยเวรสน.ลาดพร้าว เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นางพิกุล เดชสุภา อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 380/316 ซ.สันนิบาตเทศบาล ถ.จันทรเกษม กทม. และพวกอีกหลายคนในข้อหากรรโชกทรัพย์และกักขังเหนี่ยวหน่วง

 นายอุกฤษฏิ์ ให้การว่า เมื่อปี 2549 นางวนิดา ภรรยาได้ตั้งวงเล่นแชร์จำนวน 12 มือ โดยเล่นแชร์มือละ 10,000 บาท และระหว่างที่เล่นแชร์มาจนถึงมือที่ 8 ปรากฏว่าลูกแชร์รายหนึ่งไม่ยอมส่งเงินแชร์ จนทำให้แชร์มีปัญหาและลูกแชร์ก็บอกว่าท้าวแชร์ต้องรับผิดชอบชดใช้เงินให้กับลูกแชร์ กับมือที่เหลืออยู่ ซึ่งในจำนวนนั้นก็มีนางพิกุล ซึ่งเป็นเท้าแชร์ต้องจ่ายเงินคืนให้ 60,000 บาท นอกจากนั้นก็ยังมีนายประเสริฐ ฉัตรคอน ลูกเขยของนางพิกุล อีกจำนวน 40,000 บาท ซึ่งก็ยอมรับว่าที่ผ่านมายังไม่ได้คืนเงินให้กับนางพิกุล แต่อย่างใดเนื่องจากว่าแชร์ล้มและอยู่ในระหว่างต้องหาเงินคืนให้ลูกแชร์ที่เหลือ

 นายอุกฤษฏิ์ กล่าวต่อว่า จนกระทั่งช่วงหลังก็ได้มีนายสุพรรณ บุญปลั่งขจร อายุ 45 ปี สามีของนางพิกุล ได้โทรศัพท์มาข่มขู่ตนและภรรยา ให้นำเงินแชร์ของนางพิกุล และนายประเสริฐ มาคืนให้ถ้าไม่นำเงินมาคืนให้ระวังตัวให้ดี ซึงตนก็บอกนายสุพรรณ ว่าขอเวลาหาเงินก่อนเพราะว่าลูกแชร์ไม่ยอมจ่ายเงินให้ จนกระทั่งมีอยู่วันหนึ่งนางพิกุล ได้ติดต่อมาว่าให้ตนกับภรรยามาซื้อแอร์เก่า โดยนัดไปพบที่ร้านอาหารเรือนพนา ย่านเกษตรนวมินทร์ เวลา 12.00 น. วันที่ 16 มกราคม ซึ่งเป็นวันครู ตนจึงได้พาครอบครัวมีทั้งภรรยาแลลูกอีก 2 คน ซึ่งได้หยุดโรงเรียนเนื่องในวันครู  นายอุกฤษฏิ์ กล่าวอีกว่า เมื่อเดินทางไปถึงพบนางพิกุลและนายสุพรรณ ยืนรออยู่พร้อมด้วยชายฉกรรจ์ อีกร่วม 10 คน ชายฉกรรจ์ที่ยืนอยู่ได้ผลักตนและภรรยาเข้าห้องคาราโอเกะ โดยแยกกันไปคนละห้อง และบอกว่าจะเอาตนใต้ไปถีบลงทะเล โดยข่มขู่เอาเงินที่พกอยู่ในตัวว่ามีเท่าไหร่เอามาให้หมด ตนมีอยู่ 520 บาท และถูกค้นกระเป๋า และบีบบังคับให้เอาเงินมาคืนนางพิกุล 120,000 บาท

 "จากนั้นก็ได้นำผมขึ้นรถมิซูบิชิ อีคาร์ สีดำ มีชายคุมไป 5 คน ส่วนเมียกับลูกขึ้นรถของผมไปโดยมีชายฉกรรจ์คุมไป พาไปที่บ้านของนางพิกุล ในซอยเสือใหญ่อุทิศ โดยให้ผมกับภรรยาทำหนังสือสัญญากู้ยืมเงินคนละฉบับ ฉบับละ 190,000 บาท โดยให้ผมและภรรยาต่างคนต่างค้ำหนังสือสัญญากู้เงิน ซึ่งในระหว่างที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ซอยเสือใหญ่อุทิศ ก็ถูกข่มขู่ให้หาเงินมาชดใช้อยู่ตลอดเวลา ผมจึงได้ติดต่อพี่สาวทางโทรศัพท์ และพี่สาวได้โอนเงินมาให้ 40,000 บาท"นายอุกฤษฏิ์ กล่าว

  นายอุกฤษฏิ์ กล่าวต่อว่า หลังจากที่หาเงินมาได้ 40,000 บาท นายสุพรรณ ก็ยังไม่ยินยอมปล่อยตนและครอบครัว ต้องการให้หาเงินมาให้อีก 40,000 บาท ตนเองก็พยายามหามาอีกแต่ก็ได้มาแค่ 20,000 บาทโดยพี่สาวนำสร้อยคอทองคำไปจำนำ จากนั้นนายสุพรรณ ก็บอกว่าวันที่ 17 มกราคม ให้นำเงินมาให้อีก 10,000 บาท จากนั้นกลุ่มคนร้ายก็ได้ขับรถพาตนเองและครอบครัวไปส่งที่บ้าน

 "หลังจากนั้นในครอบครัวก็ตกอยู่ในความหวาดกลัว หวาดผวา จนต้องให้ลูกทั้ง 2 คนหยุดเรียน เพราะกลัวว่าจะถูกอุ้มอีก ผมกับภรรยาต้องหลบหนีหัวซุกหัวซุนออกจากบ้าน งานการก็ไม่ได้ทำ จนกระทั่งวันนี้ นายสุพรรณ ได้โทรศัพท์มาหาให้ผมนำเงิน 120,000 บาทไปให้ผมก็บอกว่ายังหาไม่ได้ และช่วงตอนเย็นที่ผ่านมาได้โทรศัพท์มาข่มขู่อีก บอกว่าจะพาไปลงทะเล ซึ่งบางคนก็อ้างว่าเป็นสารวัตรสืบอยู่สน.โชคชัย เป็นทหารอยู่ กอ.รมน. ผมกลัวว่าจะไม่ปลอดภัยจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจวางแผนจับกุมตัวไว้ได้ 3 คน"นายอุกฤษฏิ์ กล่าว

 ด้าน นางวนิดา กล่าวทั้งน้ำตาว่า ทางครอบครัวเกิดความกลัว กับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ถ้ายอมแพ้ไม่สู้ก็ต้องหนีอยู่ตลอด แต่เชื่อในความยุติธรรม ที่ผ่านๆมาไม่กล้าให้ลูกซึ่งเรียนชั้นป.6 และอนุบาล ไปเรียนหนังสือ ต้องไปอยู่ตามบ้านญาติ เพราะกลัวอิทธิพลมืด ทางกลุ่มคนร้ายได้ถ่ายรูปไว้ ในวันเซ็นสัญญา และบอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูง โดยจ้างคนที่มาทวงเงินในราคา 100,000 บาท ทางกลุ่มคนร้ายข่มขู่ตนว่าถ้าไม่นำเงินมาให้จะพาสามีตนไปโยนทะเลทางภาคใต้ ซึ่งตนเพิ่งตั้งวงแชร์ ไม่คิดว่าลูกแชร์จะเบี้ยว ทำให้แชร์ล้ม แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องถึงขนาดนี้

 ขณะที่ ร.ต.ท.วรพล กล่าวว่า หลังจากรับแจ้งได้วางแผนจับกุมคนร้ายโดยให้นายอุกฤษฏิ์ นัดคนร้ายว่าจะนำเงินไปให้ที่ครัวตนุ ซอยโพธิ์แก้ว ถ.นวมินทร์ จำนวน 100,000 บาท หลังจากนั้นได้ประสาน พ.ต.ท.ทรงศักดิ์ จันทรพัชร สว.สส.สน.ลาดพร้าว ร.ต.อ.นิวัติ อาจวัง รองสว.สส.สน.ลาดพร้าว พร้อมกำลัง ไปที่ร้านเข้าจับกุมนางพิกุล เดชสุภา นายสุพรรณ บุญปลั่งขจร สองสามีภรรยา และนายประเสริฐ ฉัตรคอน ในข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ กักขังหน่วงเหนี่ยว

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังขอหมายจับกุมแก๊งอุ้มที่ยังหลบหนีอยู่อีก 3 คน ประกอบไปด้วย นายอัครวินท์ แก้วพิจิตร อายุ 32 ปี ซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากกอ.รมน. นายโกวิทย์ ภานุสนธ์ อายุ 35 ปี ซึ่งอ้างว่าเป็นสว.สส.สน.โชคชัย และนายกิตติคม เย็นกูล อายุ 31 ปี ถ้าสืบสวนสอบสวนพบว่ายังมีผู้ร่วมแก๊งอีก ก็จะขอหมายศาลติดตามจับกุมต่อไป


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์