จับขายตัวผ่านเน็ต ปี1อินเตอร์ นางแบบโฆษณา

หลังจาก “ไทยรัฐ” เปิดโปงตีแผ่เรื่องราวสาววัยรุ่น รวมถึงนักเรียน นักศึกษา ที่สิ้นคิด หันเหมายึดอาชีพ “ขายตัวขายตรง” ในเว็บไซต์ชื่อดัง Hi 5 และเว็บ Mthai

จนทำให้ผู้ซื้อและผู้ขายบริการต้องพลิกแพลงวิธีการซื้อขาย เพื่อหลบเลี่ยงการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยใช้ “โค้ดลับค้ากาม” ไว้คอยติดต่อสื่อสารกัน ซึ่งการใช้เว็บไซต์เป็นแหล่งค้ากามชี้ให้เห็นถึงความเสื่อมทรามของกระแสสังคมที่ไหลไปตามโลกยุคไร้พรมแดน และความวิบัติทางวัฒนธรรม ความฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม รวมถึงค่านิยมที่ผิดๆ จนทำให้เด็กสาวจำนวนมากเห็นเรื่อง การขายตัวเป็นเรื่องธรรมดา เพราะสร้างรายได้ที่งดงามในแต่ละเดือน สามารถหาซื้อเสื้อผ้าเครื่องประดับ หรือสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิต อาทิ โทรศัพท์มือถือได้อย่างสบายๆนั้น 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีข่าวเผยแพร่ออกไป เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการกวาดล้างจับกุมได้วางแผนล่อซื้อบริการ

เพื่อจับกุมเด็กสาวนักศึกษา ที่หันมาหารายได้พิเศษในทางที่ผิดๆ โดย พ.ต.ท.สวัสดิ์ ภักดี สว.สงเคราะห์และคุ้มครอง ศดส.บช.น. ได้ส่งสายติดต่อกับเอเย่นต์ส่งสาวนักศึกษาขายตัวชื่อ “นก” ตั้งแต่ช่วงสายของวันที่ 5 ก.พ. โดยนัดหมายให้มาส่งที่ร้านอาหารชื่อดัง “13 เหรียญรีสอร์ท” อยู่บริเวณถนนเลียบทางด่วน รามอินทรา-เอกมัย หรือถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ ในเวลา 20.20 น. วันเดียวกัน 


กระทั่งเวลา 20.45 น. ได้มีเด็กสาว 3 คน รูปร่างและหน้าตาสะสวย นั่งรถแท็กซี่เข้ามาที่ร้านอาหารดังกล่าว

โดยแต่ละคนแต่งกายในชุดกางเกงขาสั้นจู๋ เสื้อยืดสายเดี่ยวรัดรูป ตรงเข้าไปหาผู้ติดต่อซื้อบริการ ที่นั่งรออยู่ในห้อง 310 หลังเด็กทั้งหมดเข้าไปในห้องเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 คนที่ปลอมตัวเป็นนักเที่ยวผู้หญิง ได้แสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปรากฏว่าเด็กสาวทั้ง 3 คนถึงกับตกใจสุดขีด พร้อมกับปล่อยโฮร่ำไห้ออกมาทันที เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสอบถามทราบว่า คนแรกชื่อ “น้องหญิง” (นามสมมติ) อายุ 19 ปี กำลังเรียนอยู่ปี 1 มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง คนที่ 2 “น้องใหญ่” (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ไม่ได้เรียนหนังสือ


ส่วนคนสุดท้าย “น้องเอ” อายุ 18 ปี มีใบหน้าสวยใส เมื่อตำรวจสอบถามชื่อและประวัติความเป็นมา ถึงกับต้องตกใจ

หลังทราบว่าน้องเอเป็นลูกสาวของข้าราชการ กำลังเรียนอยู่ปี 1 หลักสูตรอินเตอร์ของมหาวิทยาลัยเอกชน และเป็นนางแบบถ่ายโฆษณา ซึ่งเจ้าตัวถึงกับปล่อยโฮร่ำไห้ตลอดเวลาที่ถูกสอบสวนและให้การว่าเพิ่งทำมา 5 ครั้ง โดยก่อนหน้านี้เล่น Hi 5 ก็มีคนชื่อ “นก” โพสต์เข้ามาพูดคุยฝากข้อความใน Hi 5 ว่า ต้องการรับสมัครพริตตี้ เป็นเพื่อนกินเพื่อนเที่ยว เงินเดือนงาม ตนหลงเชื่อ จึงตอบข้อความกลับไปว่าสนใจ ต่อมาหญิงที่ชื่อนกก็ป้อนงานมาให้ครั้งแรก อ้างว่ามีลูกค้าสนใจชวนเป็นเพื่อนไปกินไปเที่ยวในราคา 4 พันบาท แต่กลับถูกลูกค้าพาเข้าโรงแรมทั้งที่ไม่ได้เต็มใจ หลังจากนั้นทยอยทำโดยนางนกจะหาลูกค้ามาให้ ครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 5 ที่ทำเพราะตกกระไดพลอยโจนและต้องการเงิน เพราะพ่อส่งเงินให้ใช้เดือนละ 2 หมื่นบาท แต่ไม่ พอใช้จ่าย


ขณะที่อีก 2 คนให้การเหมือนกันว่าเล่น Hi 5 พบนางนกโพสต์เข้ามาฝากข้อความชวนให้ไปทำงานเป็นพริตตี้ อ้างว่ามีรายได้ดี ทำงานสบาย จึงหลงเชื่อ

ได้เงินครั้งละ 4 พันบาท เมื่อรับงานเสร็จภารกิจแล้วจะโอนเงินให้ นางนกทางเอทีเอ็มครั้งละ 500 บาท เป็นค่าหัวคิว โดยโอนเข้าธนาคารไทยพาณิชย์ เลขบัญชี 224-200-5533 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบเลขที่บัญชีดังกล่าว พบว่าเป็นบัญชีของ น.ส.สุดเขต กิตติมานนท์ อายุ 27 ปี ตรวจสอบโทรศัพท์มือถือ พบว่านางนกส่งข้อความมาถึงเด็กแต่ละคน ให้รับงานตามสถานที่ต่างๆ ตั้งแต่เช้าจดเย็น แล้วแต่เด็กเลือกที่จะรับงานว่าจะไปกับใคร ที่ไหน และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบใน Hi 5 พบนางนกมีเด็กในสังกัด 30 คน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาแก่เด็กทั้ง 3 คนว่า ติดต่อชักชวนแนะนำตัวเพื่อทำการค้าประเวณี พร้อมนำตัวส่งตำรวจ สน.โคกคราม เพื่อขยายผลต่อไป


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์