วีดิโอชี้จับแพะ เผาซานติก้าผับ

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 2 ก.พ. ที่กระทรวงยุติธรรม นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม

แถลงข่าวผลตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการอำนวยการและศูนย์ปฏิบัติการประสานงานผู้เสียหาย ติดตามผลการดำเนินคดีและตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเพลิงไหม้สถานบริการซานติก้า ผับ โดยมีการเปิดเทปบันทึกภาพขณะเกิดเหตุเพลิงไหม้ ถือเป็นหลักฐานใหม่ที่ไม่เคยปรากฏต่อที่ใดมาประกอบด้วย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรมกล่าวว่า ผลสรุปตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นของกระทรวงยุติธรรม สรุปว่า มีกฎหมายฉบับหนึ่งบังคับใช้เมื่อปี 47

กำหนดให้สถานบริการที่เป็น ผับ บาร์ ที่ยังไม่เคยขออนุญาตในพื้นที่โซนนิ่ง จะขออนุญาตไม่ได้

เว้นแต่สถานบริการที่เคยขออนุญาต และประกอบการมาก่อนหน้านี้ ส่วนกรณีซานติก้า ผับ พบว่า เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 46 มีนายคริสไปขออนุญาตก่อสร้างอาคารหลังเกิดเหตุ ต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของ กทม. และเมื่อตรวจสอบย้อนหลังพบว่า นายคริสเป็นเพียงผู้ถูกจ้างให้ไปดำเนินการและการขออนุญาต  ครั้งนั้นเป็นการขอสร้างอาคารพักอาศัย ไม่ใช่ขอสร้างอาคารสถานบริการ

รมว.ยุติธรรมกล่าวต่อว่า ต่อมามีการไปขออนุญาตเปิดสถานบริการต่อสถานีตำรวจนครบาลแห่งหนึ่ง แต่ตำรวจไม่อนุญาต จึงนำคดีไปฟ้องศาลปกครอง

อย่างไรก็ตาม วันที่ 27 ก.พ. 47 สถานบริการแห่งนี้สร้างเสร็จและเปิดให้บริการได้ ทั้งที่ไม่ได้รับใบอนุญาตให้ใช้อาคาร อีกทั้งอุปโลกน์นายสุริยา ฤทธิ์บรรลือ เป็น กก.ผจก.ซานติก้า ผับ ทั้งที่นายสุริยาเป็นเพียงเด็กรับรถของซานติก้า ผับ รวมทั้งมีประวัติเสพยาเสพติดด้วย นอกจากนี้ ขณะที่ซานติก้า ผับ เปิดบริการ เคยถูกจับดำเนินคดีถึง 47 ครั้ง แต่ทุกครั้งไม่มีการดำเนินคดี

นายพีระพันธุ์กล่าวด้วยว่า เหตุที่ต้องขอโอนเป็นคดีพิเศษ เพราะซานติก้า ผับ มีปัญหาหลายอย่างที่ต้องตรวจสอบให้ชัดเจน

ประกอบด้วย 1. ความผิดปกติในงบดุลของบริษัท กล่าวคือมีเงินสด 20 ล้านบาท เข้ามาในบัญชีโดยไม่ทราบที่มา เข้าข่ายอำนาจ ปปง. 2. ประเด็นการเก็บภาษีสรรพสามิต ไม่เคยมีการเรียกเก็บเลย อยู่ในอำนาจของดีเอสไอ ตามประมวลรัษฎากร และความผิดเกี่ยวกับภาษีสรรพสามิต 3. จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุโดยใช้นิติวิทยาศาสตร์ พบว่าในห้องฝ่ายบัญชี ห้องการตลาด และห้องพักนักดนตรี มีคราบเฮโรอีน และโคเคนติดอยู่ จากการขยายผลพบว่า ผับแห่งนี้มีการซื้อขายยาเสพติดกันจริง แต่จะเป็นรายใหญ่หรือไม่ต้องตรวจสอบ  4. มีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จนนำมาสู่การเกิดเหตุ และ 5. มีกระบวนปลอมลายมือชื่อวิศวกร และสถาปนิกในการก่อสร้าง โดยวิศวกรคนนี้ ถูกปลอมลายเซ็นไม่น้อยกว่า 33 แห่งใน กทม.

ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ มาจากการจุดพลุหรือสเปเชียลเอฟเฟกต์แน่ แต่ยังไม่สามารถชี้ว่าใครบ้างที่จะต้องรับผิดชอบ

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้ให้ข้อมูล   โดยกระทรวงยุติธรรมไม่สามารถเห็นสอดคล้องได้ คือ กรณีพยานระบุ นักร้องเป็นคนก้มลงจุดไฟเเช็กเพื่อจุดพลุ คือสาเหตุที่ทำให้เพลิงไหม้ แต่จากการตรวจสอบเทปวีดิโอในคืนเกิดเหตุ และจากการจำลองเหตุการณ์ ไม่ตรงกับคำให้การ เพราะจากการตรวจสอบ พลุเอฟเฟกต์จุดด้วยชนวนไฟฟ้า ไม่ได้ใช้ไฟแช็ก เมื่อมีการจุดพลุทดสอบ เปรียบเทียบระยะเวลาการเกิดเพลิงไหม้จนกระทั่งลุกลามหนัก ผลการทดสอบออกมาไม่ตรงกับเหตุการณ์จริง เพราะในสถานการณ์จำลองต้องใช้เวลานานกว่าไฟจะลุกลาม ขณะที่ภาพจากวีดิโอเห็นชัดว่า ใช้เวลาเพียง 2 นาทีเศษ ไฟลุกลามจนทำให้หนีไม่ทัน สันนิษฐานว่า บนฝ้าเพดานอาจมีวัสดุอื่นที่ทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็วจนมีลูกไฟและโครงสร้างฝ้าเพดานถล่มลงมา

สำหรับหลักฐานใหม่ซึ่งเป็นภาพวีดิโอขณะเกิดเหตุเพลิงไหม้ในซานติก้าผับ เป็นหลักฐานที่ไม่ปรากฏที่ใดมาก่อน

ทีมงานของกระทรวงยุติธรรมตรวจพบในที่เกิดเหตุหลังเกิดเหตุแล้ว 3 วัน เป็นภาพจากกล้องวีดิโอที่ถูกไฟไหม้ แต่ม้วนเทปไม่ได้ถูกทำลาย ซึ่งเนื้อหาภายในภาพแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับการสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งระบุว่านักร้องนำวงเบิร์น เป็นผู้จุดไฟแช็กที่หน้ากลอง จนเป็นสาเหตุของเพลิงไหม้ แต่ภาพจากกล้องวีดิโอของซานติก้าผับ บ่งชี้ว่ามีลูกไฟเกิดขึ้นหลังจุดเอฟเฟกต์นาน 2.57 นาที และเป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนนักร้อง และนักร้องคนที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาเดินหลบไปข้างเวที อีกทั้งไม่มีภาพนักร้องเป็นผู้จุดพลุตามที่พยานให้การ เห็นว่าคดีนี้สมควรสืบสวนสอบสวนอย่างจริงจังอย่างเป็นระบบโดยกระทรวงยุติธรรมอีกครั้ง ตามกฎหมายคดีพิเศษ ดังนั้น จะนำเข้าที่ประชุมกรรมการคดีในวันที่ 11 ก.พ.นี้ รวมทั้งสรุปรายงานต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 3 ก.พ.

ขณะที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.กล่าวว่า เรื่องนี้เคยพูดคุยกับ พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. ที่รับผิดชอบคดีนี้ว่า ในส่วนสำนวนคดีไม่ได้ปิดทั้งหมด

แต่ได้สรุปไปส่วนหนึ่ง หากมีพยานหลักฐานเพิ่มเติมเข้ามาสามารถดำเนินการได้ ส่วนกรณีที่ดีเอสไอสรุปผลต่างจากตำรวจ พนักงานสอบสวนต้องเข้าไปดูรายละเอียดสำนวนคดี ซึ่งกระทรวงยุติธรรมอาจจะส่งพยานหลักฐานมาเพิ่มเติมได้ เพราะสำนวนคดีนี้เปิดไว้ ในส่วนการจับกุมผู้ต้องหา เป็นเรื่องของพยานหลักฐาน พล.ต.อ.จงรัก ทำไปด้วยหลักฐาน อาจจะใช่หรือไม่ก็ได้ แต่พนักงานสอบสวนสรุปไปแล้วว่าผู้ที่จับกุมเป็นผู้ต้องหา ในเรื่องของสาเหตุ เมื่อดีเอสไอบอกว่าเป็นเรื่องของเอฟเฟกต์ อาจเป็นไปได้ว่าสาเหตุเพลิงไหม้ซานติก้าผับ เกิดจากเอฟเฟกต์และพลุ ส่วนการที่กรมสอบสวนคดีพิเศษออกมาแถลงต่างกับตำรวจคงไม่ใช่เป็นการดิสเครดิต ทุกคนทำงานเพื่อชาติ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเคยระบุว่าข้อมูลตำรวจ กับกระทรวงยุติธรรมไม่ตรงกัน จึงมอบหมายให้ไปดูแลความเรียบร้อย

เข้าใจว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม อยากเสนอให้ คดีนี้เป็นคดีพิเศษ   เพราะมีความซับซ้อนพอสมควรรวมถึงมีหลักฐานที่ชัดเจน ซึ่งตนเห็นด้วย เพราะเท่าที่ได้ฟังมา มีข้อมูลหลายส่วนที่เกี่ยวข้องกัน ส่วนจะกลายเป็นปัญหาการทำงานระหว่างกันหรือไม่นั้น ไม่น่ามีปัญหา ไม่ใช่เป็นเรื่องฉีกหน้า เมื่อถามว่า การที่ตำรวจรีบสรุปคดีจนมีแพะเกิดขึ้นเป็นเพราะตำรวจมีผลประโยชน์อะไรหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า อย่าไปพาดพิง เมื่อสัปดาห์ก่อนที่จะสรุปคดีนี้ ตนเห็นว่าข้อมูลไม่ตรงกันเลยขอให้ไปดูให้ตรงกัน ตอนนี้ถ้ามีข้อมูลหลักฐานที่ชัดเจนก็ต้องดำเนินการต่อ เรื่องนี้ถ้าเราสามารถทำให้มีความชัดเจนและมีความรับผิดชอบได้ จะเป็นกรณีตัวอย่างป้องกันไม่ให้มีกรณีอื่นๆเกิดขึ้น

ค่ำวันเดียวกัน พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด ให้ไปสอบถามตำรวจพื้นที่ที่เกิดเหตุ

อย่าข้ามขั้นมาถามรอง ผบ.ตร. ให้ไปถาม พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รอง ผบก.น.5 ผู้รับผิดชอบในท้องที่ก่อน ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังยืนยันหรือไม่ว่านักร้องวงเบิร์นเป็นผู้ต้องหาที่แท้จริง พล.ต.อ.จงรักกล่าวว่า จะไม่ตอบคำถามใดๆ และทราบว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ได้ตอบคำถามนี้ไปแล้ว ให้ไปตรวจสอบดู ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามไปยัง พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รอง ผบก.น.5 และ พ.ต.อ.สุทิน พ่วงทรัพย์ ผกก.สน.ทองหล่อ รวมทั้งนายตำรวจระดับผู้บังคับบัญชาใน บก.น. 5 ต่างปฏิเสธที่จะแสดงความเห็น บอกเพียงว่า ไม่มีอำนาจหน้าที่ในการให้ข่าวใดๆ นอกจากผู้บังคับบัญชาระดับสูงเท่านั้น

ด้านนายสราวุธ อะริยะ อายุ 28 ปี นักร้องนำวงเบิร์น

ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาตามผลสอบสวนของตำรวจ เปิดเผยภายหลังทราบผลการสอบสวนของกระทรวงยุติธรรมว่า ดีใจที่ผลสอบสวนออกมาเช่นนี้ พร้อมกับยืนยันว่า ไม่ได้ กระทำตามที่ถูกพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา โดยอ้างว่า ขณะนั้นมือของตนกำลังถือไมค์ร้องเพลงอยู่ ไม่สามารถใช้ไฟแช็กจุดพลุได้