ตร.-ทหารระดมกำลังนับพันดูแล เสื้อแดงชุมนุมใหญ่ คุมเข้มสถานที่สำคัญ สุเทพฮึ่มไม่ทำถือว่าละเว้น


"สุเทพ"สั่งผบ.ตร.จัดการม็อบเด็ดขาด ผิดกม.ต้องฟันทันที ปล่อยให้เข้ายึดทำเนียบฯไม่ได้ หากไม่ทำถือว่าละเว้น "กองทัพ"สั่งจับตาชุมนุมใหญ่ 31 ม.ค.ใกล้ชิด ทหาร-ตำรวจถกแผนรับมือ คุมเข้มสถานที่สำคัญ วางกำลัง35กองร้อยป้องกันทำเนียบฯ ทหารอีก 22 กองร้อยรอเสริม ผบช.น.ประเมิน2หมื่น ห่วงมือที่ 3 สร้างสถานการณ์ตอนเคลื่อน "เสื้อแดง"โวยทหาร-รมต.ข่มขู่ สกัดเข้ากรุง


"สุเทพ"สั่งตร.เด็ดขาด-ฟันม็อบทำผิด
 
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง สั่งการพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ดำเนินการเด็ดขาดทันทีต่อผู้ฝ่าฝืนกฎหมาย ในวันนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ หรือกลุ่มคนเสื้อแดงที่ท้องสนามหลวงในวันที่ 31 มกราคม
 
นายสุเทพ ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 30 มกราคม ว่า ได้สั่งการให้พล.ต.อ.พัชรวาท ประชุมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติ เพื่อระดมกำลังมาควบคุมผู้ชุมนุม ไม่ให้กระทำการฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งถ้าผู้ชุมนุมกระทำการฝ่าฝืนกฎหมาย ต้องดำเนินการโดยเด็ดขาดทันที ถ้าตำรวจไม่ทำ ถือว่าละเลยการปฏิบัติหน้าที่ โดยได้กำชับตำรวจว่า ให้ทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง ถ้ามีกำลังตำรวจไม่พอให้ขอกำลังทหาร โดยไม่ต้องประสานผ่านใคร
 
รองนายกฯกล่าวกรณี เกรงเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.) ที่เคยบุกยึดทำเนียบรัฐบาลหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์อย่างนั้น และไม่ได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้เก็บเอกสาร เพราะเชื่อว่า จะเข้ายึดทำเนียบรัฐบาลไม่ได้ เนื่องจากสั่งการไปแล้ว

บุกทำเนียบต้องจับ-ไม่หาที่สำรอง
 
นายสุเทพย้ำคำพูดด้วยว่า ได้สั่งเด็ดขาดว่าให้กระทำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ห้ามไม่ให้ละเลยโดยเด็ดขาด ถ้าต้องมีการยับยั้งการกระทำผิดกฎหมาย ก็ให้ทำตามแบบสากล  ส่วนหากกลุ่มคนเสื้อแดงอ้างว่าทีพธม.ทำผิด ทำไมถึงไม่จัดการนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า "ต้องไปถามรัฐบาลของพวกเขา ผมตอบแทนไม่ได้ ตอนนี้ผมเป็นรัฐบาลผม ก็มีวิธีดำเนินการอย่างนี้” เมื่อถามว่า ถ้ามีใครบุกรุกเข้าในทำเนียบต้องจับกุมหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ถ้าทำผิดกฎหมายต้องจับ ถ้าไม่จับก็ต้องดำเนินการกับตำรวจ  ผู้สื่อข่าวถามย้ำ ต้องเตรียมตัวเก็บของออกจากทำเนียบฯหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เพิ่งตกแต่งห้องทำงานเสร็จจะรีบเก็บของไปไหน และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องหาทำเนียบฯสำรองด้วย

กองทัพติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด
 
พล.อ.ประวิตร  วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ระหว่างตรวจเยี่ยมกองทัพเรือ ถึงการนัดชุมนุมใหญ่ 31 มกราคมว่า ขึ้นอยู่กับตำรวจ  หากมีความต้องการให้ทหารช่วย  ก็พร้อมที่จะช่วยเต็มที่ อยากบอกใครก็แล้วแต่ที่เข้ามาชุมนุมว่า รัฐบาลกำลังเพิ่งเริ่มทำงาน และกำลังเดินหน้า อยากให้ประชาชนทุกฝ่ายช่วยกันให้ประเทศเดินหน้าสักระยะ หากมีอุปสรรคค่อยว่ากัน ส่วนกรณีที่นายจักรภพ  เพ็ญแข แกนนำกลุ่มนปช.ระบุว่า กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) ส่งทหารจำนวน 400 คน เข้าไปแฝงตัวในกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น ไม่มี เพราะไม่เข้าไปแทรกแซงกิจการภายในของใคร อย่างไรก็ตาม ทางกองทัพได้ติดตามสถานการณ์ เพื่อดูแลให้เกิดความสงบเรียบร้อย

ผบ.ตร.-มทภ.1ถกแผนรับมือ
 
ส่วนที่ห้องประชุมปารุสกวัน 1 กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.)มีการประชุมร่วมระหว่างคณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายทหาร และกทม.ขึ้นเมื่อเวลา 14.00น.เพื่อเตรียมการรับมือการชุมนุม ฝ่ายตำรวจนำโดย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ พล.ต.อ.วิโรจน์ พหลเวชช์  รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต ที่ปรึกษา(สบ 10) พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) ฝ่ายคณะนายทหารนำโดยพล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 และนายนิคม บุญพิทักษ์ ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ กทม.
 
พล.ต.อ.พัชรวาท ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมร่วม 2 ชั่วโมงว่า ตำรวจ และแม่ทัพภาคที่ 1มาดูความพร้อมในการปฏิบัติว่า 1.การเคลื่อนของผู้ชุมนุมในส่วนของตำรวจพร้อมแค่ไหน 2.ในการปฏิบัติให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เป็นเรื่องที่หน่วยปฏิบัติเตรียมการไว้แล้ว และ3.กรณีที่ตำรวจใช้กำลังที่มีอยู่แล้วไม่พอ ก็จะขอกำลังทหารมาเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานตำรวจ ส่วนทางทหารให้ความร่วมมือมาร่วมประชุมอย่างดี สำหรับรายละเอียดการปฏิบัติเป็นเรื่องของผบช.น.ในฐานะเจ้าของพื้นที่และผบ.เหตุการณ์ จะดูแลในรายละเอียด

เตรียมพร้อมป้องกันสถานที่
 
ผบ.ตร.กล่าวว่า  การชุมนุมโดยสงบ สันติปราศจากอาวุธทำได้ ในทางปฏิบัติ ตำรวจจะดูแลเพื่อป้องกันสถานที่เท่าที่เคยทำมา จะมีการเจรจา  ใช้การปฏิบัติเป็นปกติเท่าที่เคยทำไว้ เมื่อถามว่าหากมีการชุมนุมยืดเยื้อถึงวันที่2-3 กุมภาพันธ์ซึ่งเป็นวันทำการ จะเป็นปัญหาเรื่องการจราจรหรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า เป็นเรื่องงานการข่าว ผู้ชุมนุมเป็นคนไทยการแสดงออกทำได้ในกรอบของกฎหมาย 
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า รองนายกรัฐมนตรีสั่งให้ใช้มาตรการเด็ดขาด แล้วมาตรการขั้นสูงสุดที่ตำรวจเตรียมไว้คืออะไร พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น  มาตรการเด็ดขาดหมายความว่าเมื่อผิดกฎหมาย ต้องดำเนินการเด็ดขาด คือทำตามกฎหมาย ถ้ามีความผิดซึ่งหน้าก็จับกุม ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะโฟนอินมายังท้องสนามหลวงทำได้หรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ฝ่ายกฎหมายยังหารืออยู่ คิดว่ารายละเอียดเป็นเรื่องของฝ่ายกฎหมาย

ตร.คุมทำเนียบ-กำลังทหารรอเสริม
 
พล.ต.ท.สุชาติ ให้สัมภาษณ์ว่า จะจัดกำลังดูแลความเรียบร้อยในการป้องกันทำเนียบรัฐบาล ป้องกันการเคลื่อนหรือกระทำผิดกฎหมายต่างๆ เบื้องต้นใช้กำลัง 35 กองร้อย ใน 1 ผลัด จากบช.น. บช.ภ.1,2,7 บช.ก.และบช.ตชด. ส่วนทหารประสานไว้ 22 กองร้อย ที่ใช้กำลังมากเป็นการกันไว้ดีกว่าแก้ จะมีการเจรจา หน่วงรั้งและพูดคุย จุดเจรจามี 4 จุด หากมีการเคลื่อนจากท้องสนามหลวง จุดแรก ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จุดที่2 ที่สะพานผ่านฟ้า จุดที่3 ที่แยกจปร. และจุดที่4. ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ สำหรับขอบเขตการชุมนุมว่าจะอยู่แค่ไหน คงจะดูสถานการณ์ เพราะต้องประเมินตลอดแต่ละจุด ได้มอบให้รองผบช.น.ทำหน้าที่ รองผบ.เหตุการณ์แต่ละคนไปประจำจุดต่างๆ เพื่อเจรจา

ประเมินคน2หมื่น-ห่วงมือที่3ป่วน
 
ผบช.น.กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งปิดถนน เข้าใจหากผู้ชุมนุมจะเคลื่อนพล คงเป็นช่วงกลางคืน คือหลัง 20.00น.วันที่ 31 มกราคม ซึ่งตำรวจจะใช้จราจรทั้งหมด 50 นายตามแยกต่างๆ พร้อมจะอำนวยความสะดวกจัดการจราจร เลี่ยงการเข้าใกล้ทำเนียบรัฐบาล
 
"สำหรับยอดกลุ่มผู้ชุมนุมคงประเมินเป็นตัวเลขที่แน่ชัดไม่ได้ แต่คาดว่าจะอยู่ราวๆ 20,000 คน"ผบช.น.กล่าวและว่า สำหรับการรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการสำคัญเป็นหน้าที่หลักอยู่แล้ว ที่ต้องดูแลพระบรมมหาราชวัง พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ตลอดจนพระราชวังใกล้กับสถานที่ชุมนุม ตลอดจนตามจุดแยกต่างๆ จะมีกำลังสารวัตรทหาร(สห.)ยืนร่วมกับกำลังตำรวจในพื้นที่ทุกแยก โดยกรุงเทพมหานครให้รถน้ำรถดับเพลิง รถส่องสว่างไว้ใช้ทั้งหมด
 
พล.ต.ท.สุชาติ แสดงความเป็นห่วงในช่วงเคลื่อนขบวนด้วยว่า " อาจมีมือที่ 3 ซึ่งเรามีสถานการณ์เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2551 เราจำเป็นต้องใช้กำลังปิดท้ายกลุ่มผู้ชุมนุม 2 กองร้อย เพราะเกรงจะมีคนไปทำร้าย รวมทั้งคนที่ร่วมเดินมาอาจเป็นบุคคลที่ 3 ยั่วยุ หรือไปทำลายอาคารข้างทาง สัญญาณไฟจราจร ซีซีทีวี วงจรปิดต่างๆด้วย"
 
นายนิคม บุญพิทักษ์  กล่าวว่า ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจ 600 นาย โดยแบ่งกำลังออกเป็น 3 ผลัดต่อวัน ผลัดละ 200 นาย สำหรับดูแลความเรียบร้อย

เสื้อแดงเดินสายจี้อาเซียนบอยคอตรบ.
 
ขณะที่นายวีระ มุสิกพงษ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำนปช.และคณะผู้ดำเนินรายการความจริงวันนี้ พร้อมกลุ่มเสื้อแดงประมาณ 100 คน  เดินทางไปยื่นหนังสือต่อสถานเอกอัตราชทูตกัมพูชา ลาวและเวียดนาม เมื่อเวลา 11.00น. เพื่อขอให้ชาติสมาชิกอาเซียนทบทวนท่าที ต่อการเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่รัฐบาลไทยเป็นเจ้าภาพปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้  โดยมีตัวแทนของสถานทูตแต่ละประเทศออกมารับหนังสือ  โดยกลุ่มคนเสื้อแดงใช้เวลาดำเนินการไม่นานก่อนแยกย้ายเดินทางกลับ อย่างไรก็ตาม การยื่นหนังสือดังกล่าวทางกลุ่ม นปก.ได้ยื่นต่อสถานทูตประเทศสมาชิกอาเซียนครบทั้ง 9 ประเทศแล้ว
 
สำหรับ เนื้อหาหนังสือเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกอาเซียน ทบทวนท่าทีของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ  นายกรัฐมนตรีที่เข้ามาเป็นรัฐบาลโดยไม่ชอบธรรม ไม่ได้มาจากประชาชนอย่างแท้จริงพร้อมกันนี้ยังตั้ง นายกษิต ภิรมย์ ที่เป็นพธม.ชุมนุมปิดล้อมสนามบินมาก่อนมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ  จึงเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 9 ประเทศทบทวนท่าทีต่อรัฐบาลไทยและความสง่างามของนายกษิต       

โวยอีก"ทหาร"สกัด-ข่มขู่แนวร่วม
 
นายณัฐวุฒิ ให้สัมภาษณ์กรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ สั่งการให้ตำรวจดำเนินการเด็ดขาดกับผู้ชุมนุมที่ทำผิดกฎหมายว่า ในฐานะที่นายสุเทพ เป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง มีสิทธิที่จะพูดเช่นนั้น แต่เห็นว่านายสุเทพไม่มีความชอบธรรมที่จะมาตรวจสอบหรือดำเนินการใดๆกับการเคลื่อนของคนเสื้อแดงเพราะนายสุเทพ และพรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจร่วมกับกลุ่มพันธมิตรฯเรียบร้อยแล้ว

"ตอนนี้มีข้อมูลในหลายจังหวัดว่ารัฐบาลเริ่มสกัดคนเสื้อแดงในจังหวัดต่าง ๆแล้ว โดยมีการข่มขู่ ผู้ให้บริการรถเช่า รถทัวร์ และรถตู้ ว่าหากให้บริการกับคนเสื้อแดงจะมีปัญหากับการออกใบอนุญาตในครั้งต่อๆไป และมีการส่งกำลังทหาร กำลัง กอ .รมน. เข้าไปกดดันในพื้นที่ต่างจังหวัดเพื่อให้คนเสื้อแดงเกิดความลังเลใจที่จะออกมาร่วมชุมนุมและยังมีอีกหลายวิธี แต่ผมยืนยันว่าให้คุณสุเทพทำไปเถอะ เพราะจะไม่สามารถสกัดคนเสื้อแดงได้อยู่แล้ว พรุ่งนี้จะเป็นวันพิสูจน์ และหากการชุมนุมคนเสื้อแดงไม่มีการสกัดกั้นหรือต่อต้านการชุมนุมก็จะจบในคืนวันที่ 31 มกราคมเลย"นายณัฐวุฒิ กล่าว
 
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวว่า พรรคไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเสื้อแดง เพราะยังมีหน้าที่ที่ต้องทำแทนประชาชนอีกมาก  แต่อยากเรียกร้อง นายสุเทพว่า การสั่งการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการต้องมีความเป็นธรรม และต้องปฏิบัติเช่นเดียวกับม็อบเสื้อเหลือง  อย่าทำสองมาตรฐาน เพราะสังคมไทยจะรับไม่ได้ ความแตกแยกก็จะเกิดขึ้น  "ผมเห็นว่าม็อบเสื้อแดงไม่ใช่ม็อบอันตราย เป็นม็อบอารยชน เป็นคนที่พูดรู้เรื่อง การชุมนุมประท้วงไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมาย สามารถทำได้ตามรัฐธรรมนูญ"นายสุรพงษ์กล่าว

ซ้อมปิดบัวแก้วห้ามรถเข้า-ออก
 
ทั้งนี้ กลุ่มรักประชาธิปไตยสนามหลวง (กปส.) ประมาณ 15 คน  ชุมนุมด้านหน้ากระทรวงการต่างประเทศ ถนนพระราม 6 ทวงถามข้อเรียกร้องเมื่อวันที่ 8 มกราคมให้เลื่อนการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 14 ออกไปจนกว่าจะมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง พร้อมกับเรียกร้องให้นายกษิต ลาออกโดยกลุ่มผู้ชุมนุม นำรถแท๊กซี่ 1 คันมาปิดทางเข้ากระทรวงขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งพร้อมพระสงฆ์นั่งขวางประตูทำให้รถยนต์ไม่สามารถผ่านเข้า-ออกได้ แต่ยังสามารถเดินเข้า-ออกได้ตามปกติโดยกลุ่มผู้ชุมนุมใช้เวลาปักหลักชุมนุมราว 3 ชั่วโมงจึงเดินทางกลับ โดยไม่ได้ยื่นหนังสือเรียกร้องเพิ่มเติมแต่อย่างใด

"ขวัญชัย"ขอหยุด-เสื้อแดงไม่ให้ราคา
 
นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร เปิดเผยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โทรศัพท์มาหา เพื่อเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างตนกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แกนนำ นปช.และผู้ดำเนินรายการความจริงวันนี้ ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณ ได้พูดคุยเพียงสั้นๆเท่านั้นโดยขอให้หยุดตอบโต้กับนายจตุพร และกลุ่มความจริงวันนี้ เพราะไม่อยากให้เกิดไม่พอใจ หรือเกิดความขัดแย้งกันซึ่งส่วนตัวเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณโทรศัพท์มาขอเคลียร์เรื่องก็ไม่มีปัญหา  และทางกลุ่มยังยืนยัน ไม่เข้าร่วมชุมนุมในวันที่ 31 มกราคมนี้แน่นอน  
 
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กล่าวว่า  การเคลื่อนไหวของนายขวัญชัย ที่ผ่านมาก็ปรากฏชัดแล้วว่าทำเพื่ออะไร ส่วนพ.ต.ท.ทักษิณจะโทรหานายขวัญชัยจริงหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

จันทน์ก็โวยรมต.บล็อกรถเข้ากรุง
 
สำหรับความเคลื่อนไหวกลุ่มเสื้อแดงจังหวัดต่างๆนั้น  กลุ่มคนโคราชรักษ์ประชาธิปไตย  นำโดย ร.ต.แดง คงมงคล และ นายจักราวุธ  ไตรวัลลภ นัดรวมตัวกันที่บริเวณลานหน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี เวลา 09.00น.วันที่ 31 มกราคม เพื่อสักการะขอพร ก่อนเคลื่อนขบวนสมาชิกประมาณ 200 คน เข้าสมทบกลุ่มเสื้อแดงที่ท้องสนามหลวง ขณะที่ชมรมฮักลำปาง 51 ประมาณ 100 คนนำโดยนายสหรัษ นนทมาลย์ โดยสารขบวนเร็วที่ 102 เชียงใหม่-กรุงเทพฯเพื่อร่วมชุมนุมใหญ่ครั้งนี้ด้วย 
 
ส่วนที่จ.จันทบุรี นายสำเริง ประจำเรือ  สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด(ส.อบจ.)จันทบุรี เขต 1 อ.เมืองจันทบุรี และประธานแนวร่วมกลุ่มเสื้อแดงจันทบุรี กล่าวว่า   ติดต่อรถบัสโดยสารไว้ 10 คัน เพื่อนำชาวเสื้อสีแดง 500 คน เดินทางเข้าร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯในช่วงเช้าวันที่ 31 มกราคม แต่เจ้าของรถบัสแจ้งเลิกสัญญา จึงไม่สามารถจัดหารถให้บริการได้ "ผมทราบว่ามีรัฐมนตรี บางรายสั่งหน่วยงานราชการให้กดดันมิให้เจ้าของรถบัสให้บริการชาวเสื้อแดง แต่ชาวเสื้อแดงที่พอมีเงินจะเดินทางไปด้วยรถยนต์ส่วนตัวโดยกระจายกันเดินทาง"นายสำเริงกล่าว
 
ผู้สื่อข่าวรายงาน  ตำรวจตั้งจุดตรวจจุดสกัดตามถนนสายหลักมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ เพื่อป้องกันการเดินทางไปสมทบการชุมนุมใหญ่ โดยเฉพาะเส้นทางฝั่งขาออกจากจ.นครราชสีมา ที่เชื่อมเส้นทางมุ่งหน้าเข้ากทม. ตำรวจตรวจค้นรถยนต์ที่ออกจากพื้นที่ทุกคัน เพื่อ  รวมทั้งสอบถามจุดมุ่งหมายของการเดินทางเข้ากทม.ด้วย

เสื้อแดงเชียงใหม่เลิกป่วนผวาทหารล็อค
 
ทางด้านนายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดงานรณรงค์ 90 วัน รวมพลังหยุดเผา เพื่อรณรงค์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ร่วมมือกันหยุดเผาในพื้นที่โล่งทุกชนิด ที่ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อเวลา 10.00น.วันที่ 30 มกราคม โดยไม่ปรากฎกลุ่มเสื้อแดงเชียงใหม่ชุมนุมขับไล่
 
ทั้งนี้ มีรายงานว่า เมื่อค่ำวันที่ 29 มกราคม นายไพโรจน์ แสงภู่วงษ์ รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่  เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสั่งกำชับเจ้าหน้าที่ทหารนำกำลังมาเสริมการทำงานของตำรวจ  โดยให้เตรียมพร้อมเข้าล็อคตัวบุคคลที่กระทำความผิดทันที แกนนำกลุ่มเสื้อแดงจึงตัดสินใจงดชุมนุมประท้วงขับไล่นายสุวิทย์ ขณะเดียวกันกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ได้ระดมขอรับบริจาคเงินและของใช้จำเป็น เพื่อสมทบการเดินทางไปร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ  ที่มีทั้งเดินทางด้วยรถไฟ และรถตู้ 

อยุธยาโชว์พลังก่อนเคลื่อนสู่กรุง
 
กลุ่มคนเสื้อแดงรักประชาธิปไตย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  จัดงาน"รวมพลังสู้ คู่ทักษิณ" ที่บริเวณด้านหน้าสำนักงานเทศบาลตำบลประตูน้ำพระอินทร์ราชา  อ.บางปะอิน เมื่อวันที่ 30 มกราคม เพื่อรวมพลคนเสื้อแดงจากภาคเหนือ กลาง และอีสานก่อนเดินทางเข้ากทม. มีคนเสื้อแดงประมาณ 3,000 คน เข้าร่วม ท่ามกลางการวางกำลังรักษาความสงบของตำรวจและ อส.เกือบ 200 นาย พร้อมทั้งตั้งด่านตรวจค้นรถยนต์ บนเส้นทางผ่านเข้างานเพื่อตรวจค้นอาวุธ และป้องกันเหตุร้าย
 
ที่จ.สุราษฎร์ธานี กลุ่มเสื้อแดง12 คน ที่เคยสนับสนุน นายภานุ ศรีบุษยกาญจน์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยรักไทย  จ้างเหมารถตู้ 1 คัน ออกจากบริเวณข้างโรงภาพยนตร์ลิโด เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี เข้ากทม.

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์