สาวซดยาหม้อ ผื่นแผลทั่วร่าง

ลูกจ้างสาวโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ป่วยเป็นงูสวัด แล้วกินยาหม้อจากร้านขายยาแผนโบราณชื่อดัง

ปรากฏเกิดอาการแพ้ยาขั้นรุนแรงจนหวิดสิ้นชื่อ เป็นที่เปิดเผยขึ้นหลังจากผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนว่า มีหญิงสาวรายหนึ่ง เกิดอาการแพ้ยาจากการรับประทานยาหม้อแผนโบราณ ทำให้ร่างกายมีผื่นขึ้นและเป็นแผลพุพอง ช้ำเลือดช้ำหนองไปทั้งตัว ร่างกายคล้ายมนุษย์ดักแด้ สร้างความทุกข์ทรมานเป็นอย่างมากและหญิงคนดังกล่าวได้เข้ารับการรักษาตัวอยู่ในห้องผู้ป่วยพิเศษ 1433 โรงพยาบาลตากสิน


ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบเมื่อบ่ายวันที่ 29 ม.ค. พบ น.ส.สมจิตร ประดับนาค อายุ 37 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 47/10 หมู่ 1 ซอยบางกระดี่ 43 ถนนบางกระดี่ แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. เป็นลูกจ้างประจำ แผนกพนักงานทั่วไปของโรงพยาบาลตากสิน นอนซมอยู่บนเตียงคนไข้ สภาพร่างกายตั้งแต่ใบหน้า ลำตัว แขน ขา มีแผลแดงช้ำและพุพองไปทั่ว แพทย์ได้ใช้วาสลินทาประกบรอยแผลเพื่อซับกันนํ้าเหลืองไหล โดยคนไข้เข้ารับการรักษาที่ รพ.ตากสิน เมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา 


น.ส.สมจิตรเล่าอย่างกระท่อนกระแท่น ถึงอาการว่าเมื่อวันที่ 6 ม.ค. ได้ป่วยเป็นโรคงูสวัดที่บริเวณแผ่นหลังและน่องด้านขวา

จึงไปปรึกษากับเภสัชกรที่ร้านขายยาแผนโบราณเวชพงศ์โอสถ ตั้งอยู่เลขที่ 145-149 สี่แยกวัดตึก ถนนจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ ทางร้านได้จัดยาให้ 2 ชุดด้วยกัน ชุดแรกเป็นยาบดผง บรรจุอยู่ในขวดพลาสติกขนาดเล็ก ระบุข้างขวดแต่เพียงว่ายาทา “ปุยจั้วซั้ว” ให้ใช้ผสมกับเหล้าขาว แล้วทาบริเวณที่เป็น เมื่อแผลหายให้ต้มยาแผนโบราณดื่มกินติดต่อกัน ชุดแรกทาแล้วรู้สึกว่าแผลเริ่มแห้ง ตกสะเก็ด ส่วนยาอีกชุดที่จัดมาให้เป็นยาแผนโบราณ บรรจุอยู่ในถุงกระดาษสีน้ำตาล ด้านในเต็มไปด้วยเปลือกไม้ ผิวไม้ และรากไม้ชนิดต่างๆปะปนอยู่ เมื่อแผลเริ่มหาย จึงนำยามาต้มและดื่มกินไปเมื่อเย็นวันที่ 14 ม.ค. ปรากฏว่าหลังจากนั้น เกิดอาการคันตามตัวและแผ่นหลัง ตอนเช้าวันที่ 15 ม.ค. คิดว่าไม่เป็นอะไรจึงดื่มยาต้มไปอีกแก้ว

ปรากฏว่าเกิดอาการปวดแสบร้อนตามตัว ใบหน้า แขน ขา และมีตุ่มผื่นขึ้นตามร่างกาย แต่อาการไม่ทุเลา

แถมผื่นแดงเริ่มลุกลามกลายเป็นแผลพุพอง ตลอดทั่วตามหนังศีรษะ หน้าตา และตามร่างกาย รีบเข้าปรึกษากับแพทย์ที่ รพ.ตากสิน แพทย์ วินิจฉัยว่าเกิดอาการแพ้ยาขั้นรุนแรง จึงไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่ สน.จักรวรรดิ
อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน นางอภิญญา เวชพงศา อายุ 68 ปี เจ้าของร้านเวชพงศ์โอสถ ได้ทราบเรื่องที่ น.ส.สมจิตรเกิดอาการแพ้ยาหม้อแผนโบราณได้เดินทางไปเยี่ยม น.ส.สมจิตร ที่โรงพยาบาลและได้แสดงน้ำใจมอบเงินช่วยเหลือจำนวน 75,000 บาท ให้ น.ส. สมจิตร พร้อมกับขอรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น

ซึ่ง น.ส. สมจิตรก็ไม่ติดใจเอาความ และกล่าวว่าอยากให้เป็นอุทาหรณ์ กับคนที่เป็นโรคงูสวัด

อย่าสุ่มเสี่ยงไปหาซื้อยามารับประทานเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ อาจจะเสียชีวิต แต่ตนโชคดี ที่ทำงานอยู่โรงพยาบาลและปรึกษาแพทย์ จนช่วยชีวิตไว้ทัน แต่ยังทรมานแสนสาหัส เนื่องจากแผลพุพองเริ่มแตก ตกสะเก็ด ผิวลอก ปวดแสบปวดร้อน และ แพทย์ยังให้รักษาตัวอยู่ต่อไปอีกจนถึงวันที่ 6 ก.พ. ส่วน ตัวยาแผนโบราณที่ทางร้านจัดมาให้ เมื่อสอบถามทางร้านได้บอกว่าเป็นตัวยาขับนํ้าเหลืองธรรมดา ประกอบด้วยรากไม้ 5 ชนิด คือ 1. รากข้าวยายหม่อม 2. รากชังชี้ 3. มะเดื่อชุมพร 4. รากคนฑา 5. รากหญ้านาง และต้นข้าวยายเหนือ ต้นข้าวยายใต้ 


ต่อมาผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นกับนางอภิญญา เวชพงศา เจ้าของร้านเวชพงศ์ฯ ได้รับการเปิดเผยว่า ร้านเปิดขายยามานานหลายสิบปี ไม่เคยเกิดเรื่องขึ้น

รายนี้นับว่าเป็น 1 ใน 100 ใน 1,000 ราย ตนขอรับผิดชอบทุกอย่างที่เกิดขึ้นและพร้อมจะนำตัวยาที่จ่ายให้คนไข้ไปตรวจสอบ ซึ่งเป็นยาแผนโบราณ จำพวกรากไม้ 5 ชนิด ซึ่งเป็นยาขับน้ำเหลืองธรรมดา ส่วนผู้จ่ายยาของร้านนั้นทุกคนเรียนจบเภสัชกรหมด รวมทั้งตนด้วย สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นวิบากกรรมของทางร้านและเสียใจต่อเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมชดใช้ค่ารักษาพยาบาลทุกอย่างที่ผู้ป่วยเรียกร้องไปแล้ว


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์