แฉ!! ปล้นแหม่ม

ชาวโครเอเชียที่หมู่บ้านเอ็มพีการ์เด้นโฮม หมู่ 4 ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เมื่อตอนตี 4 วันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา และข่มขืนภรรยาชาวเยอรมันกับลูกสาวของนายอัลเฟรดก่อนเอาทรัพย์สินไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนายบุญยงค์ คงศิริ อายุ 49 ปี กับหลานชายชื่อนายโกสินทร์ คงศิริ อายุ 25 ปี น.ส.วิไลวรรณ พึ่งฉาย อายุ 25 ปี ภรรยานายโกสินทร์ และนางปลิว สืบลำ อายุ 54 ปี ภรรยานายบุญยงค์ที่ทำงานเป็นแม่บ้านของนายอัลเฟรด

ส่วนที่หลบหนีไปคือนายชาญณรงค์ คงศิริ อายุ 26 ปี ลูกชายนายบุญยงค์ สำหรับสาเหตุมาจากนายชาญณรงค์ไม่พอใจนายอัลเฟรดที่ว่าจ้างให้คอยคุ้มกัน หรือเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัว แต่ไม่ยอมจ่ายค่าจ้างให้เป็นเงินกว่า 700,000 บาท ขณะที่นางปลิว แม่บ้านของนายอัลเฟรดก็ไม่ได้รับเงินเดือนเหมือนกัน เลยร่วมลงมือปล้นแก้แค้น

พ.ต.ท.จิระชัย เย็นทรวง รอง ผกก.สส. สภ.อ.ธัญบุรี นำนายโกสินทร์ คงศิริ น.ส.วิไลวรรณ พึ่งฉาย และนางปลิว สืบลำ ไปฝากขังยังศาลจังหวัดธัญบุรี และนำกลับมาควบคุมที่โรงพัก ขณะเดียวกันให้ผู้เสียหายคือนางมิเชลกับลูกมาดูของกลางที่ตามคืนมาได้ส่วนหนึ่งและให้ชี้ตัวคนร้าย ซึ่งนางมิเชลชี้ตัวยืนยันได้ทุกคน

นำตัวคนร้ายทั้งหมดไปทำแผนประทุษกรรมประกอบคำรับสารภาพ โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ นปพ.ปทุมธานี 30 นาย คอยป้องกันไม่ให้ประชาชนเข้ารุมเล่นงาน เริ่มจากประชุมวางแผนกันที่บ้านนายบุญยงค์ที่บ้านไม่มีเลขที่ซอยจรัญสนิทวงศ์ 85 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางอ้อ เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร ก่อนไปที่บ้านนางมิเชล

เมื่อไปถึงเรียกนางปลิวให้เปิดประตูรับแล้วทำทีจับนางปลิวมัดขังในห้องนอนชั้นล่าง แล้วนายบุญยงค์ กับนายชาญณรงค์ขึ้นไปห้องนอนชั้น 2 ข่มขืนนางมิเชลกับลูกสาว ส่วนนายโกสินทร์ค้นหาทรัพย์สิน แต่นายบุญยงค์ยังไม่สำเร็จความใคร่จึงลงไปพาตัวนางปลิวขึ้นมาชั้นบนไปร่วมเพศในห้องน้ำจนเสร็จแล้วขนของมีค่าออกมานอกบ้านเรียกรถแท็กซี่ไปส่งที่บ้านซอยจรัญสนิทวงศ์ 85 แบ่งทรัพย์สินกันก่อนแยกย้ายหลบหนี ขณะเดียวกันนายบุญยงค์นำของกลางบางส่วนไปทิ้งคลองข้างบ้าน

คนร้ายไม่พอใจที่ไม่ได้เงินเดือนเลยลงมือปล้นและข่มขืน สำหรับนางมิเชลบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าดีใจที่จับกุมคนร้ายได้และจะอาศัยอยู่ในเมืองไทยต่อไป ส่วนสามีนั้นยังอยู่ในไทย ติดต่อกันทางโทรศัพท์ โดยยังไม่ยอมบอกว่าสามีประกอบธุรกิจอะไร อย่างไรก็ตาม ได้ตรวจสอบประวัติทราบว่าชื่อนายวิกสัน เช็กโก้ เป็นชาวโครเอเชีย เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ต.ปลายบาง อ.เมืองนนทบุรี จับกุมตามหมายจับกุมข้อหาฉ้อโกงเมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2549

นายวิกสันชวนชาวต่างชาติมาร่วมลงทุนเปิดบริษัทสั่งยาสูบจากต่างประเทศมาจำหน่ายแล้วปิดบริษัทหนี ผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่กองปราบปรามข้อหาฉ้อโกงกว่า 20,000,000 บาท หลังถูกจับใช้เงินสด 1,000,000 บาทประกันตัวแล้วหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าค้นบ้านพบเงินในตู้เซฟ 8,000,000 บาท ต่อมานายวิกสันเจรจากับผู้เสียหายจนบางรายตกลงกันได้ แต่มีหลายรายที่ยังแจ้งความดำเนินคดีอยู่ นอกจากนี้ยังหลอกชาวต่างชาติว่ามีเงินต่างชาติหลายสกุลขายในราคาถูก

ฝ่ายสืบสวนเร่งติดตามจับกุมอย่างเต็มที่ คาดว่าจะได้ตัวเร็วๆนี้ หากจับได้จะทำให้ทราบข้อมูลของนายวิกสันเนื่องจากนายชาญณรงค์เคยเป็นคนคุ้มกันให้

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ