สาวกระโดดสะพานติณฯสลบ 3 วัน-อาการสาหัส

คิดมากว่าตัวเองเป็นส่วนเกินของบ้าน เลยตัดสินใจฆ่าตัวตายหนีปัญหา

แต่ถึงแม้จะลองทำติดต่อกันถึง 3 ครั้ง 3 หน สุดท้ายก็รอดตายมาได้อย่างหวุดหวิดทุกรอบ

นอกเหนือจากการกระโดดสะพานติณฯ แล้ว "ปุ๊กกี้" ยังเคยทดลองฆ่าตัวตายด้วยวิธีอื่นมาแล้ว เช่น การกินยาฆ่าตัวตาย แต่ก็มีคนมาช่วยไว้ได้อีกตามเคย

ไม่มีใครนึกโกรธโทษเธอ เพราะทุกคนรู้ว่า "ปุ๊กกี้" มีอาการทางประสาท เนื่องจากมีปัญหาครอบครัว เป็นคนขี้น้อยใจ ชอบคิดมาก ต้องเข้า-ออกโรงพยาบาลอยู่หลายครั้งหลายหน กว่าจะกลับมาพักผ่อนอยู่บ้านในฐานะคนป่วยไม่มีงานทำ และไม่ได้ร่ำเรียนหนังสือเหมือนกับคนอื่น

ความเครียดทำให้เธอคิดสั้น

จู่ๆ ก็มีรถจักรยานยนต์รับจ้างเอาจดหมายฉบับหนึ่งมาให้นางอารีย์ ลาดเมืองขวาง อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 236 ถนนริมทางรถไฟนอก อ.เมือง จ.สงขลา และน.ส.นารีณี สุภาวรรณ อายุ 21 ปี แม่กับน้องสาวของปุ๊กกี้ถึงบ้านพัก

เมื่อเปิดจดหมายออกดูทุกคนแทบช็อก เพราะเนื้อหาในจดหมายเป็นข้อความลาตายเขียนโดยลายมือปุ๊กกี้ เขียนขอโทษแม่ที่ต้องทำอย่างนี้ และยังระบายความน้อยเนื้อต่ำใจ คิดว่าตัวเองเป็นส่วนเกินของบ้าน ไม่มีใครรักจึงต้องตัดสินใจฆ่าตัวตาย


จดหมายฉบับดังกล่าวยังแนบใบรับจำนำโทรศัพท์มือถือ เป็นเงิน 1,000 บาทมาด้วย โดยเงินจำนวนนี้ปุ๊กกี้ซื้อรองเท้าให้หลาน 2 คู่และไก่เคเอฟซี 1 กล่อง นอกจากนี้ ในซองจดหมายยังมีภาพถ่ายปุ๊กกี้ใส่เสื้อยืดคอกลมสีเขียวตองอ่อน เขียนด้านหลังว่า "เอารูปนี้ใส่ฉากหน้าศพนะคะ" ลงชื่อ น้องปุ๊กกี้

ทุกคนในบ้านอึ้งไปเมื่ออ่านจดหมายจบ

สองแม่ลูกละล่ำละลักสอบถามรายละเอียดจากคนขับมอเตอร์ไซค์ ได้ความว่าเพิ่งพาปุ๊กกี้ไปส่งที่สะพานติณสูลานนท์เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา โดยพาไปส่งที่สะพานติณสูลานนท์ช่วงแรก เชื่อมต่อระหว่างตำบลพะวงกับตำบลเกาะยอ จากนั้นก็ขับรถกลับมาพร้อมจดหมาย 1 ฉบับที่ผู้โดยสารจ้างให้มา

เมื่อได้ยินดังนั้นทุกคนจึงมุ่งตรงไปที่สะพานติณฯ

ไปถึงก็ต้องพบกับความว่างเปล่า!??

อึดใจเดียวพ.ต.อ.งามศักดิ์ เกื้อจรูญ ผกก.สภ.อ.เมืองสงขลา พ.ต.ต.ถาวร ผลกล้า สว.ป. และพ.ต.ท.รุ่งโรจน์ อุสมา สารวัตรเวรสภ.อ.เมืองสงขลา จึงนำกำลังตำรวจและหน่วยกู้ภัยเดินทางมาถึง


นาทีนั้นทุกคนทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการชะโงกหน้าลงไปดูใต้สะพานท่ามกลางความมืด เจ้าหน้าที่ประสานขอเรือจากตำรวจน้ำมาช่วยค้นหา แต่ก็ไม่พบร่างปุ๊กกี้ เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงจึงต้องล้มเลิกแผนการค้นหาไปโดยปริยาย รอรุ่งเช้าค่อยเริ่มต้นค้นหากันใหม่

ความหวังเริ่มเลือนรางลงไป เพราะโอกาสที่ปุ๊กกี้จะรอดตายดูเหมือนจะเหลือน้อยลงไปทุกที ด้วยเพราะความสูงของสะพานติณฯ บวกกับความลึกของทะเลสาบสงขลา น่าจะกลืนร่างเธอให้จมหายไปใต้กระแสน้ำ

แต่แล้วทุกอย่างก็กลับตาลปัตร เมื่อ 3 วันต่อมาตำรวจได้รับการประสานจากทางโรงพยาบาลสงขลา ว่ามีผู้ป่วยหญิงไร้ญาติกระโดดสะพานติณสูลานนท์ ถูกนำส่งตัวมารักษาพยาบาลก่อนหน้านี้ พลเมืองดีช่วยชีวิตไว้เมื่อกลางดึกวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะนี้ยังนอนพักรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู

นางอารีย์จึงรีบเดินทางไปที่โรงพยาบาลสงขลาทันที เมื่อไปถึงจึงพบว่าหญิงคนดังกล่าวคือปุ๊กกี้

หัวอกคนเป็นแม่ถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่



ถึงปุ๊กกี้จะรอดตาย แต่อาการเธอก็ยังอยู่ในขั้นน่าห่วง แพทย์ต้องดูอาการอย่างใกล้ชิดอยู่ในห้องไอซียู

เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสงขลาคนหนึ่ง เปิดเผยว่า กลางดึกของคืนวันที่ 30 มิ.ย. มีพลเมืองดีซึ่งไปตกปลาใกล้สะพานติณสูลานนท์ นำร่างของปุ๊กกี้มาส่งในสภาพหมดสติ โดยแจ้งว่าผู้หญิงคนนี้กระโดดจากสะพานลงมาจึงได้ลงไปช่วย เมื่อค้นหาหลักฐานในตัวก็ไม่พบ จึงไม่สามารถติดต่อญาติได้

อาการของปุ๊กกี้บอบช้ำมาก นอนไม่ได้สติอยู่ในห้องไอซียูนานหลายวัน และคงต้องใช้เวลาพักฟื้นร่างกายอีกยาวนานกว่าจะได้สติ หรือถ้าร้ายไปกว่านั้นก็อาจจะไม่ดีขึ้น

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เพราะน้อยคนนักที่จะรอดตายจากการกระโดดสะพานแห่งนี้ ที่สำคัญ เธอกระโดดมาแล้วถึง 3 ครั้งติดต่อกัน แต่ก็รอดตายมาได้ทุกครั้ง

ปุ๊กกี้เคยมากระโดดสะพานติณสูลานนท์มาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกญาติๆ ช่วยไว้ทัน ครั้งที่ 2 คนงานก่อสร้างที่กำลังสร้างสะพานคู่ขนานได้กระโดดลงไปช่วยไว้ได้ นอกจากนี้ ยังเคยกินยาฆ่าตัวตายมาแล้วครั้งหนึ่งแต่ก็ช่วยได้ทันอีก มาครั้งนี้กระโดดสะพานเป็นครั้งที่ 3 และรอดมาได้ ก็หวังว่าเรื่องร้ายๆ จะหมดไปจากปุ๊กกี้เสียที นางอารีย์กล่าว

และถึงตอนนี้ก็ยังหวังว่าปุ๊กกี้จะฟื้นกลับคืนมา

เหมือนกับความหวังของแม่ทุกคนที่มีกับลูก



แหล่งที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด