เสี่ยเต้นท์รถ คว้าปืนจ่อขมับใต้พระบรมรูปทรงม้า

อาการสาหัสปางตาย พ่องงธุรกิจเต้นท์รถลูกชายกำลังไปได้สวย ไม่รู้ยิงตัวเองเรื่องอะไร ตำรวจพบมีข้อความในมือถือจากหญิงส่งมาต่อว่าไม่มารับเสียที เตรียมเรียกสอบหาสาเหตุที่แท้จริง

เมื่อเวลา 23.15 น.วันที่ 3 ก.ค.ร.ต.ท.อภิชาน ครามสูงเนิน ร้อยเวร สน.ดุสิต รับแจ้งมีเหตุชายยิงตัวตายที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า แขวงและเขตดุสิต กทม. จึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุทันที แต่พบเพียงกองเลือดกระจัดจายไปทั่วบริเวณฐานด้านหลังพระบรมรูปทรงม้า ใกล้กันพบอาวุธปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่ 1 กระบอก และโทรศัพท์มือถืออีก 1 เครื่อง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้บาดเจ็บทราบว่า ถูกนำตัวส่งร.พ.วชิรพยาบาลไปก่อนหน้านี้แล้วจึงตามไปตรวจสอบ

อยู่บ้านเลขที่ 36/100 หมู่ 6 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวธปืนขนาด 9 ม.ม.เข้าที่บริเวณขมับขวาทะลุซ้าย อาการสาหัส

จากการสอบถาม ด.ช.กัมปนาท สุขแสน อายุ 14 ปี เด็กขายพวงมาลัยบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองกำลังขายพวงมาลัยอยู่ตามปกติ จนกระทั่งเวลาประมาณ 22.30 น.ก็เห็นชายคนดังกล่าวเดินเข้าไปนั่งพับเพียบอยู่ที่บริเวณฐานด้านหลังแท่นของพระบรมรูปทรงม้าด้วยอาการเหม่อลอยอย่างเห็นได้ชัด สักพักหยิบโทรศัพท์มาคุย แล้วก็สูบบุหรี่ จึงไม่ได้สนใจอะไร กระทั่งเวลาผ่านไปนานประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด จึงรีบวิ่งมาดู ก็พบว่าชายคนดังกล่าวล้มฟุบลงไป จากนั้นก็มีคนนำส่งโรงพยาบาล

ต่อมาได้มีนายภิเทพ เชื้อชาญวงศ์ อายุ 60 ปี พ่อของผู้บาดเจ็บพร้อมญาติๆ เดินทางมายังโรงพยาบาลเพื่อดูอาการของลูกชาย ก่อนจะเปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 22.00 น.ลูกชายมาบอกตนว่า จะออกไปกินก๋วยเตี๋ยวนอกบ้านแล้วก็ได้เรียกแท๊กซี่ออกไป จนกระทั่งมารู้เรื่องอีกทีก็มีคนแจ้งว่า ลูกชายใช้อาวุธปืนยิงตัวเอง จึงรีบมาที่โรงพยาบาล

อยู่ใกล้สมาคมชาวปักษ์ใต้ ซึ่งธุรกิจก็กำลังราบรื่นไปด้วยดี จึงรู้สึกงงกับเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะปกติลูกชายเป็นคนร่าเริง ไม่เล่นการพนัน ไม่ทราบว่าสาเหตุใดที่ทำให้ลูกชายมายิงตัวเอง

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบโทรศัพท์ของนายอภิศักดิ์ ก็พบว่า มีผู้หญิงส่งข้อความมาหาเข้ามาที่โทรศัพท์ มีเนื้อความต่อว่า นายอภิศักดิ์ว่าทำไม่ไม่มารับเสียที ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบว่า นายอภิศักดิ์โทรหาใครและมีใครโทรเข้ามาหาเป็นคนสุดท้าย ก่อนจะก่อเหตุดังกล่าวขึ้น เพื่อเชิญตัวมาสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป



แหล่งที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด