ทุบเก๋งฉกทรัพย์ทั่วกรุง ที่แท้นศ.-โปรแกรมเมอร์

ตร.รวบ 2 คนร้าย แก๊งทุบกระจกรถฉกทรัพย์สินมีค่า เผยเป็นนักศึกษา-โปรแกรมเมอร์

ติดยาไอซ์งอมแงม จับกุมตั้งแก๊งทุบกระจกรถเก๋งฉกทรัพย์ ทั่วกรุง รับทำมาแล้วกว่า 11 ครั้ง เลือกเฉพาะรถหรูไม่ติดฟิลม์กรองแสงเพื่อความง่ายในการก่อเหตุ ขนาดเจ้าหน้าที่กรมพัฒนาที่ดินระดับ 9 เอารถไปจอดในห้างดังย่านลาดพร้าว ยังกล้าทำ ตร.สืบสวนนครบาล 5 เร่งตามล่าเพื่อนร่วมแก๊งที่ยังหลบหนีอีก 7 คน

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 25 พ.ย. พล.ต.ต.โชคชัย ดีประเสริฐวิทย์ ผบก.น.5 พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา ผกก.สส.บก.น.5 พ.ต.ท.เอกวีร์ พงศ์สร้อยเพ็ชร รองผกก.สส.บก.น.5 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม

นายกฤชนันท์ หรือ "ต้น" อัครวงศ์วิฑูรย์ อายุ 24 ปี นักศึกษาปีที่ 4 คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง อยู่บ้านเลขที่ 160 ซอยลาดพร้าว 58 แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. และนายกฤษณ์ หรือ "ต่อ" ลิ่มจุฬารัตน์ อายุ 29 ปี อาชีพโปรแกรมเมอร์ อยู่บ้านเลขที่ 34/202-203 หมู่ 10 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม.เป็นผู้ต้องหาคดีร่วมกันทุบกระจกรถยนต์เพื่อลักทรัพย์ จับกุมได้พร้อมของกลาง ยาไอซ์ น้ำหนัก 2.8 กิโลกรัม ยาไดอาซีแพม 34 เม็ด เครื่องกระสุนปืนไม่ทราบขนาด 5 นัด รถเก๋งยี่ห้อมาสด้า 3 หมายเลขทะเบียน สช-2299 กทม. 1 คัน คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 2 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง และเครื่องมืองัดแงะอีก 1 ชุด

โดยสามารถติดตามจับกุมนายกฤชนันท์ได้ที่กลางซอยลาดปลาเค้า แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน ส่วนนายกฤษณ์ถูกจับกุมได้ที่ซอยอารีย์สัมพันธ์1 พหลโยธิน 5 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี

พ.ต.อ.สมบัติ กล่าวว่า สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ประชาชนในพื้นที่ บก.น.5 หลายรายเข้าร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ กก.สืบสวน บก.น.5 ว่า ได้รับความเดือดร้อนจากการที่มีกลุ่มคนร้ายตระเวนลักทรัพย์ โดยวิธีการทุบกระจกรถยนต์แล้วนำเอาทรัพย์สินไป โดยเลือกเฉพาะรถยนต์ที่มีราคาแพง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน บก.น.5 จึงลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวจนทราบว่าคนร้ายกลุ่มดังกล่าวมีพฤติการณ์ในการออกตระเวนลักทรัพย์ โดยนำรถยนต์ของตนเองเป็นพาหนะในการหาเหยื่อ โดยเลือกเฉพาะรถยนต์ที่มีราคาแพง ฟิล์มกระจกรถใส เพื่อสะดวกต่อการใช้ดอกสว่าน หรือไขควงทุบทำลายกระจก เมื่อกระจกร้าว ก็จะใช้ถุงมือที่เตรียมมาสวมใส่แล้วผลักกระจกให้แตกออก จากนั้นจึงเอาทรัพย์สินที่มีค่าภายในรถไป

"คนร้ายกลุ่มนี้ได้ตระเวนก่อเหตุในพื้นที่ต่างๆ มากมาย โดยมักเลือกช่วงเวลากลางคืนเพื่อความสะดวกในการลงมือ ก่อนถูกจับกุมก็ตระเวนลักทรัพย์ในลักษณะนี้มา 11 ครั้ง ล่าสุดได้ลักทรัพย์จากรถเบนซ์ ของนางชมพร โลห์วัชรินทร์ เจ้าหน้าที่กรมพัฒนาที่ดิน ระดับ 9 ซึ่งจอดไว้ที่บริเวณลานจอดรถห้างคาร์ฟูร์ สาขาลาดพร้าว ภายหลังจากได้ทรัพย์สินไปแล้วก็จะนำเอาไปแลกยาไอซ์มาเพื่อเสพกันในกลุ่ม หรือไม่ก็เอาเงินแบ่งกันเอาไปเที่ยวผู้หญิง จนกระทั่งตำรวจได้เบาะแสว่า นายต้น และ นายต่อ มีส่วนร่วมกับการก่อเหตุด้วยจึงรีบนำกำลังไปติดตามจับกุมตัวไว้ได้ในที่สุด และขณะนี้ก็กำลังขยายผลเพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่กำลังหลบหนีอยู่อีกประมาณ 7 คน" พ.ต.อ.สมบัติกล่าว

จากการสอบสวน นายกฤชนันท์ ให้การรับสารภาพว่า ตนเองมีหน้าที่ขับรถยนต์เพื่อจอดเทียบรถเป้าหมาย ก่อนที่นายกฤษณ์ และเพื่อนฝูงในกลุ่มอีก 7 คน จะช่วยกันลงมือก่อเหตุ

โดยตนเพิ่งตัดสินใจเข้ากลุ่มมาร่วมลักทรัพย์ได้ประมาณ 6 เดือน ที่ทำไปเพราะความคึกคะนอง และเงินที่ได้รับจากทางบ้านก็ไม่เพียงพอสำหรับการซื้อยาไอซ์มาเสพซึ่งบางครั้งทรัพย์สินที่ได้มาหากไม่ไปแลกเป็นยาไอซ์ ก็จะได้ค่าตอบแทนในความร่วมมือครั้งละ 1,000 -2,000 บาท โดยหัวหน้ากลุ่มคือ นายเอสและนายเอก ที่กำลังหลบหนีอยู่จะเป็นผู้มอบให้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร แก่ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ส่วนนายกฤษณ์ ถูกแจ้งเพิ่มเติมในข้อหามียาไอซ์ ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย, มียาไดอาซีแพม ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย, มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพกพาเครื่องกระสุนปืนเข้าไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนควบคุมตัวทั้ง 2 ราย ส่งพนักงานสอบสวนแต่ละท้องที่เพื่อดำเนินการต่อไป

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์