ฆ่ารัดคอโหดคาร้าน สาวโอเกะเชียงใหม่

ฆ่ารัดคอสาวเจ้าของร้านคาราโอเกะเชียงใหม่ ทิ้งศพไว้คาพื้นร้านทั้งคืน

รุ่งเช้าลูกชายผู้ตายวัย 10 ขวบตื่นมาเจอ แฉผู้ต้องสงสัยเป็นลูกค้านักเที่ยวชาวอาข่า อาชีพขับสามล้อรับจ้าง มาดื่มกินพูดคุยกับผู้ตายจนปิดร้านก็ไม่ยอมกลับ จนพนักงานอื่นๆกลับหมด เหลือกันอยู่สองต่อสอง จนมีปากเสียงกันขึ้นมา ใช้เข็มขัดหนังรัดคอดับอนาถ

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 19 พ.ย. พ.ต.ท.ชาญวิทย์ แต้ประจิตร สารวัตรเวร สภ.เมือง จ.เชียงใหม่

รับแจ้งเหตุมีหญิงถูกฆ่าเสียชีวิตในร้านต้นเงิน คาราโอเกะ เลขที่ 113 ถ.เวียงพิงค์ ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียง ใหม่ หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.สมพล อัครเดโชชัย รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ แพทย์จากโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน วิทยาการเขต 32 เชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่กู้ภัย พบศพน.ส.วิมลฉาย ทองสุข อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 162 หมู่ที่ 3 ต.ฟ้าฮ่าม อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นอนเสียชีวิตอยู่ที่พื้นในร้าน สภาพศพสวมเสื้อกล้ามสีเหลือง กางเกงยีนส์ มีเสื้อกันหนาวสีดำห่มทับตัวไว้ ที่คอมีเข็มขัดหนังสีดำรัดจนแน่น โดยมีด.ช.ณัฐวุฒิ เชตุใย อายุ 10 ขวบ ลูกชายของผู้ตายนั่งร้องไห้อยู่ข้างศพ ในร้านไม่พบร่องรอยของการต่อสู้

จากการสอบสวนด.ช.ณัฐวุฒิให้การทั้งน้ำตาด้วยเสียงสั่นเครือว่า แม่ของตนแยกทางกับพ่อเมื่อหลายปีมาแล้ว จากนั้นก็เลี้ยงดูตนเรื่อยมา

โดยเปิดร้านคาราโอเกะที่เกิดเหตุ และเป็นองค์ทรงเจ้าของพ่อศิวะด้วย เพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว เมื่อคืนที่ผ่านมาตนเข้าไปนอนหลับตั้งแต่ 20.00 น. มาสะดุ้งตื่นประมาณ 02.00 น. พบว่าไฟในร้านยังเปิดอยู่ คิดว่าแม่คงจะคุยกับลูกค้าอยู่ จึงไม่สนใจและเข้านอนต่อ กระทั่งตื่นมาตอนเช้าต้องไปโรงเรียน พบว่าแม่นอนอยู่ที่ประตูทางเข้าร้าน จึงรีบเข้าไปดูพร้อมทั้งเรียกแม่ๆ และเขย่าตัวอยู่นาน ก็ไม่มีเสียงตอบ พบว่าตัวเริ่มแข็งแล้วจึงคิดว่าแม่ถูกคนฆ่าตายแน่นอน จึงรีบวิ่งเข้าไปที่ห้องนอนแล้วกดโทรศัพท์แจ้ง 191 กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดู

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่สอบปากคำพยานแวดล้อมในสถานที่เกิดเหตุ รวมถึงพนักงานที่ทำงานในร้านให้การว่า

ก่อนหน้านี้มีผู้ต้องสงสัย คือนายสมบุญ จูต้อง อายุ 34 ปี ชาวเขาเผ่าอาข่า อาชีพขับรถสามล้อรับจ้าง ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นแอลเอส 125 สีขาว จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ เข้ามาจอดตั้งแต่เวลา 19.00 น. จากนั้นก็กลับออกไปบอกว่าจะไปอาบน้ำ เมื่อถึงเวลา 00.15 น. ก็กลับเข้ามาในร้านอีก และนั่งดื่มเหล้าอยู่หน้าร้าน จนถึงเวลาร้านปิด นายสมบุญก็ยังนั่งต่ออีก น.ส.วิมลฉายจึงอยู่ดูแล เพราะพนักงานที่ทำงานอยู่ขอตัวกลับก่อน เหลือนายสมบุญกับผู้ตายเพียงสองคนเท่านั้น

ต่อมาทางพนักงานของร้านคาราโอเกะจ้าวหมู่ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เห็นว่าทั้งคู่เกิดการทะเลาะกัน หลังจากที่พนักงานในร้านกลับออกไปได้สักพัก

และนายสมบุญก็ได้ลงมือทำร้ายด้วยการบีบคอของน.ส.วิมลฉาย แล้วลากไปที่ประตูร้านที่ปิดไว้ครึ่งหนึ่งแล้วก็ลงมือก่อเหตุต่อ ครู่หนึ่งนายสมบุญออกจากร้านกลับออกไป พยานให้การต่อว่า จากนั้นเวลา 05.00 น. นายสมบุญได้ปั่นจักรยานย้อนกลับมาที่ร้านอีกครั้ง จากนั้นเดินเข้าไปในร้านเพื่อปิดไฟ และล็อกกุญแจประตูร้านก่อนจะรีบปั่นจักรยานหลบหนีไป หลังจากการสอบสวนพยานแวดล้อมต่างๆ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า สาเหตุมาจากเรื่องชู้สาว เพราะผู้ตายนั้นได้เลิกกับสามีเก่านานแล้ว ต่อมานายสมบุญมาติดพัน แต่ผู้ตายไม่ยอมเล่นด้วย กระทั่งช่วงเกิดเหตุเกิดการทะเลาะวิวาทกันอย่างรุนแรง นายสมบุญคงโมโหจึงลงมือฆ่า แต่ด้วยความที่ยังรักผู้ตายอยู่จึงนำเบาะรองนั่งมาเป็นหมอน และจัดตัวผู้ตายให้เหมือนกับท่านอนหลับปกติ แล้วก็รีบหนีไปดังกล่าว โดยในทางสืบสวนทราบว่าช่วงเช้านายสมบุญยังได้ไปส่งลูกเรียนหนังสือแล้วก็หายไป จะได้ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์