คืบหน้าเผาโหด ดาวร.ร. รักคุดแค้นไม่เล่นด้วย

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 29 ต.ค. นายสมชัย หทยะตันติ ผวจ.พิจิตร พร้อมด้วยนายสุรเสน ทั่งทอง ผอ.สพท.พิจิตร เขต 1 และ นพ.ประจักษ์ วัฒนกุล สาธารณสุขจังหวัดพิจิตร

เข้าเยี่ยมอาการของ  น.ส.กนกวรรณ  คงเมือง  อายุ  17  ปี  บ้านเลขที่  143 หมู่ 14 ต.เนินสว่าง อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร เป็นนักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนสระหลวงพิทยาคม อ.เมืองพิจิตร ที่นอนพักรักษาอยู่ที่ห้อง 304 อาคารเฉลิมพระเกียรติ รพ.พิจิตร หลังได้รับรายงานว่า น.ส.กนกวรรณถูกคนร้ายราดน้ำมันเบนซินใส่ร่างแล้วจุดไฟเผาได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษามาตั้งแต่วันที่  25  ต.ค. ที่ผ่านมา  พบว่า น.ส.กนกวรรณยังนอนซมด้วยพิษบาดแผลอยู่บนเตียงผู้ป่วยในสภาพสลดหดหู่ใจอย่างยิ่ง  สภาพใบหน้าถูกไฟคลอกจนผิวหนังไหม้เกรียม  บางส่วนหลุดล่อนออกมาจนแทบจำเค้าเดิมไม่ได้  นอกจากนี้ บริเวณเนินอก  และลำตัว  แขนขา มีบาดแผลพุพองจากการถูกไฟคลอกเช่นกัน แพทย์ต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด

หลังสอบถามอาการแล้วนายสมชัย กับนายสุรเสนมอบเงินส่วนตัวช่วยเหลือเบื้องต้นคนละ 2,000  บาท  พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด 


นายสำเนียง คงเมือง อายุ 44 ปี พ่อของ น.ส.กนกวรรณ เปิดเผยถึงความโหดเหี้ยมที่เกิดขึ้นกับลูกสาวว่าปกติลูกสาวเป็นคนหน้าตาดี เรียนเก่ง เป็นที่รักใคร่ของ เพื่อน  ทุกครั้งที่โรงเรียนจัดกิจกรรมลูกสาวจะได้รับการคัดเลือกให้เป็นคนถือป้าย  เรียกว่าเป็นดาวประจำโรงเรียนคนหนึ่ง  ก่อนหน้านี้  น.ส.กนกวรรณเคยมาเล่าให้ฟังว่ามีนายสุรศักดิ์ หรือแจ๊ค พูลแย้ม อายุ 24 ปี หนุ่มคนงานก่อสร้างอยู่หมู่บ้านใกล้เคียง คอยตามจีบ ตามตื๊อขอแต่งงานและพยายามชวนหนีไปอยู่ด้วยกัน แต่ น.ส.กนกวรรณไม่เล่นด้วย ตอบปฏิเสธ เพราะยังเรียนไม่จบ ตนได้แต่คอยเตือนสติลูกสาวให้ทำตัวห่างๆไว้ เพราะอยากให้เรียนสูงๆ มีอนาคตที่ดี



กระทั่งวันเกิดเหตุคือวันที่ 25 ต.ค. เวลาประมาณ 15.00 น. น.ส.กนกวรรณขออนุญาตออกจากบ้านไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่งหน้าที่ว่าการอำเภอโพธิ์ประทับช้าง

โดยขี่รถจักรยานยนต์และชักชวนนางวัชรี มีเมืองตูม อายุ 28 ปี เพื่อนบ้าน อุ้มลูกสาววัย 2 ขวบ นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปเป็นเพื่อนด้วย กระทั่งมาทราบว่าเกิดเหตุร้ายกับลูกสาว
ขณะเดียวกันสอบถามนางวัชรี ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์เล่าให้ฟังว่า หลัง น.ส.กนกวรรณกดเงินเสร็จแล้ว ได้พากัน ขี่รถกลับบ้านไปตามถนนสายโพธิ์ประทับช้าง-ทุ่งใหญ่ ระหว่างทางพบนายสุรศักดิ์ หนุ่มก่อสร้างที่แอบหลงรักขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ แซงซ้ายแซงขวาขอความรัก แต่ น.ส.กนกวรรณไม่เล่นด้วย เร่งความเร็วรถหนี ทำให้นายสุรศักดิ์ไม่พอใจ ขี่รถไล่ติดตามไปทัน ใช้เท้าถีบรถจักรยานยนต์ของ น.ส.กนกวรรณล้มลง นางวัชรีกับลูกสาวกระเด็นไปอีกทาง ส่วน น.ส.กนกวรรณถูกรถล้มทับร่าง

จากนั้นนายสุรศักดิ์จอดรถเอาน้ำมันเบนซินบรรจุอยู่ในขวดเบียร์ที่เตรียมมาเทราดใส่ร่างของ  น.ส.กนกวรรณจนเปียกชุ่ม แล้วจุดไฟแช็กเผา

เกิดเปลวเพลิงลุกท่วมร่าง น.ส.กนกวรรณถึงกับดิ้นพล่านร้องโหยหวนเกลือกกลิ้งไปมาด้วยความเจ็บปวดทรมาน  พยายามใช้มือดันรถจักรยานยนต์ออกจากร่าง แล้ววิ่งกระเสือกกระสนกระโดดลงไปในคูน้ำริมถนนเพื่อดับไฟ ส่วนนายสุรศักดิ์หลังก่อเหตุขี่รถหลบหนีจึงขอความช่วยเหลือชาวบ้านนำร่าง น.ส.กนกวรรณที่อยู่ในสภาพร่อแร่ส่ง รพ.โพธิ์ประทับช้าง แต่เนื่องจากอาการสาหัสมาก  แพทย์ส่งต่อไปที่  รพ.พิจิตร  ช่วยเหลือชีวิตเป็นการด่วน พร้อมกับเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.นคร สายอุดร้อยเวร สภ.โพธิ์ประทับช้าง ดำเนินคดีกับนายสุรศักดิ์


นายสมชัย หทยะตันติ ผวจ.พิจิตร กล่าวว่า การกระทำของผู้ต้องหารายนี้ถือว่าโหดร้ายมาก ได้กำชับให้ตำรวจเร่งติดตามมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด

ส่วนอาการของ น.ส.กนกวรรณ กำชับทางนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดดูแลเป็นพิเศษ รวมทั้งประสานเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมมาดูแลต่อไป ในขณะที่ นพ.ประจักษ์ วัฒนกุล สาธารณสุขจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า อาการของ น.ส.กนกวรรณพบว่าเซลล์ผิวหนังตายเป็นบางส่วน ต้องพักฟื้นอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 3 เดือน แต่ยังไม่ยืนยันว่าหลังบาดแผลหายแล้วหน้าตาจะกลับมาดีเหมือนเดิม ตอนนี้ให้ผู้ป่วยอยู่ในห้องปลอดเชื้อ แพทย์จะให้การดูแลรักษาอย่างดีที่สุด


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์