เศรษฐินีโวยเศรษฐี อ้างลักเรือยอชต์

เรื่องวุ่นๆของมหาเศรษฐีเศรษฐินี พันล้านเจ้าของโครงการตลาดน้ำ 4 ภาคพัทยา

แจ้งจับเสี่ยหนุ่มคู่กรณี กล่าวหาขโมยเรือยอชต์ลำหรูราคาหลายล้านบาทพร้อมประกาศให้รางวัลคนที่นำเรือยอชต์กลับคืนมาได้ 5 หมื่นบาท เผยก่อนหน้านี้ไปซื้อเรือยอชต์พร้อมบ้านมาจากเจ้าของเดิม แต่ไม่ได้ไปเฝ้า จู่ๆ กลับมาดูเรือยอชต์เกิดหายไปอย่างไร้วี่แวว สงสัยญาติเจ้าของเก่ามาแอบตัดเชือกเอาเรือไป แจ้งตร.จับทันที ด้านตร.ออกหมายเรียกมารับทราบข้อหา หากไม่มาเจอหมายจับแน่ๆ

เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุคนร้ายขโมยเรือยอชต์สุดหรู มูลค่าหลายล้านบาท ของนางวะริดา แซ่อึ้ง อายุ 34 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 107/40 หมู่บ้านจอมเทียนยอชต์คลับ 3 ม.1 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เศรษฐินีพันล้านเจ้าของโครงการตลาดน้ำ 4 ภาค และสวนอาหารเลควิว พัทยา ตั้งอยู่สุดเขตเมืองพัทยา ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

โดยนางวะริดาเปิดเผยรายละเอียดกับผู้สื่อข่าวว่า เรือยอชต์ของตนถูกขโมยไปจริง และได้เข้าแจ้งความกับร.ต.ท.ปิติชน เทอดเกียรติกุล ร้อยเวร สภ.สัตหีบไว้แล้วเมื่อวันที่ 15 ต.ค. ที่ผ่านมา

โดยก่อนหน้านี้เมื่อเดือนพ.ค. ปี 2550 ตนได้ทำสัญญาซื้อเรือยอชต์ชั้นเดียว ชื่อ "เบส" ตัวเรือทำด้วยไฟเบอร์กลาส ยาว 7.80 เมตร กว้าง 2.80 เมตร กินน้ำลึก 1.40 เมตร ขนาดแรงม้าเบรก 123.09 X 2 กิโลวัตต์ มาจากน.ส. สว่างวงศ์ สัตตบุศย์ อายุ 39 ปี พนักงานในเครือสหพัฒน์ ในราคา 2 ล้านบาท ซึ่งขณะนั้นเรือยอชต์ลำดังกล่าวเครื่องยนต์ได้ถูกถอดออก และจอดทิ้งร้างจนโครงสร้างผุพัง เก็บไว้ที่บ้านเลขที่ 107/40 หมู่บ้านจอมเทียนยอชต์คลับ 3 ม.1 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งอดีตเคยเป็นบ้านของน.ส.สว่างวงศ์ ลูกบุญธรรมอดีตนายทหารยศนายพลคนหนึ่ง ซึ่งตนยังได้ขอซื้อบ้านหลังดังกล่าวไว้ในราคา 5 ล้านบาทด้วย


นางวะริดา กล่าวต่อว่า ต่อมาตนได้นำเรือยอชต์ไปเข้าอู่แห่งหนึ่งย่านถ.เทพประสิทธิ์ พัทยาใต้ เพื่อซ่อมแซมตัวเรือและใส่เครื่องยนต์ยี่ห้อ วอลโว่ เพนต้า ขนาด 6 X 2 จำนวน 2 เครื่อง

พร้อมกับตกแต่งภายในทำเป็นห้องนอน, ห้องน้ำ และห้องครัวอย่างหรูหรา หมดงบประมาณไปกว่า 5 แสน หลังจากทำเรือเสร็จจึงนำไปลองเครื่องในทะเล ย่านชายหาดจอมเทียน และนำไปฝากจอดไว้ที่ท่าจอดเรือยอชต์ หลังบ้านเลขที่ 107/33 หมู่บ้านจอมเทียนยอชต์คลับ 3 ซึ่งเป็นบ้านของคนรู้จัก อยู่ตรงข้ามกับบ้านที่ตนซื้อทิ้งไว้ และสับสะพานไฟฟ้าพร้อมกับผูกเรือทั้งหัวและท้ายไว้เป็นอย่างดี จนกระทั่งวันที่ 14 พ.ค. ที่ผ่านมา จึงเดินทางไปดูเรือที่จอดฝากไว้ แต่ปรากฏว่าเรือยอชต์สุดหรูของตนได้อันตรธานหายไปจากท่าน้ำ และมีร่องรอยคนร้ายตัดเชือกผูกเรือจนขาด จึงสอบถามคนดูแลบ้านหลังดังกล่าว แต่ไม่มีใครรู้เรื่อง เพราะระหว่างนั้นคนดูแลบ้านได้เดินทางกลับต่างจังหวัด

ตนจึงไปสอบถาม น.ส.ชมพูนุช เต็มดวง ผจก.หมู่บ้าน และเป็นคนดูแลเกี่ยวกับเรื่องเรือยอชต์ที่จะเข้า-ออกหมู่บ้าน

ซึ่งตอนแรก น.ส.ชมพูนุช บอกว่าเมื่อสัปดาห์ก่อนได้รับการติดต่อจากญาติคนหนึ่งของน.ส.สว่างวงศ์ เจ้าของเรือคนเก่า ว่าจะมาเอาเรือไปลองขับ
หลังจากนั้นวันที่ 12 พ.ค. จึงนำกลุ่มชายฉกรรจ์มาตัดเชือกผูกเรือแล้วนำเรือเล็กมาลากออกสู่ทะเลทางด้านร้านอาหารต้นหาดหายไปในที่สุด

ต่อมานางวะริดา ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูจุดที่เรือหาย ภายในหมู่บ้านจอมเทียนยอชต์คลับ 3 ซึ่งเป็นบ้านที่ปลูกสร้างอย่างหรูหรา มีคลองน้ำล้อมรอบ

แต่ละหลังจะมีเรือยอชต์จอดอยู่ บางหลังมีท่าน้ำส่วนตัวไว้สำหรับจอดเรือ และส่วนใหญ่เจ้าของบ้านจะเป็นชาวต่างประเทศ ส่วนบริเวณท่าจอดเรือหลังบ้านเลขที่ 107/33 พบว่าเชือกที่ใช้ผูกเรือมีร่องรอยถูกของมีคมตัดขาดอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้นางวะริดาบอกว่า หากผู้ใดทราบเบาะแสและสามารถติดตามเรือกลับคืนมาได้จะให้รางวัล 50,000 บาททันที

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามข้อเท็จจริงไปยังน.ส.สว่างวงศ์ อดีตเจ้าของเรือ ได้รับการเปิดเผยว่า ได้ให้น้องชายบุญธรรม เป็นคนดูแลเรือยอชต์ลำดังกล่าว ซึ่งหลังจากขายบ้านและเรือให้กับนางวะริดา ก็ไม่ได้สนใจอะไร

และก็ไม่ได้บอกให้น้องชายทราบ เพราะไม่ได้ติดต่อกันมานานหลายปีแล้ว เกี่ยวกับเรื่องนี้ตนคิดว่าน้องชายน่าจะไม่ทราบว่าเรือถูกขายไปแล้วจึงอาจไปเอาคืน ด้านร.ต.ท.ปิติชน ร้อยเวรฯ เจ้าของคดี กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวน่าจะเป็นการเข้าใจผิด ซึ่งหลังจากผู้เสียหายเข้าแจ้งความ จึงพยายามโทรศัพท์ติดต่อคู่กรณี แต่ไม่สามารถติดต่อได้ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นจะได้ทำการออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาไว้ก่อน หากยังไม่เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำ ก็จะขออำนาจศาลออกหมายจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์