มือฆ่าหมกอ่างไม่รอด หนี2ช.ม.-จนมุมตร.ปีนหอหวังขืนใจน.ศ.

คำรับสารภาพของนาย นันทวัฒน์ บำรุงนา

"ผมฆ่าเธอด้วยมือผมเอง แอบชอบมานานแล้ว วันเกิดเหตุเห็นเธอใส่สายเดี่ยวนั่งซักผ้าอยู่คนเดียวเลยเกิดอารมณ์เปลี่ยว ตัดสินใจปีนระเบียงห้องเข้าไปข่มขืน แต่เธอคว้ามีดสู้ เลยแย่งมีดจ้วงแทงไม่ยั้งก่อนจับกดน้ำในอ่างจนแน่นิ่งไปแล้วจึงหลบหนี แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอดถูกจับกุมจนได้"


คือคำให้การของนายนันทวัฒน์ บำรุงนา อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ 2 ต.บ้านปรางค์ อ.คง จ.นครราชสีมา คนร้ายที่ลงมือสังหารน.ส.วารินทร์ โพธิมาก นักศึกษาชั้นปี 3 คณะการจัดการโรงแรม มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ตายคาหอพัก "ปิยะธิดา แซ่ลิ้ม" ตั้งอยู่ในซอยไม่มีชื่อ ห่างจากถนนสายราชสีมา-โชคชัย 500 เมตร ในเขตพื้นที่อุตสาหกรรมนครราชสีมา ต.หนองบัวศาลา


สยองเย็นวันที่ 17 มิ.ย. ที่ผ่านมา

เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่นายนันทวัฒน์ ซึ่งพักอาศัยอยู่ห้องติดกัน แอบชอบผู้ตายมานานแล้ว แต่ยังไม่สบโอกาสย่องเข้าหา จนกระทั่งวันเกิดเหตุแฟนหนุ่มของน.ส.วารินทร์ ออกไปทำงานแต่เช้า มีเพียงน.ส.วารินทร์อยู่ห้องเพียงลำพัง คนร้ายจึงตัดสินใจปีนระเบียงห้องเข้าไปหมายขืนใจ แต่ถูกผู้ตายฮึดสู้ เลยใช้มีดจ้วงแทงแล้วจับกดน้ำจนสิ้นใจตายตรงนั้น

เป็นเหตุร้ายที่เกิดขึ้นในห้อง 04/7



เบื้องหลังความสลดในครั้งนี้ถูกเปิดเผยหลังจากนายนิโรจน์ กรไทยสงค์ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71 หมู่ 1 ต.คลองเมือง อ.จักราช แฟนหนุ่มของผู้ตาย กลับมาจากทำงาน บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ ภายในนิคมอุตสาหกรรมนครราชสีมา ตอน 6 โมงเย็นวันเดียวกัน


เมื่อมาถึงบ้านนายนิโรจน์ เห็นว่าประตูหน้าห้องถูกเปิดทิ้งไว้อย่างน่าสงสัย

จึงรีบผลักประตูเข้าไป พบร่างน.ส.วารินทร์ถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม โดนแทงเข้าตามร่างกายหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นที่หัวเข่า หน้าผาก คิ้วซ้าย เป็นแผลเหวอะหวะ

ที่ข้อมือซ้ายถูกปาดจนเอ็นขาด คอถูกเชือดเป็นแผลฉกรรจ์ นอนตายคุดคู้อยู่ในอ่างซีเมนต์ในห้องน้ำ เลือดไหลนองเต็มพื้น ตายในชุดสวมกางเกงยีนส์ขาสั้น สีน้ำตาล เสื้อยืดสายเดี่ยวสีดำ หมดลมหายใจไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง ไม่พบร่องรอยการข่มขืน สภาพภายในห้องข้าวของถูกรื้อค้นกระจุยกระจาย มีร่องรอยการต่อสู้จนเลือดไหลกระเซ็นไปทั่ว

ทำได้แม้กระทั่งผู้หญิงตัวเล็กๆ

นายนิโรจน์รีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจทันที ละล่ำละลักให้การเบื้องต้นด้วยน้ำเสียงอันสั่นเครือ ครู่เดียวพ.ต.อ.ประจวบ จันทร์ประวิตร ผกก.สภ.อ.เมืองนครราชสีมา พ.ต.ท.ประสิทธิ์ เปรมกมล รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ธีระชัย ชำนาญหมอ สวส. และ พ.ต.ท.จำนงค์ สายป้อง สารวัตรเวรฯ นำกำลังรุดมาตรวจสอบ

พล.ต.ท.สถาพร หลาวทอง ผบช.ภาค 3 พล.ต.ต.อำนาจ อันอาตย์งาม ผบก.ภ.จ.นครราชสีมา สั่งสอบปากคำพยานตามล่าตัวไอ้โหดเดี๋ยวนั้น

เจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานทุกอย่างที่พบในจุดเกิดเหตุ นอกจากนี้ ยังพบว่าโทรศัพท์มือถือของผู้ตายถูกคนร้ายหยิบติดมือไปด้วย

คดีนี้ดูเผินๆ เหมือนเป็นการประสงค์ต่อทรัพย์ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจดูรอยเลือด พบว่ากระเซ็นไปทั่วห้องและมีรอยหยดเป็นทางยาวไปถึงหน้าห้อง 04/6 ซึ่งเป็นห้องของนายนันทวัฒน์ ที่อยู่ติดกัน

ซึ่งในห้วงนั้นนายนันทวัฒน์ ได้หลบหนีออกจากห้องพักไปก่อนหน้านั้นแล้ว เจ้าหน้าที่มองลอดช่องประตูเข้าไปพบผ้าเปื้อนเลือดวางอยู่ในห้อง 1 ผืน

คนร้ายจะเป็นใครไปเสียมิได้นอกจากมัน!?!

เจ้าหน้าที่มั่นใจว่านายนันทวัฒน์ น่าจะได้รับบาดเจ็บด้วย เพราะดูจากรอยเลือดที่เปรอะหน้าห้องและหลักฐานผ้าเปื้อนเลือดที่อยู่ข้างใน ตำรวจจึงเช็กไปตามโรงพยาบาล เพื่อหาตัวนายนันทวัฒน์ทันที แต่ยังไม่ทันได้รับคำตอบจากโรงพยาบาลในเมืองโคราช

2 ชั่วโมงให้หลังตำรวจก็ไปเจอนายนันทวัฒน์ ขณะกำลังขับมอเตอร์ไซค์กลับจากทำแผลถูกมีดบาดที่ร.พ.มหาราช นครราชสีมา มุ่งหน้ากลับบ้านจึงควบคุมตัวไว้ดำเนินคดี


มือฆ่าหมดอิสรภาพอยู่ตรงนั้น

"ผมกำลังย้อนกลับมาขนของหนี เลยถูกรวบกลางทาง ก่อนหน้านี้แอบชอบผู้ตายมานานแล้ว วันเกิดเหตุเห็นผู้ตายใส่สายเดี่ยวนั่งซักผ้าตามลำพัง จึงเกิดอารมณ์ทางเพศ หมายจะบุกเข้าไปข่มขืน ปีนระเบียงห้องพักซึ่งอยู่ติดกันเข้าไป แต่ผู้ตายต่อสู้ขัดขืน คว้ามีดขึ้นมาขู่พร้อมวิ่งหนีไปในห้องน้ำ แต่ไม่ทันได้ปิดล็อกประตู ผมจึงตามเข้าไปต่อสู้แย่งมีดมาได้ ทำให้ถูกมีดบาดมือ

เลยเกิดโมโหใช้มีดจ้วงแทงผู้ตายไปหลายครั้ง จับศีรษะโขกกับขอบปูนห้องน้ำจนตายคาที่ ก่อนหนียังคว้าเอาโทรศัพท์มือถือของผู้ตายติดมือมาด้วย เพื่อลวงให้ตำรวจไขว้เขวว่าเป็นเหตุชิงทรัพย์" มือฆ่ากล่าวอย่างไม่สะทกสะท้าน

การจับกุมคนร้ายครั้งนี้ มีญาติพี่น้องผู้ตายหลายสิบคน พากันเดินทางมาที่สภ.อ.เมืองนครราชสีมาเพื่อดูหน้าคนร้ายด้วยความโกรธแค้น ต่างพากันตะโกนสาปแช่งกันไปต่างๆ นานา หลายคนพยายามวิ่งไปประชาทัณฑ์จนเจ้าหน้าที่ต้องเข้าห้ามเป็นพัลวัน

สายวันรุ่งขึ้นพนักงานสอบสวนเบิกตัวนายนันทวัฒน์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่หอพัก "ปิยะธิดา แซ่ลิ้ม" ท่ามกลางความสนใจของประชาชนจำนวนมาก ที่พยายามฮือเข้ารุมสหบาทามัน จนตำรวจต้องออกแรงห้ามปรามอีกรอบ

และเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์บานปลาย เจ้าหน้าที่ใช้เวลาทำแผนเพียง 20 นาทีเท่านั้น รีบนำตัวนายนันทวัฒน์กลับมาควบคุมขังเตรียมสรุปสำนวนส่งฟ้องต่อไป


ประตูคุกเปิดรออยู่!!






แหล่งที่มา : ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์