เอพีรายงานวันที่ 7 ต.ค. เกิดคดีอาชญากรรมสลดในสหรัฐอเมริกาที่เกี่ยวเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจตึงเครียด เมื่อพ่อวัย 45 ปีสังหารลูกเมียและแม่ภรรยา ก่อนฆ่าตัวตาย รวม 6 ศพ ตามประวัติ ชายคนนี้เคยทำงานในบริษัทการเงิน แต่ต่อมาตกงานในวิกฤตเศรษฐกิจของสหรัฐที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก
ผู้ตายที่ก่อเหตุฆ่ายกครัวมีชื่อว่า นายคาร์ธิก ราชราม อายุ 45 ปี ใช้ปืนยิงภรรยา ลูกชาย 3 คน และแม่ภรรยา ส่วนใหญ่เสียชีวิตอยู่บนเตียง
จากนั้นจึงยิงตัวตายคาบ้านพักในนครลอสแองเจลิส ทิ้งจดหมายไว้ 2 ฉบับ เขียนไว้ใน 2 ทาง คือฆ่าตัวตายเอง กับฆ่าครอบครัวก่อนแล้วฆ่าตัวตาย จากการสืบประวัติชายคนนี้เคยเป็นเจ้าของร่วมในบริษัทสินทรัพย์ โดยใช้เงินของครอบครัวไปลงทุน แต่เมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ กลายเป็นคนตกงานมาหลายเดือน ส่วนภรรยาทำงานที่ร้านขายยา คนที่ร้านเห็นว่าขาดงานไปหลายวันจึงแจ้งตำรวจให้มาดู กระทั่งพบศพ
สำหรับภาวะฟองสบู่แตกในภาคอสังหาริมทรัพย์ของอเมริกาที่ส่งสัญญาณตั้งแต่ปีที่แล้ว
ขณะนี้ส่งผลต่อตลาดการเงินทั่วโลก แม้ว่ารัฐบาลประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช จะตรากฎหมายกู้วิกฤตในมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ไปแล้ว แต่วิกฤตลุกลามไปถึงยุโรป มีธนาคารหลายแห่งอยู่ในภาวะสั่นคลอน ล่าสุดเป็นวิกฤตของธนาคารรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ หรืออาร์บีเอส ธนาคารใหญ่ของอังกฤษ ราคาหุ้นดิ่งลงเกือบร้อยละ 40 แล้ว จนคาดว่า รัฐบาลอังกฤษอาจต้องเข้าอุ้ม และอาจต้องอุ้มธนาคารลอยด์ ทีเอสบี และบาร์เคลย์ด้วย
ด้านสถานการณ์ซื้อขายหุ้นในยุโรปวันอังคารเริ่มเข้าสู่สภาวะทรงตัว อังกฤษเพิ่มขึ้น 0.66% หลังดิ่งไปถึง 7.8% เยอรมันเพิ่ม 0.82% ฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น 1.33%
ส่วนของเอเชียสถานการณ์วูบวาบต่างกันไป ของญี่ปุ่นดิ่งลงร้อยละ 3.0 แต่ออสเตรเลียและเกาหลีใต้ดีดกลับขึ้นมาได้ ด้านสหรัฐฟื้นตัวขึ้นเช่นกัน วันเดียวกัน คณะกรรมาธิการตรวจสอบการปฏิรูปรัฐบาลของสภาสหรัฐ เริ่มเปิดการไต่สวนหาสาเหตุที่ทำให้สหรัฐเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ โดยเรียกนายริชาร์ด เอส ฟูลด์ จูเนียร์ ซีอีโอของบริษัทเลห์แมน บราเธอร์ส ที่ประสบภาวะล้มละลายเช่นกันมาให้การ ได้ข้อมูลว่า นับจากปี 2543 นายริชาร์ดได้เงินตอบแทนจากเลห์แมนมากกว่า 10,200 ล้านบาท สร้างความตื่นตะลึงให้สังคมสหรัฐที่ต้องการให้รัฐบาลกำหนดมาตรการลงโทษผู้บริหารที่ไม่ต้องรับผิดชอบต่อภาวะล้มละลายของบริษัท
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
