ล่าพ่อแม่โหด ฆ่า 2 ขวบในไส้

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 1 ต.ค.  นางบุญลืม ชั่งเพ็ชรผล อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41/1 หมู่ 11 ต.หนองสามวัง อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี

เข้าร้องทุกข์กับนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ที่มูลนิธิปวีณาฯ จ.ปทุมธานี ว่านายบุญสม ทองคำ ลูกเขยและนางจันทร์แรม ชั่งเพ็ชรผล ลูกสาว พ่อแม่แท้ๆ ของ ด.ญ. ทรัสตียา ทองคำ หรือน้องพั้นช์ อายุ 2 ขวบ 8 เดือน อยู่ บ้านเลขที่ 4/194 หมู่ 8 ต.ลำลูกกา อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้ทำร้ายร่างกายน้องพั้นช์จนเสียชีวิต  


นางบุญลืมเล่ารายละเอียดของเรื่องราวว่า ตนเป็นยายของน้องพั้นช์  ที่ลูกสาวและลูกเขยนำมาทิ้งไว้ให้เลี้ยงตั้งแต่อายุแค่ 7 วัน

จนเมื่อสามอาทิตย์ก่อน มารดาของตนเสียชีวิต จึงให้นางจันทร์แรมนำลูกสาวกลับไปดูแลเอง  หลังเสร็จงานศพได้โทรศัพท์ให้นางจันทร์แรมนำตัวน้องพั้นช์มาส่ง แต่นางจันทร์แรมบ่ายเบี่ยงและอ้างว่าน้องพั้นช์มีความสุขดี และยังบอกอีกว่า นายบุญสมไม่ต้องการให้น้องพั้นช์กลับมาอยู่กับยาย  ตอนนั้นรู้สึกเสียใจว่าหลานไม่รักยาย  แต่ต้องทำใจเพราะเป็นเพียงยายไม่ใช่พ่อแม่ ทว่าตลอดเวลาที่น้องพั้นช์ไปอยู่กับพ่อแม่ ทั้งคู่จะโทรศัพท์มาขอเงินตนตลอด อ้างว่าจะนำเงินไปซื้อขนมให้หลาน ตนก็ให้ไปทุกครั้งเพราะกลัวหลานจะไม่มีกินและพยายามโทร.หานางจันทร์แรมตลอดเพื่อให้นำตัวน้องพั้นช์กลับมา แต่นางจันทร์แรมก็ไม่ยอมพามา  


กระทั่งเมื่อวันที่ 24 ก.ย. นางจันทร์แรมและนายบุญสม มาที่บ้านขอใบเกิดน้องพั้นช์ อ้างว่าจะใช้เป็นหลักฐานในการเข้าเรียนหนังสือ ตนจึงให้ไปและฝากเงินไปให้หลานจำนวนหนึ่ง

และในวันที่ 25 ก.ย. นางจันทร์แรมได้โทรศัพท์มาบอกว่าน้องพั้นช์ตายแล้วศพอยู่ที่ รพ.ธัญบุรี ทันทีที่ทราบข่าว ตนถึงกับเป็นลมล้ม ทั้งยืน เมื่อตั้งสติได้จึงถามบุตรสาวกลับไปว่า “หลานเป็นอะไรตาย พวกมึงทำอะไรหลานกู” แต่คำตอบที่ได้กลับมาคือ ไม่รู้ เห็นเดินไปตักข้าวแล้วก็ชักตายจึงพาลูกไปส่ง รพ.ธัญบุรี ตนจึงรีบเดินทางไปที่บ้านของนายบุญสม สอบถามข้อเท็จจริง แต่ไม่ได้รับคำตอบ จึงเดินทางมาดูศพน้องพั้นช์ที่ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เนื่องจาก รพ.ธัญบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งศพมาชันสูตรหาสาเหตุการตาย พบว่าน้องพั้นช์เสียชีวิตอย่างผิดธรรมชาติ จึงไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลำลูกกา เพราะไม่เชื่อว่าน้องพั้นช์จะตายเอง แต่เชื่อว่าทั้งนายบุญสมและนางจันทร์แรมเป็นผู้ทำให้น้องพั้นช์เสียชีวิตอย่างแน่นอน  หลังจากที่นางบุญลืมเข้าแจ้งความตำรวจแล้วปรากฏว่าทั้งนายบุญสมและนางจันทร์แรมได้เผ่นหนีไป ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ยอมให้รับศพหลานสาวมาบำเพ็ญกุศล  เพราะเรื่องกลายเป็นคดี โดยยังเก็บศพไว้ที่ รพ. ตั้งแต่วันที่ 26 ก.ย. จึงได้ปรึกษากับญาติๆ และพากันมาร้องทุกข์กับนางปวีณา ในวันที่ 1 ต.ค. ดังกล่าว 


หลังจากร้องทุกข์แล้ว ในเวลา 11.30 น. นางปวีณาได้ประสานไปยัง พ.ต.อ.วสันต์ บุญเจริญ ผกก.สภ.ลำลูกกา ถึงเรื่องคดี และพานางบุญลืมมาที่ รพ.ธรรมศาสตร์ฯ ติดต่อ ขอนำศพของน้องพั้นช์ไปบำเพ็ญกุศล

หลังจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้นำศพน้องพั้นช์ออกมาจากห้องเก็บศพ พบว่า สภาพศพน้องพั้นช์มีรอยฟกช้ำเขียวทั้งตัว และยัง มีรอยของมีคมทิ่มแทงอยู่บริเวณขาทั้ง 2 ข้าง ขณะที่นาง บุญลืมได้ร่ำไห้ด้วยความอาลัยรักหลาน พร้อมกับแสดงความโกรธลูกสาวและลูกเขยขนาดหนัก ด้วยการประกาศว่าจะไม่ขอเผาผีคนทั้งคู่อย่างเด็ดขาด 


ด้าน  พ.ต.อ.วสันต์  บุญเจริญ  ผกก.สภ.ลำลูกกากล่าวว่า สำหรับผลชันสูตรจากโรงพยาบาลพบว่า น้อง พั้นช์เสียชีวิตเพราะมีอาการสมองบวม

เลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นนอก กระดูกหัวหน่าวข้างซ้ายแตกหัก ปากฉีก มีรอยเขียวช้ำบริเวณคอ มีรอยแผลที่แก้มซ้าย ใต้ตาขวาโหนกแก้มขวา มีแผลฟกช้ำที่หน้าอก ด้านหลัง นิ้วชี้ นิ้วก้อย ข้างซ้ายบวมฟกช้ำ รวมทั้งสะโพกซ้ายขวา นอกจากนี้ ยังมีร่องรอยถูกของมีคมแทงตามแขนขาเป็นแผลเห็นได้ชัด จากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า น้องพั้นช์ถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต ไม่ใช่เป็นการเสียชีวิตธรรมดา สำหรับประวัตินายบุญสมเคยติดคุกในข้อหาฆ่าคนตาย ขณะที่นางจันทร์แรมเคยมีสามีมาแล้ว 2 คน มีลูกกับสามีทั้ง 2 คน ก็ทิ้งให้นางบุญลืมเป็นคนเลี้ยงทั้งหมด ส่วนนายบุญสมเป็นสามีคนที่ 3 มีลูกด้วยกัน 2 คน คนแรกอยู่กับนางจันทร์แรมและนายบุญสม ส่วนคนที่ 2 คือ น้องพั้นช์ถูกทิ้งให้อยู่กับยาย หลังจากนายบุญสมกับนางจันทร์แรมนำลูกมาส่งโรงพยาบาลแล้วเผ่นหนีไปนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เร่งติดตามจับกุมคนทั้งสองมาดำเนินคดีต่อไป


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์