ฝนตกหนัก ท่วมเชียงราย น่านจมน้ำ

ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์อุทกภัยว่า ที่ จ.เชียงราย ฝนที่ตกหนักติดต่อกันตั้งแต่กลางดึกวันที่ 7 ก.ย. ส่งผลให้น้ำป่าไหลลงอ่างเก็บน้ำแม่ฉางข้าว

หมู่ 10 ต.ป่างิ้ว อ.เวียงป่าเป้า ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร ชาวบ้านต้องขนข้าวของหนีน้ำอย่างทุลักทุเล ถนนสายเชียงราย-เชียงใหม่ หลักกิโลเมตรที่ 83-84 บริเวณหน้าคริสต์จักรป่างิ้ว มีน้ำท่วมขังกว่า 50 ซม. เป็นระยะทางกว่า 500 เมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ กระทั่งช่วงเช้าระดับน้ำได้ลดลงสู่ภาวะปกติ เนื่องจากเป็นน้ำป่าไหลเร็วก่อนระบายลงสู่แม่น้ำลาว 


นายประสิทธิ์ กอหลวง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลป่างิ้ว เปิดเผยว่า จากการสำรวจความเสียหาย พบว่ามีชาวบ้านกว่า 1,000 หลังคาเรือน รวม 6 หมู่บ้านได้รับความเดือดร้อน

บางจุดมีน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ทรัพย์สินในบ้านเสียหายจำนวนมาก เนื่องจากเหตุเกิดช่วงกลางดึก ชาวบ้านไม่สามารถเคลื่อนย้ายทรัพย์สินได้ทัน นอกจากนี้ ยังมีชาวบ้านอีก 5 ครอบครัวถูกตัดจากโลกภายนอก เนื่องจากสะพานถูกกระแสน้ำซัดขาดไม่สามารถข้ามไปมาได้
ที่ อ.แม่สรวย เจ้าหน้าที่ทางหลวงชนบทจังหวัดเชียงราย นำเครื่องจักรซ่อมผิวถนนสายแม่สรวย-วาวี หลักกิโลเมตรที่ 7-8 บ้านทุ่งพร้าว หมู่ 8 ต.วาวี ที่ถูกน้ำป่ากัดเซาะจนผิวถนนชำรุดเสียหายใช้สัญจรไม่สะดวก เนื่องจากบางจุดเกิดทรุดตัว เจ้าหน้าที่ได้นำรถบรรทุกดินไปถมปรับสภาพพื้นถนนให้ใช้ได้เหมือนเดิม ส่วนความเสียหายในพื้นที่ อ.แม่สรวย เบื้องต้นพบว่ามีสะพานพังเสียหาย 8 แห่ง คอสะพานทรุด 4 แห่ง ถนนในหมู่บ้านชำรุด 5 สาย 


เช่นเดียวกับที่ อ.แม่สาย ฝนที่ตกหนักบริเวณเทือกเขาฝั่งพม่าและฝั่งไทย ทำให้น้ำป่าไหลลงสู่แม่น้ำสายจนล้นตลิ่งท่วมร้านค้าแหล่งธุรกิจท่องเที่ยว

และบ้านเรือนราษฎรที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำทั้ง 2 ฝั่งบริเวณบ้านถ้ำผาจม บ้านสายลมจอย ต.เวียงพางคำ ชุมชนบ้านเกาะทราย หมู่ 7 และบ้านไม้ลุงขน หมู่ 10 ต.แม่สาย ขณะที่ใต้สะพานพรมแดนไทย-พม่ามีน้ำสูงถึง 3 เมตร นายไศลยนต์ ศรีสมุทร นายเทศมนตรีเทศบาลตำบลแม่สาย กล่าวว่า ปีนี้แม่น้ำสายล้นตลิ่งเข้าท่วมครั้งนี้เป็นรอบที่ 3 แล้ว


ส่วนที่ จ.น่าน หลังเกิดน้ำป่าทะลักไหลท่วมบ้านห้วยธนู หมู่ 9 บ้านห้วยป๊าก หมู่ 7 และบ้านห้วยม่วง หมู่ 10 ต.ตาลชุม อ.ท่าวังผา

โดยเฉพาะหมู่ 9 มีชาวบ้านถูกน้ำซัดหายไป 3 ราย กระทั่งพบศพติดอยู่ในก่อไผ่ 1 ราย คือนางอำพร ปาโน อายุ 61 ปี ล่าสุดระดับนํ้าเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยเมื่อช่วงสายวันเดียวกัน นายสมพงษ์ อนุยุทธพงศ์ ผวจ.น่าน สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยเร่งค้นหาผู้สูญหายอีก 2 ราย ก่อนพบศพนางสม ไชยสลี อายุ 65 ปี ถูกน้ำซัดติดอยู่ใต้แท่นสูบน้ำพลังไฟฟ้าบ้านน้ำปั้ว อ.เวียงสา จ.น่าน ห่างจาก ต.ตาลชุม ประมาณ 70 กม. ส่วนผู้เคราะห์ร้ายที่ยังค้นหาไม่พบคือนางอ่อนอินธิยา อายุ 64 ปี เจ้าหน้าที่นำเรือออกตรวจตามแม่น้ำน่าน ที่คาดว่าศพอาจลอยไปตามลำน้ำ แต่ไม่มีวี่แวว


ด้านนายสุเมษ สายสูง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษญ์จังหวัดน่าน นำผ้าห่มพระราชทานจากมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์จำนวน 100 ผืน มอบให้ผู้ประสบภัย

พร้อมมอบเงินให้ญาติที่เสียชีวิตทั้ง 3 ราย รายละ 2,000 บาท และมอบเงินให้กับผู้ชาวบ้านที่ถูกน้ำซัดบ้านพังทั้งหลัง 8 หลัง หลังละ 1,000 บาท ส่วนเหล่ากาชาดจังหวัดน่านมอบเงินช่วยเหลือให้กับญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย รายละ 2,000 บาท เป็นการช่วยเหลือเบื้องต้น
นายธวัช เพชรวีระ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ประกาศเตือนให้ประชาชน 3 หมู่บ้านใน ต.ตาลชุม เฝ้าระวังน้ำป่าอย่างใกล้ชิด เนื่องจากสภาพอากาศโดยรวมยังคงมีเมฆฝนปกคลุมอยู่ อาจเกิดฝนตกและน้ำป่าไหลหลากได้ โดยได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังภัยตลอด 24 ชั่วโมง ขณะที่นายมนัส ขันใส นายอำเภอท่าวังผา กล่าวว่า ได้ตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยและหน่วยแพทย์เคลื่อนมาคอยให้บริการประชาชน ณ ที่ทำการผู้ใหญ่บ้านห้วยธนู ซึ่งได้รับความเสียหายจากน้ำป่าหนักที่สุด 


นายอภิชัย ชวเจริญพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี กล่าวว่า ขณะนี้เกิดน้ำท่วมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ดังนั้น ขอให้ประชาชนในพื้นที่ภูเขาสูง หุบเขาและหมู่บ้านที่อยู่ติดเส้นทางน้ำ บริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ สุโขทัย อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ และเลย เฝ้าระวังภัยดินถล่ม และน้ำป่าไหลหลากในระยะ 1-3 วันนี้ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่าน และหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุม ลักษณะเช่นนี้ ทำให้มีฝนหนาแน่น และมีฝนตกหนัก ขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง อาจเกิดดินไหลหรือหินร่วงมาปิดทับเส้นทาง 


ด้านนายศิริพงศ์ หังสพฤกษ์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กล่าวว่า กรมทรัพยากรน้ำได้จัดส่งน้ำสะอาด น้ำดื่ม ไปให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมหนักที่ จ.น่านแล้ว

และจะประสานกับสถานีอุทกวิทยา จ.พิษณุโลก ในการเฝ้าระวังและเตือนภัยน้ำท่วม โดยที่อ.ท่าวังผา ไม่มีสถานีเตือนภัยน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก ไปติดตั้งในพื้นที่ ทำให้เกิดเหตุการณ์น้ำป่าไหลท่วมจนมีผู้เสียชีวิต แต่ในอำเภออื่นๆมีสถานีเตือนภัย ทำให้ ประชาชนสามารถอพยพได้ทัน ดังนั้น จะประสานเพื่อนำระบบเตือนภัยน้ำท่วมมาติดตั้งในพื้นที่ยังขาดต่อไป
กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศ เมื่อวันที่ 7 ก.ย.ว่า ร่องความกดอากาศต่ำกำลังปานกลางได้เลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ ทำให้ทั่วประเทศมีฝนตก ชุกหนาแน่น และฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัย อาทิ เชียงราย เชียงใหม่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ อุทัยธานี นครนายก กระบี่ ตรัง และสตูล ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในระยะ 2-3 วันนี้ไว้ด้วย


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์