พ่อลูกถูกฆ่าโหด หวดยับ-โยนบ่อ

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 4 ส.ค. ร.ต.อ.สพัศ ปราการ-พิทักษ์ ร้อยเวร สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกฆ่าตาย 2 ศพ

ในบ้านเลขที่ 1/3 ซอยคลองสี่ตะวันออก 52 ถนนเลียบคลองสี่ หมู่ 9 ต.คลองสี่ จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ประพันธ์ พานิคม ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.อำนาจ จันทร์เจริญ รอง ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.สุรศักดิ์ ขุนณรงค์ ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.สมศักดิ์ ถนอมบุญ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สราวุธ คงคานนท์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.อรุณ อัครธรรม สว.สส. เจ้าหน้าที่วิทยาการเขต 11 จ.ปทุมธานี แพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์   รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ นำกำลังและเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู รุดไปสอบสวน


ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวมีรั้วรอบขอบชิด อยู่ห่างถนนเลียบคลองสี่เข้าไปในซอยราว 30 เมตร

พบศพ ด.ช.อรรถชัย หลั่งยิ้ม หรือน้องกอล์ฟ อายุ 13 ปี ลูกเจ้าของบ้าน เป็นนักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนวัดหัตถ-สารเกษตร สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีน้ำเงิน กางเกงยีนส์ ขาสั้น นอนตะแคงซ้ายอยู่บนฟูกที่ปูบนพื้นห้องโถง มีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งที่ต้นคอและท้ายทอยหลายครั้งจนกะโหลกยุบ เลือดไหลทะลักจากหูและปากเปรอะเต็มฟูก อีกศพชื่อนายชัยวัฒน์ หลั่งยิ้ม อายุ 44 ปี พ่อ ด.ช.อรรถชัย สวมเสื้อแขนยาวลายสกอตสีน้ำเงิน-แดง กางเกงยีนส์ ที่คอสวมสร้อยเชือกเลี่ยมทอง 2 เส้น มีพระเครื่องเลี่ยมทองห้อยติดสร้อยรวม 7 องค์ นอนคว่ำหน้าลอยอยู่ในบ่อน้ำด้านซ้ายของตัวบ้าน มีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งที่ต้นคอและท้ายทอยหลายครั้ง และถูกแทงด้วยของมีคมที่กรามซ้าย 1 แผล กรามขวา 1 แผล คาดว่าทั้งคู่ตายมาราว 6-8 ชั่วโมง


ในศาลาข้างบ้านใกล้บ่อน้ำมีขวดเหล้าเชี่ยงชุน และขวดเบียร์ 2 ขวด แก้ว 2 ใบ วางอยู่บนแคร่ไม้

บนพื้นข้างแคร่มีแก้วอีก 1 ใบล้มกลิ้งอยู่ กับพระสมเด็จเลี่ยมทองของผู้ตายตกอยู่ 1 องค์ และรองเท้าแตะของผู้ตายถูกถอดวางอยู่ใกล้กัน นอกจากนี้ ยังพบรอยรองเท้าผ้าใบ 2 ชนิด เปรอะโคลนย่ำอยู่บนพื้นศาลาและข้างบ่อน้ำหลายรอย คาดว่าเป็นรอยเท้าคนร้าย และพบหลอดไฟ นีออนที่ติดอยู่ชายคาบ้านด้านใกล้กับศาลาถูกตีแตก ตรวจ สอบภายในบ้านพบร่องรอยรื้อค้นตามลิ้นชักโต๊ะ และตู้ในห้องโถงและห้องนอน แต่ไม่พบอาวุธสื่อมรณะ 


สอบสวนนางมนิดา หลั่งยิ้ม อายุ 36 ปี เมียนายชัยวัฒน์ และแม่ของหนูน้อยเหยื่อโหดให้การว่า นายชัยวัฒน์ ผู้ตาย มีอาชีพรับกวาดยาเด็ก

ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า “ทิดมั่น” และเป็นคนดูพระเก่ง มีคนนำพระเครื่องมาให้ดูที่บ้านเป็นประจำ ส่วนตนทำงานบริษัท ฟูจิสึ จำกัด ในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนออกไปทำงานกะดึก ส่วนนายชัยวัฒน์กับลูกชายอยู่ในบ้านตามลำพัง กลับมาบ้านตอน 8 โมงเช้าวันเดียวกัน พบ ด.ช.อรรถชัยยังนอนอยู่บนฟูก เรียกให้ไปโรงเรียน แต่ลูกชายนอนนิ่งไม่ไหวติง เข้าไปดูก็พบว่าตายไปแล้ว จึงไปตามนางผาย หลั่งยิ้ม อายุ 67 ปี แม่สามี อยู่บ้านใกล้กัน และญาติช่วยกันตามหานายชัยวัฒน์ กระทั่งพบศพอยู่ในบ่อน้ำข้างบ้าน ตรวจสอบทรัพย์สินในบ้านพบว่าเครื่องทองรูปพรรณ ทั้งสร้อยคอ แหวน และเลสทอง หนักรวม 13 บาท ที่เก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อแขวนอยู่ในตู้เสื้อผ้าหายไปเกลี้ยง จึงแจ้งตำรวจมาสอบสวน เมียเหยื่อโหดให้การต่อว่า นายชัยวัฒน์กินแต่ เหล้าเซี่ยงชุนไม่กินเบียร์ และจะกินเหล้ากับคนรู้จักเท่านั้น ปกติจะเปิดไฟสปอตไลต์ในศาลาสว่างโร่ แต่ไฟสปอตไลต์ไม่ได้เปิดทิ้งไว้ แสดงว่าคนร้ายน่าจะรู้จักสนิทสนมกัน และน่าจะรู้ว่าตนเก็บทองรูปพรรณซ่อนไว้ในเสื้อที่แขวนในตู้เสื้อผ้า


ส่วนนางผาย หลั่งยิ้ม แม่และย่าเหยื่ออำมหิต ให้การว่า เมื่อวานเวลาประมาณ 2 ทุ่ม เห็นนายชัยวัฒน์ นั่งกินเหล้ากับชาย 2 คน ไม่รู้ว่าเป็นใคร

จนกระทั่ง 3-4 ทุ่ม ได้ยินเสียงคนโวยวายคล้ายทะเลาะกัน แต่ไม่ได้ ออกมาดู เพราะคิดว่านายชัยวัฒน์เมาแล้วเสียงดังเหมือนที่แล้วมา หลังจากนั้นครู่เดียวก็ได้ยินเสียง ด.ช.อรรถชัย ร้องเรียก “ย่า” 2-3 ครั้งแล้วเงียบเสียงไป ตนคิดว่าหลานชายที่อยู่บ้านเดียวกันเรียก จึงไม่ให้ความสนใจกระทั่งนางมนิดา ลูกสะใภ้ มาบอกว่า ด.ช.อรรถชัย เสียชีวิต แล้วช่วยกันออกตามหานายชัยวัฒน์จนพบว่าถูกฆ่าทิ้งบ่อน้ำ 


ทางด้าน พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภ.1 เปิดเผยว่า จากพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ คาดว่าคนร้ายมี 2 คน น่าจะรู้จักสนิทสนมกับนายชัยวัฒน์ และอยู่ละแวกที่เกิดเหตุ

มาตั้งวงกินเหล้าเบียร์กับนายชัยวัฒน์ แล้วมีปากเสียงทะเลาะกัน ก่อนจะฉวยจังหวะที่นายชัยวัฒน์เผลอใช้ของแข็งอาจเป็นท่อนไม้ หรือเหล็กตีและใช้มีดแทงจนตายในศาลาข้างบ้าน ก่อนจะช่วยกันหามศพไปทิ้งบ่อน้ำ จากนั้นคนร้ายได้เข้าไปรื้อค้นหาทรัพย์สิน แต่ ด.ช.อรรถชัยซึ่งนอนหลับอยู่ในห้องโถง ตื่นมาเห็นร้องเรียกย่า เลยถูกคนร้ายตีจนตายคาที่ เบื้องต้นมุ่งปมฆ่าชิงทรัพย์ทองรูปพรรณที่นายชัยวัฒน์กับเมียเก็บสะสมไว้ ส่วนปมขัดแย่งเรื่องที่นายชัยวัฒน์รับดูพระให้คนรู้จักมีน้ำหนักน้อยแต่ก็ยังไม่ตัดทิ้ง


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์