เลื่อนตัดสินคดีเกริกเกียรติยักยอกบีบีซี.

ศาลเลื่อนฟังคำพิพากษา คดีเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์กับพวกยักยอกเงินแบงก์บีบีซี. ไปกว่า 400 ล้านบาท คดียืดเยื้อมานานเกือบ 10 ปี ทั้งหมดยังคงให้การปฏิเสธตามเดิม ศาลเห็นว่าพยานโจทก์มีจำนวนมาก อีกทั้งยังต้องสืบพยานจำเลยอีก เลยขอเวลาในการพิจารณาเพิ่มเติม เลื่อนฟังคำพิพากษาคดีนี้ออกไปเป็น วันที่ 25 ก.ย.49

ที่ห้องพิจารณาคดี 713 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 1 มิ.ย. ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดียักยอกทรัพย์ ธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชยการ จำกัด (มหาชน) หรือบีบีซี. ที่พนักงายการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 เป็นโจทก์ฟ้องนายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ อายุ 56 ปี อดีตกก.ผจก.ใหญ่(บีบีซี.) นางพรจันทร์ จันทรขจร อายุ 51 ปี และสุภาภรณ์ ทิพยศักดิ์ อายุ 46 ปี เป็นจำเลยที่ 13 ตามลำดับ ในความผิดฐานร่วมกันยักยอกทรัพย์ตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 และ พ.ร.บ.ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พ.ศ.2517
ฟ้องของโจทก์เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.42 ระบุความผิดสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 4 มิ.ย.33 6 มิ.ย.39 ต่อเนื่องกัน วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด โดย บงล.ไทยฟูจิ จำกัด ได้จ่ายเงินปันผลจำนวน 956,250 บาท ให้แก่พนักงานกรุงเทพพาณิชย์การฯ แต่จำเลยที่ 1 กลับยักยอกเบียดบังเป็นของตนเองหรือบุคคลที่ 3 โดยทุจริต นอกจากนี้ พวกจำเลยยังได้นำหุ้นของ บงล.ไทยฟูจิ ซึ่งถือหุ้นโดยธนาคารบีบีซี. จำนวน 300,000 หุ้น ราคา 200 ล้านบาท เพื่อเป็นการค้ำประกันสัญญาเงินกู้ 90 ล้านบาทให้จำเลยที่ 2 จากนั้นจำเลยที่ 2 ก็เบิกเงิน 88.5 ล้านบาทจาก บงล.ภัทรธนกิจ จำกัด ที่ค้ำประกันไว้ซึ่งเป็นการทุจริตเบียดบังทรัพย์ไปโดยทุจริต
ต่อมาจำเลยที่ 1 ได้กระทำผิดโดยให้จำเลยที่ 3 นำใบหุ้นจำนวน 299,999 หุ้น ราคา 166.4 ล้านบาทของ บงล.ไทยฟูจิฯ ที่พนักงานบีบีซี.เป็นผู้ถือหุ้นอยู่ ไปจดทะเบียนจำนำหุ้นกับ บงล.ภัทรธนกิจ จำกัด เพื่อใช้เป็นหลักทรัพย์ประกันการชำระหนี้เงินกู้จำนวน 90 ล้านบาท ของบ.ไดฟ์มาสเตอร์จำกัด ซึ่งมีจำเลยที่ 2 เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท กู้ยืมมา โดยมีจำเลยที่ 1 ลงลายมือชื่อค้ำประกันหนี้
การกระทำของจำเลยทั้งสาม ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์และทรัพย์สินธนาคารบีบีซี. ผู้อื่นและประชาชน ซึ่งจำเลยที่ 1 จะต้องชดใช้เงินคืนจำนวน 205,006,250 บาท ส่วนจำเลยที่ 2 และ 3 ต้องร่วมกันคืนเงินจำนวน 200 ล้านบาท ให้แก่ธนาคารบีบีซี โดยจำเลยให้การปฏิเสธโดยตลอด อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลาศาลได้แจ้งให้คู่ความทั้งสองฝ่ายทราบว่า เนื่องจากคดีนี้มีการสืบพยานโจทก์รวม 50 ปาก สืบพยานจำเลย 4 ปาก ทั้งมีเอกสารที่เกี่ยวข้องในคดีจำนวนมาก ต้องใช้เวลาพิจารณาศึกษาพอสมควร จึงไม่สามารถร่างคำพิพากษาให้แล้วเสร็จได้ เห็นสมควรเลื่อนฟังคำพิพากษาคดีนี้ไปเป็นวันที่ 25 ก.ย.นี้ เวลา 09.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้ศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำพิพากษาคดียักยอกทรัพย์ธนาคารบีบีซี ที่มีนายเกริกเกียรติ เป็นจำเลยไปแล้ว 4 คดี โดยให้จำคุกนายเกริกเกียรติ 3 คดีๆ ละ 10 ปี รวม 30 ปี ยกฟ้อง 1 คดี และศาลอาญาพิพากษา 1 คดี ให้จำคุก 20 ปี ปรับประมาณ 2 พันล้านบาทเศษไปก่อนหน้านี้