ม.เกษตร ยันสอบติด ม.6ฆ่าตัว เข้าใจผิด!



พ่อเด็กม.6 ที่ยิงตัวตายเพราะเครียดเรื่องสอบแอดมิชชั่น เผยไม่โทษใครเชื่อเหตุเกิดเพราะลูกเครียดเรื่องไม่มีหลักฐานการสอบติดมหาวิทยาลัยเกษตรฯ

แถมยังสละสิทธิ์รับตรงมหาวิทยาลัยถึง 2 แห่ง คือมหาสารคามและเชียงใหม่ ระบุลูกหาชื่อตัวเองในเว็บไซต์ไม่เจอ แม้จะได้รับโทรศัพท์ว่าให้ไปสอบสัมภาษณ์แต่ก็ไม่มั่นใจ จนเกิดเรื่องร้ายขึ้น ด้านเลขาฯกก.อุดมศึกษาเปิดแถลงรายละเอียดที่เกิดขึ้น โดยน.ร.หนุ่มที่ไม่มีชื่อในตอนแรกเพราะยังไม่สละสิทธิ์การรับตรง จนเมื่อสละสิทธิ์แล้วได้ตรวจคะแนนใหม่และรู้ผลเมื่อวันที่ 10 พ.ค. ว่าติดม.เกษตรฯ จึงแจ้งให้ไปสอบสัมภาษณ์ที่โดยเด็กโทรศัพท์มาถามถี่ยิบ แม้แต่พ่อก็โทร.มาด้วย จนท.ยืนยันสอบติดแน่นอน ส่วนที่ไม่มีชื่อในเว็บไซต์ ก็แจ้งให้ทราบแล้วว่าเพราะน.ร.ที่สละสิทธิ์ภายหลังจะไม่ขึ้นชื่อให้ เพราะใช้วิธีโทรศัทพ์หรือส่งแฟกซ์แจ้งไปเท่านั้น ขณะที่ม.เกษตรฯ ก็ร่วมยันสอบติดได้เรียนคณะอันดับ 1 ที่เลือกไว้ด้วย

จากกรณีนายจิราวัฒน์ เลิศกุลอุยไพศาล อายุ 19 ปี บุตรชายนายวชิระ เลิศกุลอุยไพศาล
 
ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโคกก่องโคกสูงหนองแต้ อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม ใช้ปืนพกฆ่าตัวตายในห้องนอนบ้านเลขที่ 117 หมู่ 11 ต.ปอพาน อ.นาเชือก จ.มหาสาร คาม เบื้องตนทางครอบครัวให้ข้อมูลน่าจะเกิดจากความเครียดเรื่องการสอบแอดมิชชั่นเข้าเรียนต่อระดับอุดมศึกษา ที่ผู้ตายสละสิทธิ์จากมหาวิทยาลัยมหาสาร คาม เพื่อไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แต่เกิดความสับสนเกี่ยวกับข้อมูลและการสอบสัมภาษณ์นั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 15 พ.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 117 หมู่ 11 ต.ปอพาน อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม

ซึ่งตั้งบำเพ็ญกุศลศพนายจิราวัฒน์ บริเวณสนามหญ้าหน้าบ้านมีการกางเต็นท์ไว้ 2 หลัง บรรยากาศโศกเศร้ามีญาติพี่น้องมาร่วมแสดงความเสียใจ และช่วยงานประมาณ 20 คน สำหรับโลงศพของนายจิราวัฒน์ อยู่บริเวณชั้นล่างของตัวบ้าน สำหรับการฌาปนกิจศพกำหนดไว้วันที่ 16 พ.ค.นี้ ที่วัดบ้านปอพาน นายวชิระ บิดาผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่า เหตุที่เกิดคงไม่โทษใครและกล่าวหาว่าเป็นความผิดของใคร ขอให้เป็นอุทาหรณ์กับทุกคนทุกฝ่ายรวมทั้งผู้ปกครองด้วย

ตนคลุกคลีอยู่วงการศึกษามานานกว่า 20 ปี อยากเรียกร้องว่าในการจัดทำหลักสูตร การวัดผล ประเมินผล

อะไรที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ควรทำเหมือนกับรัฐธรรมนูญ คือให้เด็กเยาวชนมีส่วนร่วมด้วยเพราะเขาคืออนาคตของชาติ การสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ทำอยู่ขณะนี้ การวัดผลประเมินผลบางส่วนก็ดี แต่บางส่วนก็ซับซ้อนจนเด็กเกิดความสับสนวุ่นวาย และเกิดอาการเครียดได้เช่นกัน เพราะศักยภาพของเด็กไม่เหมือนกัน บางคนก็รับได้แต่บางคนก็รับไม่ได้ ทำให้เกิดปัญหาตามมา

"บุตรชายได้โควตาเข้าเรียน 2 แห่ง คือที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เลือกเรียนวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ บุตรชายไม่อยากเรียนทั้งที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่และที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม อยากไปเรียนกับญาติที่กรุงเทพฯ จึงทำเรื่องสละสิทธิ์ทั้ง 2 แห่ง โดยผมเป็นผู้ลงนามในเอกสาร ลูกชายบอกว่าอยากลงสมัครสอบแอดมิชชั่น เพื่อทดสอบความรู้กับนักเรียนทั่วประเทศดู ผลปรากฏว่าตรวจสอบรายชื่อทางอินเตอร์เน็ตไม่มี" นายวชิระกล่าว และว่า ต่อมารุ่นพี่ที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศรีราชา แนะนำว่าควรตรวจสอบไปยังสำนักทดสอบมาตรฐานการศึกษา ช่วงนั้นก็ทราบว่า ทางมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ยังไม่ส่งเรื่องการยกเลิกสิทธิ์มาให้เขาจึงยังไม่ได้ตรวจสอบคะแนน คงเข้าใจว่ามีที่เรียนแล้วก็คล้ายกับถูกตัดสิทธิ์

นายวชิระกล่าวอีกว่า แต่เมื่อยืนยันว่าแจ้งยกเลิกสิทธิ์ไปตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย.กับทางมหาวิทยาลัยมหาสารคามแล้ว ทางสำนักทดสอบมาตรฐานการศึกษาก็บอกว่าจะประมวลผลคะแนนให้

และขอให้บุตรชายตนไปสอบสัมภาษณ์ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน ในวันที่ 14 พ.ค. ก่อน แต่ก็มาเกิดเหตุร้ายขึ้นก่อนเดินทาง

"ลูกชายเครียดมากหลังตรวจสอบรายชื่อแล้วไม่มี เนื่องจากยกเลิกสิทธิ์ทั้ง 2 มหาวิทยาลัยแล้ว และบอกว่าไม่มั่นใจว่าจะได้สอบสัมภาษณ์ เพราะสำนักทดสอบมาตรฐานการศึกษาไม่ได้ส่งหลักฐานอะไรให้ เพียงแต่ให้คำยืนยันว่าให้ไปสอบตามเวลากำหนด ทางสำนักทดสอบฯ เขาจะดำเนินการให้ และป้าของเขาก็เป็นห่วงเพราะหากไม่มีหลักฐานอะไรในมือจะไปสอบสัมภาษณ์ได้อย่างไร คาดว่าบุตรชายคงเครียดหนักเพราะหวั่นว่าจะไม่มีสิทธิ์สอบทำให้ไม่มีที่เรียน จึงเกิดอารมณ์ชั่ววูบ สุดท้ายตัดสินใจยิงตัวตาย" พ่อผู้สูญเสียกล่าว และว่า คาดว่ามีเพียงสาเหตุเดียวเท่านั้น ส่วนปัญหาอื่นๆ ไม่มี โดยเฉพาะเรื่องชู้สาวก็ไม่มี


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์