ตร.จ่อหมายจับ รู้ตัว 3 โจร ซ้อมโหดครูจุ้ย

ตร.จ่อหมายจับ รู้ตัว 3 โจร ซ้อมโหดครูจุ้ย / ไทยรัฐ

จากเหตุการณ์กลุ่มชาวบ้านกูจิงรือปะ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส บุกจับ น.ส.จูหลิง ปงกันมูล อายุ 23 ปี และ น.ส.สิรินารถ ถาวรสุข อายุ 22 ปี ผู้ช่วยครูโรงเรียนบ้านกูจิงรือปะ เป็นตัวประกัน ข่มขู่ให้เจ้าหน้าที่ปล่อยตัวนายอับดุลการิม มาแต และนายมูฮำหมัด สะแปอิง มือรี ผู้ต้องหาก่อความไม่สงบ และเป็นแกนนำก่อคดีซุ่มโจมตีทหารนาวิกโยธินเสียชีวิต 2 นาย ที่สถานีรถไฟบ้านลาโล๊ะ จ.นราธิวาส โดยมีการรุมซ้อมเหยื่อทารุณ ทำให้ น.ส.จูหลิงอาการสาหัส ถูกนำส่ง รพ.สงขลานครินทร์ (มอ).หาดใหญ่ อาการอยู่ในขั้นโคม่ายังไม่พ้นขีดอันตราย หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่บุกจับกุมนางการีม๊ะ มะสาและ อายุ 27 ปี ภรรยาของนายมูฮำหมัด สะแปอิง มือรี 1 ใน 2 ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม เป็นผู้ บงการจับครูเป็นตัวประกัน เพื่อให้ปล่อยตัวสามี และคุมตัวไว้สอบขยายผล ในขณะที่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงใย ได้พระราชทานเงินส่วนพระองค์ช่วยยื้อชีวิต น.ส.จูหลิง ยังความปลาบปลื้มปีติในพระมหากรุณาธิคุณแก่ครอบครัวนั้น

เผยอาการครูสาวยังโคม่า


ความคืบหน้าเกี่ยวกับอาการของครูสาวเหยื่อทมิฬ ที่ห้องประชุม รพ.สงขลานครินทร์ (ม.อ.) หาดใหญ่ จ. สงขลา เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 21 พ.ค. รศ.น.พ.สุเมธ พีรวุฒิ ผอ.รพ.สงขลานครินทร์ แถลงอาการของ น.ส.จูหลิง คนเจ็บ ว่า ล่าสุดผู้ป่วยยังไม่รู้สึกตัว สัญญาณชีพคงที่ ม่านตาขยายกว้างไม่ตอบสนองต่อแสง ผู้ป่วยเริ่มหายใจได้ด้วยตนเองเล็กน้อย ปัสสาวะเริ่มมีสีแดง อาจเกิดจากการสลายตัวของกล้ามเนื้อที่ได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง แพทย์ได้รักษาโดยให้ยากระตุ้นเพื่อควบคุมการเต้นของหัวใจและความดันอย่างต่อเนื่อง ภาวะเลือดออกผิดปกติ และภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ได้รับการแก้ไขจนเกือบเป็นปกติ ให้การรักษาเพื่อป้องกันสมองบวมมากขึ้น ให้ยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันการติดเชื้อ และให้ยาป้องกันภาวะเลือดออกในกระเพาะอาหาร ซึ่งเกิดจากการบาดเจ็บที่รุนแรง ใส่เฝือกแขนขวาที่หัก สรุปภาพรวมโดยทั่วไปผู้ป่วยยังคงมีอาการใกล้เคียงกับเมื่อวันที่ 20 พ.ค. แต่เริ่มหายใจเองได้บ้าง ยังคงต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และให้ยาควบคุมความดันตลอดเวลา

แพทย์ยื้อชีวิตเต็มที่

รศ.น.พ.สุเมธกล่าวอีกว่า ขณะนี้อาการของคนเจ็บยังคงต้องรอปาฏิหาริย์ เพื่อให้คนไข้ฟื้น อยากให้คนไทยทั่วประเทศส่งกำลังใจให้แก่คนเจ็บที่อาจจะทำให้อาการดีขึ้น แต่เนื่องจากอาการบาดเจ็บทางสมองรุนแรง จึงไม่สามารถพยากรณ์อาการทางสมองได้ ในส่วนของการให้ยานั้น ทางโรงพยาบาลใช้ยามาตรฐานสากล และดีที่สุดสำหรับคนเจ็บ คณะแพทย์เฝ้าติดตามสัญญาณชีพอย่างใกล้ชิด ส่วนการที่คนเจ็บสามารถหายใจเองได้บ้างนั้น เป็นการฟื้นตัวของก้านสมองที่ควบคุมการหายใจ ส่วนอาการสมองบวมยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด และได้ให้ยาลดอาการสมองบวมอยู่ตลอด ในส่วนของพ่อแม่ และญาติคนเจ็บ ทางโรงพยาบาลได้จัดห้องพักวีไอพี รับรอง และสิ่งอำนายความสะดวกจำนวน 3 ห้อง ทำความเข้าใจและให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาการของผู้ป่วยเป็นระยะๆ รวมทั้งจัดทีมแพทย์ดูแลด้านจิตใจของครอบครัว

ผู้ว่าฯ ขอกำลังทหารคุ้มกัน

ต่อมาตอนสายวันเดียวกัน นายประชา เตรัตน์ ผวจ.นราธิวาส และกลุ่มสงขลารักสันติสุข กว่า 50 คน เดินทางมาเยี่ยมอาการของ น.ส.จูหลิง คนเจ็บ และให้ กำลังใจนายสูน นางคำมี ปงกันมูล บิดามารดา นายประชากล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ประสานไปยังแม่ทัพภาคที่ 4 เกี่ยวกับโรงเรียนในจุดล่อแหลมหรือพื้นที่สีแดง จะต้องมีกองกำลังประจำอยู่ ซึ่งเมื่อก่อนที่โรงเรียนกูจิงลือปะก็มีหน่วยรบพิเศษประจำอยู่ รวมทั้งหารือให้หน่วยงานความมั่นคงทบทวนใหม่เกี่ยวกับจุดอันตรายต่างๆ และจุดที่เป็นแหล่งอาศัยหรือกบดานของกลุ่มผู้ไม่หวังดี ส่วนกลุ่มที่จะดูแลรักษาความปลอดภัยของครูที่สำคัญและดีที่สุดคือประชาชนเพราะเป็นคนในพื้นที่ รู้ว่าใครเป็นใครจึงประสานไปยังผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนาให้เร่งทำความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับการเข้าไปปลุกระดมของผู้ไม่หวังดี สำหรับในพื้นที่หรือบางหมู่บ้านที่มีแกนนำหรือแนวร่วมจำเป็นจะต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปกดดัน

จ่อหมายจับ 3 โจรโหด

นายประชาเปิดเผยอีกว่า สำหรับกลุ่มคนร้ายจากการสอบสวนพบว่าเป็นกลุ่มวัยรุ่นจากพื้นที่ใกล้เคียง ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างดำเนินการขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้จำนวน 3 คน แต่รายละเอียดลึกกว่านี้ ไม่สามารถเปิดเผยได้ และได้มีผู้นำศาสนาเข้ามาพูดคุยเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าไม่สบายใจมากเพราะกลุ่มคนร้ายพยายามที่จะยุยงให้เกิดความแตกแยกในเรื่องศาสนาให้บานปลายเป็นเหตุการณ์รุนแรงมากขึ้น นอกจากนี้ทางจังหวัดได้ร่วมกับผู้นำศาสนา กลุ่มพลังมวลชน กลุ่มพลังสตรี ออกมารวมตัวแสดงพลังเคลื่อนไหวต่อต้านการกระทำของกลุ่มคนร้ายที่บริเวณสวนสาธารณะกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ในเวลา 10.00 น. ของวันที่ 22 พ.ค. สำหรับครูอีกคนที่ได้รับบาดเจ็บขณะนี้ได้ย้ายออกจากพื้นที่แล้ว

อ้างร่างทรงใช้น้ำมนต์ชุบชีวิต

รายงานแจ้งว่า ขณะที่นายสูน และนางคำมี ปงกันมูล บิดามารดาของ น.ส.จูหลิง เฝ้าติดตามอาการลูกสาวที่หน้าห้อง ไอซียู รพ.สงขลานครินทร์ ได้มีชายคนหนึ่งอ้างว่าเดินทางมาจาก จ.สุราษฎร์ธานี ได้ติดต่อกับร่างทรงของพ่อปู่ชีวก ที่ อ.สามพราน จ.นครปฐม และขณะนี้พ่อปู่กำลังเข้าทรง ต้องการให้ความช่วยเหลือ น.ส.จูหลิง โดยขอให้นางคำมีพูดโทรศัพท์กับร่างทรงสักครู่ ร่างทรงได้บอกให้นางคำมีนั่งสมาธิ จากนั้น ให้หาน้ำสะอาดมา 1 แก้ว และทำพิธีผ่านโทรศัพท์ พร้อมบอกว่าอีกประมาณ 3-4 วัน อาการของคนเจ็บจะดีขึ้นและขอให้นายสูนนำ น้ำมนต์ไปป้ายที่ปากของ น.ส.จูหลิง ซึ่งนางคำมีเปิดเผยว่าพ่อปู่อยากช่วยให้ลูกสาวหาย และขณะพูดคุยกันทางโทรศัพท์ พ่อปู่บอกได้ทุกอย่างเกี่ยวกับอาการของคนเจ็บ รวมทั้งบอกพ่อแม่ให้ระวังสุขภาพกันไว้บ้าง รู้สึกสบายใจและดีใจที่มีหลายคนมีความตั้งใจจะช่วยลูกสาวของตนให้หายเป็นปกติ

ประธานอิสลามเยี่ยมให้กำลังใจ

ส่วน น.ส.สิรินารถ ถาวรสุข 1 ใน 2 ครูที่ถูกทำร้ายขณะถูกจับเป็นตัวประกัน รักษาตัวที่ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ บ่ายวันเดียวกัน นายอับดุลรอซัค อาลี ประธานคณะกรรมการอิสลาม จ.นราธิวาส นำคณะเข้าเยี่ยมมอบกระเช้าผลไม้เป็นกำลังใจให้กับ น.ส.สิรินารถ โดยนายอับดุลรอซัคกล่าวขอบใจในความเสียสละของครูที่เข้าไปสอนเด็ก ให้แสงสว่างลูกหลานชาวบ้านห่างไกล เป็นเรื่องที่ทุกคนซาบซึ้ง ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของคนไม่กี่คนไปก่อเรื่องขึ้น ทำให้ชาวมุสลิมทุกคนไม่สบายใจ เป็นเรื่องของบ้านเมืองที่จะเอากฎหมายไปจัดการ ส่วนเรื่องศาสนาไม่มีอะไรแตกแยกกัน ขอให้ ทุกคนสบายใจ

ทางด้าน น.ส.สิรินารถกล่าวว่า ไม่เคยคิดเอาเรื่องศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้อง เพียงมุ่งมั่นเข้าไปพัฒนาสอนเด็กๆให้ฉลาดเท่านั้น ปกติชาวบ้านและเด็กๆที่นั่นก็ดีกันทุกคน ทักทายกันทุกวัน ไม่คิดว่าจะมีเรื่องเลวร้ายอย่างนี้เกิดขึ้นกับตน และไม่อยากให้เกิดขึ้นกับใครอีก

ครูสาวแฉนาทีสยอง

ที่ห้องประชุม กอ.สสส.จชต. ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ตอนสายวันเดียวกัน พล.ท.องค์กร ทองประสม แม่ทัพภาค 4 ในฐานะ ผอ.กอ.สสส.จชต. พล.ต.ต.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.สปก.ตร.สน. นายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล ปลัดจังหวัดนราธิวาส ร่วมแถลงข่าวกรณี การจับครูเป็นตัวประกันและทำร้ายร่างกาย โดยก่อนแถลงได้เปิดวีดิทัศน์การสัมภาษณ์เหตุการณ์ความรู้สึกของ น.ส.สิรินารถ ถาวรสุข ครู ร.ร.บ้านกูจิงรือป๊ะ หนึ่งในตัวประกันที่ถูกจับและทำร้าย โดย น.ส.สิรินารถเล่านาทีระทึกขวัญว่า ขณะกำลังกินอาหารกลางวันที่ร้านค้าตรงข้ามมัสยิด ได้มีหญิงชาวบ้านกลุ่มหนึ่งคลุมหน้าบุกเข้ามาจับตัวยึดโทรศัพท์มือถือ และกระเป๋าเอกสาร โดยบอกว่าครูต้องไปกับเราเพื่อแลกพวกที่ถูกจับ ขณะเดียวกัน ชาวบ้านอีกกลุ่มได้ไปพาตัว น.ส.จูหลิง ลงมาจากอาคารเรียนพาไปกักตัวไว้ที่ ร.ร.ตาดีกาหลังมัสยิด จากนั้นมีกลุ่มชายฉกรรจ์บุกเข้ามารุมกระทืบและใช้ไม้ตี น.ส.จูหลิง ศีรษะแตกและร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครช่วยได้ พอคนร้ายหลบหนีไปแล้วหันไปก็เห็น น.ส.จูหลิงนอนฟุบเลือด ระหว่างเล่าเหตุการณ์ น.ส.สิรินารถ ได้ร่ำไห้ สะอึกสะอื้นตลอดเวลา

แม่ทัพ 4 ยืดอกขอรับผิดเอง

พล.ท.องค์กร ทองประสม แม่ทัพภาค 4 แถลงว่า ได้รับรายงานจากแพทย์ ว่า น.ส.จูหลิงคนเจ็บหายใจได้เอง แต่ยังไม่ถอดเครื่องช่วยหายใจ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นผลสืบเนื่องที่กองกำลังชุด ฉก.34 และตำรวจเข้าไปควบคุมตัวชายผู้ต้องหา 2 คนที่บ้านกูจิงรือป๊ะ เป็นเหตุให้มีการจับกุมครูทั้งสองคนเพื่อขอให้ปล่อยผู้ที่ถูกจับ เมื่อเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทราบเหตุได้เข้าช่วยเหลือ แต่ไม่สามารถช่วยได้ทัน เรารู้สึกเจ็บปวด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่น่าจะเกิด เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว ในฐานะแม่ทัพภาค 4 และ ผอ.กอ.สสส.จชต. ในการดูแลความสงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขอยอมรับผิดทุกประการและยอมรับการปรับเปลี่ยนตำแหน่งแม่ทัพภาค 4 และ ผอ.กอ. สสส.จชต.ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ทั้งนี้ รู้สึกเสียใจ เจ็บปวดที่ผู้บริสุทธิ์ถูกทำร้ายอย่างโหดเหี้ยมโดยไม่มีทางต่อสู้ ทั้งคู่เป็นแม่พิมพ์ใจสะอาดศรัทธาที่จะถ่ายทอดความรู้แก่เด็กโดยไม่เลือกศาสนา จากเหตุการณ์นี้จะไม่ยอมให้เกิดขึ้นอีก ขณะเดียวกันได้สั่งให้กองกำลังศรีสุนทรจัดทำแผนเสริมสร้างสันติสุขบ้านกูจิงรือป๊ะ จะประกาศแถลงในวันที่ 23 พ.ค.นี้ และได้สั่งการให้กำลัง 2 กองร้อยเข้าไปในพื้นที่เพื่อช่วยนำนักเรียน ร.ร.บ้านกูจิงรือป๊ะไปเรียนที่โรงเรียนใกล้เคียงก่อน

เหิมชี้หน้าขู่ฆ่าตำรวจ

ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย คือนายอับดุลการิม มาแต และนายมูฮัมหมัดสะแปอิง มือรี ที่เป็นต้นเหตุนั้น พล.ต.ต.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.สปก.ตร.สน. ได้ แถลงความคืบหน้าว่า ทั้งคู่เป็นผู้ต้องหาคดีสำคัญหลายคดี รวมทั้งก่อเหตุฆ่านาวิกโยธินที่สถานีลาโละ โดยเฉพาะนายมูฮัมหมัดสะแปอิง ตรวจสอบแล้วก่อเหตุมาแล้ว 6 คดียอมรับสารภาพ แต่ไม่ยอมให้ความร่วมมือ ขณะสอบสวนนายมูฮัมหมัดสะแปอิงยังได้ชี้หน้าตำรวจ และพูดว่าต้องฆ่าให้หมดเพราะเป็นคนนอกศาสนา ซึ่งจะต้องหาทางปรับเปลี่ยนทัศนคติให้มีวิสัยทัศน์ ส่วนความคืบหน้าเหตุการณ์ จับครูนั้น ขณะนี้มีเบาะแสและความคืบหน้าไประดับหนึ่งจากการสอบปากคำพยานแวดล้อมพอจะทราบตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องแล้ว แต่ต้องขอเวลาสักระยะหนึ่ง

นอภ.ระแงะยอมรับผิด

ที่ห้องโสตทัศนูปกรณ์ โรงเรียนตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส นายธวัช แซ่ฮ่ำ ประธานสมาพันธ์ครู จังหวัดนราธิวาส นายผล ศรีหวัง ประธานศูนย์ประสานงานหลักอำเภอระแงะ ได้เรียกประชุมผู้บริหารโรงเรียนและตัวแทนครูในพื้นที่ อ.ระแงะ จำนวน 42 โรง รวม 50 คน เพื่อร่วมแสดงความคิดเห็นกรณีครูโรงเรียนบ้านกูจิงลือปะ 2 คน ถูกจับเป็นตัวประกันและถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บ ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ นายประคอง คงแก้ว นอภ.ระแงะ ที่เข้าร่วมประชุมได้ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีการช่วยเหลือครูทั้ง 2 คนที่ถูกจับเป็นตัวประกันต่อที่ประชุมว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนขอรับผิด ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ แต่ความจริงถึงแม้ตนจะเป็นนายอำเภอ แต่การที่จะขอกำลังเจ้าหน้าที่ทหารหรือตำรวจเข้าไปยังจุดเกิดเหตุนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะไม่ใช่สายบังคับบัญชาโดยตรง แต่จะเข้าไปคนเดียวก็เป็นการเสี่ยงหากเกิดอะไรขึ้นมาจะถูกตำหนิได้ เพราะรู้ว่ามีเรือใบโปรยบนถนน ตัดต้นไม้ใหญ่ขวางถนนเพื่อสกัดกั้นการเดินทางเข้าไปบุกชิงตัวครูทั้ง 2 คน ของเจ้าหน้าที่ ส่วนการที่ผู้ใหญ่บ้านกับชุด ชรบ.ตัดสินใจบุกเข้าชาร์จชิงตัวประกันออกมานั้นก็เป็นความรับผิดชอบที่ได้มีการมอบหมายให้ในช่วงการประชุมเพื่อรักษาความปลอดภัยให้ครูที่ผ่านมา

ปิดเรียน-จี้ลากคอโจรมาลงโทษ

สำหรับที่ประชุมได้มีมติสรุปออกมาเป็นว่า 1. โรงเรียน จะหยุดการสอน 1 สัปดาห์ตั้งแต่วันที่ 22-26 พ.ค. เพื่อ ให้เจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการขยายผลจับกุมคนร้ายรุมประชาทัณฑ์ครูมาลงโทษ 2. รอหัวหน้าหน่วยกองกำลังทุกฝ่ายมาวางมาตรการร่วมกันในการรักษาความปลอดภัยใหม่ เพื่อจะได้หลักประกันที่ชัดเจนในความมั่นใจของข้าราชการครู 3. ให้เจ้าหน้าที่ทำการประสานกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านเข้ามามีส่วนร่วมกับเจ้าหน้าที่อย่างจริงจังในการ รปภ.ครู 4. รอการประเมินผลข้อเรียกร้องทั้งหมดว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการได้ตามข้อเรียกร้องของครูหรือไม่ ถ้าไม่มั่นใจจะหยุดสอนต่อไปอีก และ 5. จะเชิญ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รักษาการนายกฯ พล.ท.องค์กร ทองประสม แม่ทัพภาค 4 พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบช.ภ.9 และนายประชา เตรัตน์ ผวจ.นราธิวาส มาร่วมกันลงสัตยาบันว่าครูจะไม่ถูกทำร้ายอีก

ชี้เปลี่ยนตัวแม่ทัพไม่ใช่ทางออก

ด้านนางสุดสาย บุญช่วย ประธานสหพันธ์ครูสตรี จังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า การที่ พล.ท.องค์กร ทองประสม แม่ทัพภาค 4 ออกมาแสดงความรับผิดชอบที่จะลาออก หากทหารบกพร่องนั้น ตนเห็นว่าไม่ใช่เป็นทางออกที่ดี ควรที่จะหันมารับผิดชอบด้วยการหาข้อบกพร่องแล้วนำมาใช้เป็นบทเรียนในการวางมาตรการจะดีกว่า เพราะการ ลาออกไปนั้น ไม่ใช่เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่ถูกต้อง และหากลาออกไปจะต้องเปลี่ยนตัวแม่ทัพภาค 4 คนใหม่ ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนตัวแม่ทัพภาค 4 บ่อยครั้งมาก นอก จากนั้นกลุ่มครูอำเภอระแงะได้ออกแถลงการณ์ โดยเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ของรัฐที่รับผิดชอบดำเนินการ 1. สอบสวนสาเหตุความผิดพลาดในการให้ความช่วยเหลือตัวประกันล่าช้า และไม่ทำตามข้อตกลงกับครูที่ว่าหากมีการจับกุมผู้ต้องสงสัยในพื้นที่ให้แจ้งโรงเรียนบริเวณใกล้เคียงได้ รับทราบ เพื่อป้องกันเหตุ หรือนำกำลังเข้าป้องกันในโรงเรียน 2. ดำเนินการหาตัวผู้รับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ และ 3. ดำเนินการนำผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายโดยเร็ว ทั้งผู้ทำร้ายร่างกายและผู้ร่วมมือปิดล้อมกักขังครูเป็นตัวประกัน หากไม่เป็นไปตามข้อเรียกร้องครั้งนี้คณะครูอำเภอระแงะจะดำเนินการหยุดการเรียนการสอนจนกว่าจะได้รับการตอบสนองตามข้อเรียกร้อง

เผยครูในโรงเรียนขวัญกระเจิง

นายอิสมาน มุวรรณสินธุ์ รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านกูจิงรือป๊ะ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุมีผู้ปกครองและนักเรียนหลายคนในชุมชนแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น เพราะตลอดเวลาที่มารับราชการทำหน้าที่ครูของ น.ส.จูหลิง เป็นคนตั้งใจและทุ่มเทการทำงานเป็นอย่าง มาก ประกอบกับเป็นคนนิสัยดี ไม่เคยมีปัญหา หรือขัดแย้ง กับใคร เป็นที่รักของชาวบ้านและเด็กนักเรียน สิ่งที่คณะครู อยากให้เจ้าหน้าที่ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง เข้าไปดูแลคือ อยากให้กำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลอย่างทั่วถึงและปฏิบัติหน้าที่อย่างจริงจัง เช่น กรณีการคุ้มครองขณะเดินทางไป-กลับของครู และเฝ้าดูจนครูทุกคนกลับถึง บ้านพักอย่างปลอดภัย รวมทั้งมีมาตรการระงับเหตุ หรือช่วยเหลือตัวประกันที่ทันท่วงที ไม่ใช่การทำงานของเจ้าหน้าที่ในปัจจุบันที่ปล่อยให้มีปัญหาและความสูญเสียเกิดขึ้น ขณะนี้ครูหลายคนมีความรู้สึกหวาดกลัวมากในการ เดินทางไป-กลับจากโรงเรียน

นร.กว่า 200 ผวาหนัก-ลาออก

นายไพรัช แสงทอง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานราธิวาส เขต 1 กล่าวว่า ยังคงคาใจการเข้าไปช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ล่าช้า ทำให้ น.ส.จูหลิงถูกทำร้ายบาดเจ็บและส่งผลกระทบกับโรงเรียนอื่นๆ ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ครูเกิดความหวาดกลัวและในวันจันทร์ที่ 22 พ.ค.เป็นต้นไป ทุกโรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษานราธิวาส เขต 1 ประมาณ 100 โรงเรียน จากทั้งหมด 199 โรงเรียน จะปิดอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถจับกุมคนกระทำผิดมาลงโทษและมีการทำงานตามมาตรการต่างๆ ที่ตกลงกันไว้อย่างชัดเจน

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าเด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านกูจิงรือปะ หมู่ 4 ต.เฉลิม อ.ระแงะ กว่า 200 คน ผู้ปกครองให้ลาออกจากโรงเรียนแล้ว เพื่อนำบุตรหลานไปเรียนยังโรงเรียนอื่น หลังทราบข่าวว่าจะตั้งทหารพราน 1 กองร้อยในโรงเรียน เป้าหมายเพื่อสร้างความเข้าใจกับชาวบ้านและพัฒนาโรงเรียน เช่น สร้างรั้ว และปรับปรุงโรงเรียนให้มีสภาพที่ดีกว่าเดิม แต่ชาวบ้านกลับมองไปอีกอย่างหนึ่ง กลัวว่าจะเป็นเป้าการโจมตีของกลุ่มผู้ไม่หวังดี

รวบ 2 ผู้ต้องสงสัยสอบเครียด

ในส่วนความคืบหน้าการติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุจับครูเป็นตัวประกันและทำร้ายครั้งนี้มีรายงานว่า เมื่อกลางดึกวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา กำลังทหาร ตำรวจกว่า 100 นาย ได้เข้าตรวจค้นจับกุมนายมะยาวี มะเยาะกาเซ๊ะ ผช.ผู้ใหญ่บ้านกูจิงลือปะ หมู่ 4 ต.เฉลิม อ.ระแงะ พบของกลางที่คาดว่าจะนำไปใช้ก่อเหตุหลายรายการ ขณะเดียวกัน ได้จับกุม น.ส.บาวารกิจ ฮินนะ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 หมู่ 4 บ้านกูจิงลือปะ ต.เฉลิม ผู้ต้องสงสัยคดีเดียวกันไปสอบสวน จากการสอบสวนในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทราบว่ายังมีชาวบ้านในหมู่บ้านดังกล่าวอีกหลายคนที่ร่วมกันบุกจับตัวครูสาวทั้ง 2 คน มากักขังไว้ในห้องศูนย์พัฒนาเด็กเล็กนานนับชั่วโมง ก่อนที่จะมีกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน 5 คน มารุมกระทืบและใช้ไม้ทุบตี และชกต่อยทำร้ายร่างกายครูสาวทั้ง 2 คน จนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยมีภรรยาของคอเต็บหรือผู้ช่วยอิหม่ามประจำมัสยิดรายหนึ่งเป็นผู้บงการ และล้างสมองชักชวนชาวบ้านให้มารวมตัวกันจับครูไปทำร้าย

ชิดชัย ยอมรับแล้วการข่าวล่าช้า

พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รักษาการนายกรัฐมนตรี และ รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงสถานการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ในวันที่ 22 พ.ค. จะรายงานผลการประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงแก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ที่จะเข้าร่วมหารือถึงปัญหาความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยเฉพาะเหตุการณ์ทำร้ายครู 2 คน ใน จ.นราธิวาส ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการกระทำของกลุ่มอาร์เคเค มีลักษณะเดียวกับเหตุการณ์จับนาวิกโยธินเป็นตัวประกันแล้วสังหาร ที่หมู่บ้านตันหยงลิมอ ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าการข่าวของเราตามหลังฝ่ายตรงข้ามไป 1 ก้าว ซึ่งเหตุการณ์ความรุนแรงมักเกิดขึ้นในพื้นที่เดิม และพื้นที่ดังกล่าวก็เป็นพื้นที่เป้าหมายในการควบคุม ทำให้เหตุการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แก้ไขลำบาก เพราะปัญหาเรื้อรังมานานนับร้อยปี การแก้ปัญหาต้องใช้เวลา จากนี้ไปจะเน้นการใช้กฎหมายควบคู่กับการปฏิบัติจิตวิทยา สำหรับเหตุการณ์ในพื้นที่ยังอยู่ในระดับทรงตัว แต่ที่หลายฝ่ายเข้าใจว่ามีความรุนแรงมากขึ้นในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา เพราะใช้ความรู้สึกมอง ตนว่าไม่ควรมองเฉพาะเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งเท่านั้น แต่หากมองจากสถิติจะพบว่าไม่ได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งในปี 2550 จะมีการปรับแผนใหม่ทั้งหมด

ยืนยันไม่ย้ายนายอำเภอ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงมหาดไทยว่า ในการประชุมร่วมระหว่าง พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา รมว.มหาดไทย กับ ผอ.เขตการศึกษา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น พล.อ.อ.คงศักดิ์เสนอแนวทางว่า หากมีการจับกุมแกนนำหรือผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่สีแดงใน 3 จังหวัด ที่มีอยู่ประมาณ 50-60 หมู่บ้าน จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวครูออกจากพื้นที่คู่ขนานกันไป เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่จะเกิดจากการจับครูเป็นตัวประกัน อย่างเช่นที่เคยเกิดขึ้น ซึ่ง ผอ.เขตการศึกษาทั้ง 3 จังหวัดก็เห็นด้วย ทั้งนี้ รมว.มหาดไทย จะเสนอเรื่องดังกล่าวในที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติในวันที่ 22 พ.ค. นี้ นอกจากนี้สำหรับนายอำเภอระแงะที่ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านระบุว่าไม่เข้าไปให้ความช่วยเหลือทันทีนั้น พล.อ.อ.คงศักดิ์ ได้เรียกตัวมาคุยและระบุว่า นายอำเภอไม่มีกำลังที่จะบุกเข้าไปช่วยเหลือ และหน้าที่ในการชิงตัวประกันเป็นหน้าที่ของทหาร ตำรวจ ดังนั้น จึงคงไม่มีการย้ายนายอำเภอคนดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการช่วยเหลือ น.ส.จูหลิง ปงกันมูล นั้น พล.อ.อ.คงศักดิ์ได้สั่งการให้เตรียมเครื่องบิน ซี 130 ไว้ หากมีการเคลื่อนย้าย น.ส.จูหลิงออกจากโรงพยาบาล

ชาวบ้านร่วมทำพิธี ฮ้องขวัญ

ส่วนบรรยากาศที่บ้านเลขที่ 114 หมู่ 10 ต.ปงน้อย กิ่ง อ.ดอยหลวง จ.เชียงราย บ้านเกิดของ น.ส.จูหลิง หรือครูจุ้ย ปงกันมูล เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน นางแสงหล้า พรมเมือง น้าสาวของครูจุ้ย พร้อมกลุ่มญาติและชาวบ้านเกือบ 100 คน ร่วมทำพิธี ฮ้องขวัญ หรือ เรียกขวัญ โดยนำข้าวตอกดอกไม้ หมากพลู และเครื่องเซ่นไหว้ ทำพิธีเรียกจิตหรือวิญญาณให้กลับเข้าร่าง ตามความเชื่อที่ว่าหลังประสบเหตุ จิตหรือวิญญาณจะหลุดลอยออกจากร่างไปและอาจจะหลงทางไปที่อื่นจนทำให้ไม่หายจากอาการป่วย ขณะเดียวกัน กลุ่มชาวบ้านยังพากันมาชุมนุมที่บ้านของครูจุ้ย เพื่อเป็นกำลังใจและเปิดโทรทัศน์ ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด

น้าสาวเผยภาพวาดฝีมือครูจุ้ย

หลังเสร็จพิธี นางแสงหล้าพาผู้สื่อข่าวไปดูภาพวาดฝีมือของครูจุ้ย ที่ติดอยู่ในห้องนอนและห้องโถงบ้านอย่างสวยงามกว่า 10 ภาพ ในจำนวนนี้มีภาพวาดพระ บรมสาทิสลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรวมอยู่ด้วย พร้อมกล่าวว่า ตอนนี้ญาติและชาวบ้านห่วงอาการของครูจุ้ยมาก ทุกคนมีความหวังว่าหากปาฏิหาริย์มีจริงจะหายเป็นปกติได้ ครูจุ้ยถือเป็นความหวังของพ่อแม่ญาติพี่น้องและเพื่อนบ้าน เพราะมีโอกาสได้รับราชการคนเดียว ก่อนเข้าไปทำงานในพื้นที่เคยห้ามแล้วว่าอันตราย แต่ครูจุ้ยบอกว่าเป็นโอกาสที่จะได้ตอบแทนบุญคุณแผ่นดินไทย ด้านนายปรีชา ศรีสุวรรณ นายกสมาคมผู้ประกอบ วิชาชีพครูเชียงราย กล่าวว่า ฐานะครูคนหนึ่งขอกล่าวแทนครูในจังหวัดเชียงรายว่า รู้สึกเสียใจและขอประณามต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งๆที่ครูซึ่งเป็นผู้ให้ความรู้ด้าน การศึกษาสำหรับเด็ก แต่กลับมาถูกทำร้ายโดยที่ไม่มีอาวุธจะปกป้องตัวเองด้วยซ้ำ จึงขอให้กรณีของครูจูหลิงเป็นคนสุดท้ายที่ถูกทำร้าย อยากให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลความปลอดภัยของครูใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ให้มากกว่านี้ พร้อมนำคนผิดมาลงโทษโดยเร็ว

ดักระเบิดถล่ม จนท.


ส่วนสถานการณ์รุนแรงในพื้นที่ยังมีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 11.00 น. วันเดียวกัน ร.ต.ท.ชัยฤทธิ์ อินดำ ร้อยเวร สภ.อ.ระแงะ จ.นราธิวาส รับแจ้งพบวัตถุต้องสงสัยอยู่ริมถนนสายตันหยงมัส-ซีโปร์ บ้านปาเซ หมู่ 2 ต.บาโงสะโต จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.วิเชียร ยันตรัตน์ รอง ผกก.ป. นำกำลังพร้อมชุดเก็บกู้ระเบิดเหยี่ยวดง ของ นปพ.นราธิวาส ไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุอยู่ห่างจาก โรงเรียนประชาบำรุง ประมาณ 100 เมตร พบกล่องกระดาษพันด้วยเทปกาวห่อด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์จึงใช้ปืนยิงทำลาย พบว่าภายในเป็นไฟแช็กแก๊สที่บรรจุดินประสิวเอาไว้และมียากันยุงแบบขดผูกติดกันและยากันยุงมีรอยเผาไหม้แต่ไม่หมด คาดว่าเป็นระเบิดที่ทำให้เกิดเสียงดังเพียงอย่างเดียว ใกล้กันยังพบร่องรอยการขุดดิน คาดว่าคนร้ายเตรียมวางระเบิดดักสังหารเจ้าหน้าที่ที่ใช้เส้นทางดังกล่าวเดินทางไปช่วยเหลือ 2 ครูสาวโรงเรียนบ้านกูจิงรือปะ ที่ถูกจับเป็นตัวประกัน แต่คนร้ายยังไม่ทันฝังระเบิดชาวบ้านมาพบเห็นเสียก่อนจึงหลบหนีไป

ยิงพ่อ ผอ.โรงเรียนดับคาที่


ต่อมาตอนเย็นวันเดียวกัน ร.ต.ท.ชัยฤทธิ์ อินดำ ร้อยเวร สภ.อ.ระแงะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีคนถูกยิงเสีย ชีวิตบนถนนสายตันหยงมัส-ป่าไผ่ หมู่ 7 ต.ตันหยงลิมอ ไปสอบสวนพบศพนายสมบูรณ์ ราชสุวรรณ อายุ 69 ปี อยู่บ้านเลขที่ 107 หมู่ 2 บ้านร่อน ต.ตันหยงมัส เป็นบิดาของนายพล ราชสุวรรณ ผอ.ร.ร.บ้านสาเมาะ ต.บองอ อ.ระแงะ ถูกยิงด้วยปืน 11 มม. ที่หูขวาทะลุแก้มซ้าย 1 นัด สะบักหลังทะลุหน้าอก 1 นัด ส่วนคนเจ็บถูกนำส่ง รพ.ระแงะ ชื่อนางเต็ม สามเสาร์ อายุ 69 ปี ภรรยาของนายสมบูรณ์ ถูกยิงด้วยปืนขนาดเดียวกันที่กลางหลังทะลุหน้าท้อง 1 นัด อาการสาหัส สอบพบว่านายสมบูรณ์กับภรรยาถูกคนร้าย 2 คน ขี่รถ จยย.ไล่ยิงขณะขี่รถ จยย.จะไปสวนยางพารา เชื่อเป็นฝีมือโจรใต้ก่อเหตุสร้างสถานการณ์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์