แก๊งบุรุษไปรษณีย์ ฉกพุทธรูป มีใบสั่ง-เน้นวัดดัง

รวบ 2 หนุ่มพนักงานไปรษณีย์ ใช้รถที่ทำงานลักลอบขโมยพระวัดต่างๆ ทั่วกรุง

ล่าสุดฉกพระพุทธรูปอายุนับร้อยปีไปจากวัดดีดวด ย่านจรัญสนิทวงศ์ แฉจนมุมเพราะรีบจนลืมถุงไปรษณีย์ทิ้งไว้ แถมมีพยานเห็นรถวิ่งเข้าออกตอนดึกผิดปกติ ตำรวจบก.น.7 ตามรอยไปถึงที่ทำงานก่อนจับได้พร้อมของกลางพระพุทธรูป 2 องค์และรถที่ใช้เป็นพาหนะ ตะลึงก่อเหตุมาหลายครั้งโดยมีเพื่อนร่วมแก๊งอีกคนทำทีเป็นห่มขาวเข้าไปนั่งวิปัสสนาในวัดแล้วดูลาดเลา พร้อมหาข้อมูลพระพุทธรูปที่ตลาดต้องการ หลังลงมือจะนำไปซุกไว้ในพง หญ้าแล้วถ่ายรูปไปให้ลูกค้าดู หากตกลงกันได้ค่อยย้อนกลับมาเอาของไปส่ง เร่งขยายผลตามจับพรรคพวกที่เหลือทั้งหมด

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 มี.ค. พ.ต.อ.สมชาย มุสิกะเจริญ รองผบก.น.7 พ.ต.อ.สุธีร์ เนรกัณฐี รอง ผบก.น.7 พ.ต.อ.เกียรติณรงค์ เฉลิมสุข ผกก.สน.บาง กอกใหญ่ พ.ต.ท.พิสิษฐ์ เก็งทอง สว.สส.สน.บางกอกใหญ่

ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายไพรัช หรือบาน นวลอนงค์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 301 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช และนายอุชุวัฒน์ หรือเอ๋ ทวีศรี อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32/5 ตรอกวัดราชสิทธิ์ แขวงท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กทม. ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่บริษัทไปรษณีย์ไทย สาขาบางกอกใหญ่ พร้อมของกลาง พระพุทธรูปยืนปางอุ้มบาตร หล่อด้วยทองเหลืองสูง 150 ซ.ม. จำนวน 1 องค์ พระพุทธบูชาปางสมาธิ หน้าตักกว้าง 8 นิ้ว สูง 10 นิ้ว จำนวน 1 องค์ และรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาว เลขทะเบียน ณก 4425 กทม. ของบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด

พ.ต.อ.สมชายกล่าวว่า ทั้งนี้ สืบเนื่องด้วยเมื่อวันที่ 12 มี.ค. เวลากลางคืนที่ผ่านมา
 
มีกลุ่มคนร้ายบุกเข้างัดประตูโบสถ์ภายในวัดดีดวด ซอยจรัญสนิทวงศ์ 12 แขวงท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ ลักพระพุทธรูปสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น จำนวนสององค์ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางกอกใหญ่ ร่วมกับตำรวจกก.สส.บก.น.7 ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบถุงไปรษณีย์ และคีมตัดเหล็กของคนร้ายทิ้งอยู่ที่เกิดเหตุ เชื่อได้ว่าน่าจะเกี่ยวข้องและทำงานอยู่ในไปรษณีย์ จึงสืบสวนจนทราบว่าคนร้ายทำงานอยู่บริษัทไปรษณีย์ ไทย สาขาบางกอกใหญ่ โดยกลุ่มคนร้ายใช้คีมสองอันตัดโซ่คล้องประตูโบสถ์แล้วใช้รถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน ณก 4425 กทม. ที่ใช้งานในบริษัทไปรษณีย์ฯคันดังกล่าว ขับเข้ามาจอดขนพระพุทธรูปใส่รถขับหลบหนี ตำรวจติดตามจับกุมได้บริเวณตรอกตาแทน ถนนอิสรภาพ ซอย 7 แขวงท่าพระ เขตบางกอก ใหญ่


สอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่าร่วมกับนายปิยพันธ์ หรือน้อยทีป จิตรซื่อ อายุ 55 ปี
 
อยู่บ้านเลขที่ 220/889 หมู่ 4 ต.ในคลองปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งลักพระพุทธรูป กำลังหลบหนีอยู่ จึงได้ขออนุมัติออกหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชันที่ จ.551/2551 ลงวันที่ 23 มี.ค.51 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ที่เป็นพระพุทธรูปในเวลากลางคืน จากนั้นพาไปเอาของกลางที่ซุกซ่อนไว้ที่บริเวณพงหญ้าภายในซอยอิสรภาพ 42 แยก 4 จึงได้ยึดของกลางไว้ตรวจสอบ

พ.ต.อ.สมชายกล่าวว่า การสืบสวนจนสามารถจับ กุมคนร้ายแก๊งนี้ได้

เพราะคนร้ายทิ้งหลักฐานสำคัญเป็นถุงไปรษณีย์และคีมตัดเหล็ก ซึ่งคาดว่าอาจจะรีบจนลืม หรือมีคนผ่านมาจึงตกใจและขึ้นรถหนีไปโดยทิ้งถุงไปรษณีย์ไว้กระทั่งเป็นเบาะแสให้ตำรวจดังกล่าว นอกจากนี้ มีพยานระบุว่าเห็นรถไปรษณีย์คันดังกล่าววิ่งเข้าออกในซอยที่เกิดเหตุช่วงเวลา 03.00 น. โดยคนร้ายกลุ่มนี้จากการตรวจพบว่าเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง โดยเฉพาะนายอุชุวัฒน์ หรือเอ๋ ซึ่งทำงานขับรถส่งพัสดุภัณฑ์ไปรษณีย์ สาขาบางกอกใหญ่ ก่อเหตุเมื่อ ม.ค.51 ลักแจกันลายคราม 1 คู่จากศาลาการเปรียญวัดนางนอง ย่านบางขุนเทียน โดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ เดือนก.พ.พยายามลักทรัพย์ที่วัดนาถกลาง ซอยโรงเรียนทวีธาภิเษกถึง 3 ครั้ง แต่ไม่ได้อะไรไป และเดือนมี.ค.ลักทรัพย์ที่วัดหงษ์รัตนาราม หลังสน.บางกอก ใหญ่ แต่ไม่ได้ทรัพย์สินไปเช่นกัน

พ.ต.อ.สมชายกล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ทั้งนายไพรัช และนายอุชุวัฒน์ จะลักทรัพย์ทั่วไปตามวัด

อาทิ วัดราชสิทธาราม วัดใหม่พิเรนทร์ วัดอรุณราชวราราม วัดจำปา วัดใหญ่ตลาดพลู จนกระทั่งมาเจอกับนายน้อยทีป อ้างตัวเป็นนักเลงพระ ชอบนุ่งขาวห่มขาว ทำตัวเป็นคนธรรมะธรรมโม เข้าวัดฟังเทศน์ฟังธรรม ซึ่งจะอาศัยในช่วงนี้คอยดูลาดเลาทรัพย์ของมีค่าภายในวัดในโบสถ์ จากนั้นจะทำแผนผังเพื่อให้ทั้งสองคนเข้าไปโจรกรรม ให้ค่าจ้างนายไพรัช และนายอุชุวัฒน์คนละ 2,000 บาท โดยการวางยาเบื่อหมา ใช้อุปกรณ์งัดตัดโซ่คล้องประตูเข้าไปลักพระพุทธรูป จากนั้นนำพระพุทธรูปไปซุก ซ่อนไว้พงหญ้าบริเวณซอยอิสรภาพ 42 ทิ้งไว้นาน 1-2 เดือน เพื่อให้เรื่องเงียบก่อน หรือบางครั้งจะเอาพระปลอมที่เลียนแบบไปวางไว้แทนเพื่อตบตาเจ้าทรัพย์ แล้วถ่ายรูปนำไปให้ลูกค้าดูเพื่อเจรจาซื้อขาย ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นพวกผู้ใหญ่ และลูกค้าชาวต่างชาติ ตำรวจจะได้สืบสวนขยายผลเพื่อจับกุมตัวนายน้อยทีป ที่ยังหลบหนีต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานหลังจากเจ้าหน้าที่นำพระพุทธรูปส่งคืนให้กับวัดดีดวด มีชาวบ้านทราบข่าวต่างแห่กันมา รอดูหน้าโจรและด่าสาปแช่งคนร้าย พร้อมกันกราบไหว้พระพุทธรูปสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ซึ่งประเมินค่าไม่ได้ ที่ตำรวจสามารถติดตามกลับคืนมาได้อย่างรวดเร็ว

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์