ญาติมือปาหินเตรียมหามศพขอความเป็นธรรม

กรณีมือมืดปาก้อนหินใส่กระจกรถบรรทุกสิบล้อ ยี่ห้อฮีโน่ ทะเบียน 70-1249 เพชรบุรี ที่นายสนิท สายเพ็ชร ขับมาตามถนนเพชรเกษม หลักกม.ที่ 147-148

หมู่ 3 ต.ต้นมะพร้าว อ.เมือง จ.เพชรบุรี จนกระจกรถแตกแล้วก้อนหินถูกศีรษะของ ด.ช.อนุพงษ์ สายเพ็ชร หรือ “น้องมอส” อายุ 12 ปี ลูกชายนายสนิท เสียชีวิต โดยทางพ่อคนตายและทางตำรวจได้ตั้งรางวัลนำจับไว้ 1 แสนบาท แต่ต่อมาก็มีคนมาพบศพนายพนม หรือหมู อินทกูล อายุ 37 ปี ชาวกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ กินยาฆ่าตัวตายในโรงแรมม่านรูดแฮปปี้อินน์  ต.ไร่ส้ม อ.เมือง จ.เพชรบุรี ซึ่งมีคนสนิทยืนยันว่านายพนม เครียดที่ก่อเหตุปาหินจนมีคนตายจึงตัดสินใจฆ่าตัวตายดังกล่าวนั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (13 มี.ค.) พ.ต.ท.สนธยา ดีหะสิงห์ พงส.สบ 3 สภ.เมืองเพชรบุรี

เจ้าของคดี ระบุว่าหลังจากได้ส่งก้อนหินในที่เกิดเหตุไปตรวจหารอยลายนิ้วมือแฝงแล้วไม่พบลายนิ้มมือแต่อย่างใด ขณะที่พล.ต.ต.คเชนทร์ คชพลายุกต์ ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี กล่าวยืนยันว่าจากการสอบสวนถึงพฤติกรรมของนายพนมแล้วเชื่อว่าน่าจะเป็นผู้ก่อเหตุจริง ส่วนพล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.ภ.7 ได้สั่งการให้พล.ต.ต.ยงยุทธ เตียวตระกูล พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผบช.ภ.7 ร่วมกันคลี่คลายข้อแคลงใจของประชาชนว่านายพนม จะเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุจริงหรือไม่ ด้วยการให้นำพยานที่เกิดเหตุ พยานแวดล้อมมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

ที่วัดหนองตาเสือ อ.กุยบุรี สถานที่ตั้งสวดพระอภิธรรมศพนายพนม

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสังเกตการณ์พบว่ามีบรรดาญาติๆของนายพนม และเพื่อนบ้าน มาร่วมกันจำนวนหนึ่ง โดยนางหทัยกาญจน์ อินทกูล พี่สาวนายพนม กล่าวว่า ตามปกติแล้วคนตายไม่ได้มีนิสัยโมโหร้ายหรือก้าวร้าวแต่อย่างใด ทุกครั้งที่มีปัญหาครอบครัวหรือส่วนตัวก็จะโทรศัพท์มาปรึกษากับตนตลอด ซึ่งเรื่องน้องชายกลายไปเป็นคนร้ายปาหินนั้นตนไม่เชื่อเด็ดขาด ซึ่งตนกับญาติๆจะไม่เผาศพน้องชายจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรมจากตำรวจและสังคม โดยจะนำศพไปประท้วงขอความเป็นธรรมที่ศาลากลางจังหวัดเพชรบุรีด้วย