สตช.ให้ใช้เว็บไซต์ เช็กข้อมูลในคดีรถ

ความคืบหน้าคดีแชร์รถเช่า  ภายหลังผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัทต่างๆ ที่หลอกลวงให้นำรถยนต์ป้ายแดงเข้าร่วมหุ้นลงทุน ก่อนจะเชิดรถส่งไปขายประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีเหยื่อทยอยเข้าแจ้งความในหลายท้องที่ รถยนต์สูญหายหลายร้อยคันนั้น


ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล วันที่ 19 ก.พ. พล.ต.ต. จุตติ ธรรมมโนวานิช รอง ผบช.น. กล่าวว่า

ได้เสนอ ตร.เพื่อจัดตั้งคณะพนักงานสอบสวน เร่งคลี่คลายคดีแก๊งแชร์รถเช่า เนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังมีรถยนต์ของกลางที่ต้องติดตามหลายร้อยคัน เท่าที่ได้รับรายงานมียอดผู้เสียหายรวมแล้ว 468 ราย รถสูญหาย 638 คัน แยกเป็นท้องที่ สน.มีนบุรี มีผู้เสียหาย 300 ราย รถสูญหาย 398 คัน ผู้ต้องหา 4 คน จับกุมตัวได้แล้ว 1 คน ที่เหลือออกหมายจับกุม สน.นิมิตรใหม่ มีผู้เสียหาย 94 ราย จับกุมผู้ต้องหาได้ 1 คน รถสูญหาย 104 คัน ติดตามคืนได้ 1 คัน สน.บางพลัด มีผู้เสียหายทั้งสิ้น 68 ราย ผู้ต้องหา 6 คน จับกุมตัวได้แล้ว 3 ราย รถสูญหาย 129 คัน ได้คืนมาแล้ว 2 คัน ส่วน สน.ประเวศ มีผู้เสียหาย 6 ราย ผู้ต้องหา 2 คน รถสูญหาย 7 คัน
 

พล.ต.ต.จุตติ กล่าวอีกว่า สำหรับคดีที่ สน.บางพลัด ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังเร่งสรุปสำนวนที่ผู้เสียหายได้แจ้งความไว้

โดยจะรวบรวมทำสำนวนเป็นคดีเดียวกัน ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน เพื่อส่งให้อัยการฟ้องภายในสัปดาห์นี้  แต่หากมีผู้ต้องหาเพิ่มเติม  ก็สามารถหาหลักฐานและผู้ต้องหาฟ้องในภายหลังได้อีก ในส่วนการสืบสวน พ.ต.อ.ปรีชา ธิมามนตรี รอง ผบก.หัวหน้าศูนย์สืบสวน บช.น. กำลังติดตามรถที่สูญหาย  ซึ่งจะอยู่ตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน  จากพฤติกรรมของแก๊งแชร์รถเช่า  เครือข่ายน่าจะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน

   

ส่วนที่ สน.มีนบุรี มีผู้เสียหาย เจ้าของรถเดินทางไปติดต่อขอรับรถของกลางที่ตำรวจตรวจยึดมาได้กลับคืนจำนวน 3 คัน

เป็นรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ผฉ 8199 ชลบุรี รถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ ทะเบียน ถก 5647 กทม. และรถกระบะ 4 ประตู อีซูซุ ดีแมคซ์ สีทอง ทะเบียน กบ 9848 ชลบุรี นายนพรัตน์ ศิลปะชัย อายุ 30 ปี ผู้เสียหายเจ้าของรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ผฉ 8199 ชลบุรี  เปิดเผยว่า นำรถไปร่วมลงทุนกับบริษัท ช.โชคอุดมรัตน์ จำกัด แต่รถหายไป ต่อมาทราบข่าวว่าตำรวจพบรถของตนและตรวจยึดมาได้จึงมาติดต่อรับรถคืน  แต่ยังมีรถของพี่สาวและเพื่อนอีก 2 คัน ยี่ห้อโตโยต้า วีออส หมายเลขทะเบียน 7955 นนทบุรี และรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ ทะเบียน ผก 1254 ชลบุรี ยังไม่ได้คืน กำลังเฝ้าติดตามข่าวและตรวจหาอยู่
  


ด้าน พ.ต.ท.สมคิด ตันสกุล พนักงานสอบสวน ในคดีแชร์รถเช่า กล่าวว่า

ได้รับการประสานจาก สภ.เมืองหนองคาย พบอู่ดัดแปลงรถยนต์และพบรถยนต์ต้องสงสัยจำนวน 4 คัน เป็นรถกระบะ วีโก้ 4 ประตู 3 คัน และรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ อีก 1 คัน นอกจากนี้ยังพบป้ายทะเบียนรถยนต์ ทั้งป้ายแดงและป้ายดำไม่ต่ำกว่า 40 แผ่น เบื้องต้นพบว่าเป็นทะเบียนรถที่แจ้งหายในคดีแชร์รถเช่าด้วย อย่างไรก็ตาม  รถที่พบเหล่านั้น  ถูกเปลี่ยนสภาพจากพวงมาลัยขวาเป็นพวงมาลัยซ้ายแล้ว  น่าเชื่อว่าจะเตรียมนำส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ขณะเดียวกัน มีกลุ่มผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อในคดีแชร์รถเช่า  รวมตัวกันนัดไปฟังความคืบหน้าที่ร้องเรียนต่อกระทรวงพาณิชย์ และ สคบ.ในวันพุธที่ 20 ก.พ. จากนั้น วันที่ 25 ก.พ.  จะเดินทางไปรับฟังความคืบหน้า  ที่ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีต่อไป 


ในวันเดียวกัน พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

กล่าวถึงปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้ว่า คนที่ครอบครองรถเช่า เกิดความสับสนกับรถยนต์ที่เช่าขับ ว่าเป็นรถที่ได้มาด้วยชอบหรือไม่ และเป็นรถที่เจ้าของแจ้งความไว้หรือไม่ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รวบรวมข้อมูลรถยนต์ทั้งหมดที่ได้แจ้งอายัดไว้กับพนักงานสอบสวนประมาณ 600-700 คัน โดยเชื่อมข้อมูลกับกรมการขนส่งทางบก ดังนั้น ประชาชนสามารถตรวจสอบรถในคดีนี้ ได้ทางเว็บไซต์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ www.police.go.th หรือโทรศัพท์หมายเลข 0-2051-8407, 0-2507-8607 แจ้งข้อมูลรายละเอียดยี่ห้อรถ หมายเลขทะเบียน รุ่น สีและหมายเลขตัวถังรถ หากเป็นรถที่ถูกอายัดไว้ และคิดว่าครอบครองรถโดยบริสุทธิ์ใจ ไม่มีเจตนากระทำผิด ขอให้นำรถไปส่งคืนที่ สน.ใกล้ที่สุด ไม่ต้องกลัวความผิด หรือไม่ต้องนำรถไปจอดทิ้งไว้ตามที่ต่างๆ
 

โฆษก ตร.กล่าวต่อว่า ขณะนี้ ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ส่งข้อมูลทั้งหมด แก่ด่านตรวจทุกสถานีทั่วประเทศ ตรวจเข้มเรื่องรถยนต์ป้ายแดง

ดังนั้นขอความกรุณาผู้ขับขี่รถยนต์ป้ายแดง ถ้าเป็นรถที่ถูกต้อง ให้นำเอกสารติดไปให้ครบถ้วน ส่วนกรณีการดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล 3 นาย พล.ต.ต.อุดมชัย อมาตยกุล ผบก.ส.3 ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัด ได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง พฤติกรรมของตำรวจทั้ง 3 นายแล้ว แยกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 นายผิดวินัยไม่ร้ายแรง ในข้อหาให้ข้อมูลเท็จผู้บังคับบัญชา กับกรณีของ ส.ต.ท.มนตรี เทวรัตน์ และ ร.ต.อ.กรินทร์ ทองมโนสุข กรณีการครอบครองรถ ส่วนจะพิสูจน์ที่มาของรถคันดังกล่าวอย่างไร เป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชาพิจารณาความผิด ทั้งสองส่วนไม่เกี่ยวข้องกับคดีอาญา เป็นเรื่องทางวินัย ส่วนใหญ่เป็นโทษกักขัง ขณะนี้ ผบช.ส. ได้ขอขยายเวลาการสอบสวนขยายผลออกไปอีก 3 วัน ส่วนคดีอาญาเป็นเรื่องของ สน.มีนบุรีดำเนินการ
 

ที่ จ.ชลบุรี เวลา 17.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.อ.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผกก.สภ.เมืองชลบุรี
 
ได้จับกุมนางชุติพรรณ โกกนุทาภรณ์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 ซอยมาบกรูด 4/5 ถนนมาบกรูด ต.บ้านบึง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี 1 ในเครือข่ายแชร์รถเช่าบริษัทโชคทวีอุดมทรัพย์ จำกัด และตำรวจ สภ.บ้านบึง ออกหมายจับกุมตัวไว้แล้ว ขณะแอบย่องไปดูว่ามีผู้เสียหาย เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองชลบุรี อีกหรือไม่ เบื้องต้นให้การอ้างว่า เป็นแค่นายหน้าพาลูกค้าที่มีรถกระบะและรถเก๋ง ไปทำสัญญาเช่ากับนายจักรรินทร์ พลอยสารักษ์ อายุ 41 ปี เจ้าของบริษัทโชคทวีอุดมทรัพย์ จำกัดเท่านั้น ได้ค่าตอบแทนคันละ 1,000-3,000 บาท แล้วแต่สภาพความเก่าใหม่ของรถ รวมประมาณ 80-100 คัน หลังเกิดเรื่องแดงได้ติดตามรถคืนให้ลูกค้าในส่วนที่ตนเป็นนายหน้ากลับคืนมาได้ ประมาณ 20 คัน ที่เหลือยังติดตามไม่พบ
 

ด้าน พ.ต.อ.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผกก.สภ.เมืองชลบุรี กล่าวว่า ภายหลังสอบปากคำได้ส่งตัวนางชุติพรรณ ไปให้พนักงานสอบสวน สภ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ดำเนินการ เนื่องจากคดีในตอนแรก เกิดขึ้นท้องที่ สภ.บ้านบึง ส่วนท้องที่ สภ.เมืองชลบุรี มีเหยื่อเข้าแจ้งความรถสูญหายประมาณ 50 คัน


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์