รวบเมียทมิฬ สั่งฆ่า-ผัวฝรั่ง

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 4 ก.พ. ที่ห้องประชุม สภ.เมืองระนอง

นางกาญจนาภา กี่หมัน ผวจ.ระนอง พล.ต.ต.อภิรักษ์ หงษ์ทอง ผบก.ภ.จ.ระนอง พ.ต.อ.วิสุทธิ์ ศรีคง ผกก. พ.ต.ท.ชัยสิทธิ์ สิทธิธัย รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.สงกรานต์ เพชรน้อย รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.โชคดี มาบางยาง สว.สส. พ.ต.ท.เสกสรรค์ แก้วสว่าง รอง ผกก.ป. สภ.ละอุ่น จ.ระนอง แถลงข่าวจับกุมคนร้ายฆ่าคนตาย คนร้ายทั้งหมดมีนางมณีรัตน์ เฮนรี่ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/11 หมู่ 2 ต.หาดส้มแป้น อ.เมืองระนอง นายอมรศักดิ์ เกษแก้ว อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ 4 ต.บางพระเหนือ อ.ละอุ่น จ.ระนอง และนายจินดา แซ่แต้ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31/1 หมู่ 1 ต.บางพระเหนือ อ.ละอุ่น โดยร่วมกันฆ่านายเดลล์ จอร์ช เฮนรี่ อายุ 47 ปี ชาวแคนาดา


พล.ต.ต.อภิรักษ์ หงษ์ทอง ผบก.ภ.จ.ระนอง เปิดเผยว่า

ตีหนึ่งวันที่ 3 ก.พ. ร.ต.อ.ถาวร อัมพันธ์ ร้อยเวร สภ.เมืองระนอง ได้รับแจ้งมีคนถูกฆ่าที่บ้านเช่าสองชั้นเลขที่ 55/2 หมู่ 4 ต.บางนอน อ.เมืองระนอง เมื่อไปตรวจสอบพบศพอยู่กลางห้องรับแขกทราบชื่อภายหลังว่านายเดลล์ จอร์ช เฮนรี่ ในสภาพนอนหงาย ใส่เสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสั้นสีฟ้า ถูกยิงด้วยปืนลูกซอง 1 นัด กระสุนเข้าที่หน้าผากและลำตัว


นางมณีรัตน์ เฮนรี่ ภรรยานายเดลล์ให้การว่าสามีนั่งดื่มเหล้าและดูโทรทัศน์อยู่ชั้นล่าง

ส่วนตนขึ้นไปนอนชั้นบน หลังจากนั้นไม่นานได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจึงวิ่งลงมาดู เห็นสามีถูกยิงตายแล้ว แต่จากการสอบปากคำนางโซโซแว อายุ 22 ปี สาวใช้ชาวพม่าให้การว่า ได้ยินเสียงสุนัขเห่า เมื่อมองผ่านหน้าต่างออกไปหน้าบ้าน เห็นเงาคน 2 คนเข้ามาในบริเวณบ้าน ขณะเดียวกันนางมณีรัตน์บอกให้ไปนอนก็เลยเข้าห้องไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำโทรศัพท์มือถือของนางมณีรัตน์มาตรวจสอบ พบว่าเมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2551 เวลา 22.13 น. มีการส่ง SMS ข้อความว่า บอกอาให้ทำพรุ่งนี้นะ ทำเสร็จแล้วค่อยไปงานศพนะ ทำให้ได้ และเมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2551 เวลา 08.44 น. ส่งข้อความว่า เธอบอกให้อาทำคืนนี้เลยนะ โดยข้อความถูกส่งไปยังโทรศัพท์มือถืออีกเครื่องหนึ่ง เมื่อตรวจสอบหมายเลขปลายทางทราบว่าเจ้าของเครื่องชื่อนายอมรศักดิ์ เกษแก้ว จึงเรียกมาสอบสวน
 


นายอมรศักดิ์ให้การว่า มีอาชีพขับรถตักดิน

เมื่อประมาณต้นเดือน ม.ค. นางมณีรัตน์ซึ่งเคยคบหากันมาก่อนและภายหลังไปแต่งงานกับนายเดลล์แต่ยังติดต่อกัน ให้ช่วยหามือปืนยิงนายเดลล์ ให้ค่าจ้าง 6 หมื่นบาท จ่ายล่วงหน้า 3 หมื่นบาท จึงไปว่าจ้างนายจินดา แซ่แต้ และเลื่อนวันสังหารเหยื่อมาเป็นวันที่ 3 ก.พ. เมื่อจนด้วยพยานหลักฐาน นางมณีรัตน์จึงยอมสารภาพว่าแต่งงานอยู่กินกับนายเดลล์มา 6 ปี นายเดลล์ทำงานเป็นช่างอยู่บริษัทขุดเจาะน้ำมันที่ประเทศไนจีเรีย ทำงานประมาณ 2 เดือน จะเดินทางกลับจากไนจีเรียมาพักที่เมืองไทยราว 2 สัปดาห์ ส่วนตนไม่ได้ทำงาน
 

นางมณีรัตน์ให้การต่อไปว่า เมื่อ 5 เดือนก่อนช่วงได้หยุดพัก พากันไปเที่ยวภาคเหนือแล้วนายเดลล์ ประสบอุบัติเหตุหกล้มทำให้ขาเจ็บ อยู่ระหว่างพักรักษาตัวยังไม่ได้กลับไปทำงาน

ที่ผ่านมาสามีจะดื่มสุราเป็นประจำ เมื่อเมาแล้วจะทะเลาะกันถึงขั้นลงไม้ลงมือและยังด่าว่าเหยียดหยามดูหมิ่นตน เลยตัดสินใจให้นายอมรศักดิ์ซึ่งเคยคบหากันมาก่อนแต่งงานและยังติดต่อกัน ให้ช่วยหามือปืนมายิงนายเดลล์ โดยวางแผนให้สามีดื่มสุราจนเมา ส่วนตนทำทีเป็นง่วงขึ้นไปนอนก่อน และส่งสัญญาณด้วยการปิดไฟในบ้านเพื่อให้มือปืนเข้ามาสังหาร จากนั้นวิ่งลงมาจากห้องนอนดูเหตุการณ์แล้วโทรศัพท์แจ้งความ
 

หลังสอบสวน พ.ต.ท.โชคดี มาบางยาง สว.สส. สภ.เมืองระนอง รวบรวมพยานหลักฐานเสนอศาลขออนุมัติหมายจับนายจินดา

และประสานไปยัง พ.ต.ท.เสกสรรค์ แก้วสว่าง รอง ผกก.ป.สภ.ละอุ่น ไปจับกุมนายจินดาและค้นบ้าน ซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำ สอบสวนนายจินดาให้การปฏิเสธไม่เกี่ยวข้อง ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบประวัติพบว่าปี 2549 นายจินดาถูกกล่าวหาว่าร่วมกับพวกฆ่านายกองค์การบริหารส่วนตำบลปากทรง อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร คดีอยู่ในชั้นอุทธรณ์และนายจินดาให้การปฏิเสธและประกันตัวสู้คดี อย่างไรก็ตาม ได้แจ้งข้อหาทั้ง 3 คนคุมตัวดำเนินคดี


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์