2 โจรโจ๋ ปล้นทองหนัก 30 บ.หนีสบาย

"รับแจ้งคนร้ายปล้นทองเยาวราช"


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.30 น. วานนี้ (4 ธ.ค.) ร.ต.ต.ธงทอง เอี่ยมเวียง ร้อยเวร สภ.อ.เมืองสมุทรสาคร ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกชิงทรัพย์ห้างทองเยาวราชทองใบ เลขที่ 79/7 ริมถนนเศรษฐกิจ 1 หมู่ 7 ต.ท่าทราย จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.สมพงษ์ สำราญสุข ผบก.ภ.จ.สมุทรสาคร พ.ต.อ.เทพฤทธิ์ พรรณพัฒน์ รอง ผบก.ภ.จ.สมุทรสาคร พ.ต.อ.ชุมพล ฉันทะจำรัสศิลป์ ผกก.สภ.อ.เมืองสมุทรสาคร พ.ต.ท.ธีระเดช อธิภัคกุล รอง ผกก.ป. นำกำลังรุดไปสอบสวน

ที่เกิดเหตุเป็นตึกแถว 3 ชั้น ตั้งอยู่กลางแหล่งชุมชนย่านตลาดคลองครุ พบนายสินชัย พฤหัสนนท์ อายุ 36 ปี เจ้าของร้าน กับ น.ส.จรรยานุช บุปผามะตะนัง อายุ 25 ปี พนักงานขาย ยืนรออยู่ด้วยสีหน้าแตกตื่น ชี้ให้ดูตู้โชว์ติดผนังหลังเคาน์เตอร์ช่องหนึ่ง สำหรับโชว์สร้อยคอทองคำหนักเส้นละ 1 บาท ถูกคนร้ายกวาดทองไปเกลี้ยง 30 เส้น หนัก 30 บาท มูลค่ากว่า 300,000 บาท

"ปืนขู่กวาดทองไป 30 เส้น"


นายสินชัยเจ้าของร้านให้การถึงเหตุปล้นอุกอาจว่า ขณะให้บริการลูกค้ารายหนึ่งที่นำทองมาขาย คนร้ายเป็นชาย 2 คน อายุราว 20 ปีเศษ คนแรกสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีครีม กางเกงยีน อีกคนสวมเสื้อแขนสั้นสีดำ กางเกงขาสั้น ทั้งคู่สวมหมวกแก๊ปสีดำอำพรางโฉม ทำทีมาขอดูทอง พอหยิบให้ดูคนร้ายก็บอกให้เก็บทองไว้ ขอไปถอนเงินที่ธนาคารก่อน จากนั้นก็เดินออกจากร้านไป

เจ้าของร้านทองเหยื่อโจรให้การต่อว่า หลังจากนั้นราว 10 นาที คนร้ายย้อนกลับเข้ามาในร้าน บอกกับ น.ส.จรรยานุชขอดูแหวนทอง ปรากฏว่าขณะที่ น.ส.จรรยานุชเปิดเคาน์เตอร์เพื่อหยิบแหวนออกมา คนร้ายสวมเสื้อสีครีมก็ชักปืนจี้บังคับไม่ให้ขัดขืน ตนเห็นท่าไม่ดีจะวิ่งหนีเข้าหลังร้าน คนร้ายอีกคนก็วิ่งอ้อมเคาน์เตอร์ล็อกคอตนไว้ จากนั้นคนร้ายสวมเสื้อครีมก็ปีนข้ามเคาน์เตอร์ เปิดประตูตู้โชว์กวาดไป 30 เส้น ก่อนจะพากันวิ่งออกไปติดเครื่องรถจักรยานยนต์ฮอนด้า สีส้มดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขี่ย้อนศรไปที่จุดกลับรถ บึ่งเข้าตัวเมืองสมุทรสาคร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งวิทยุสกัดจับแต่ไม่พบวี่แวว

"ใช้เวลาแค่ 2-3 นาทีปล้น"


ทางด้าน พ.ต.อ.ชุมพล ฉันทะจำรัสศิลป์ ผกก.สภ.อ.เมืองสมุทรสาคร เปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบภาพทีวีวงจรปิดของร้านที่เกิดเหตุ พบว่าคนร้ายเป็นคนภาคกลาง อายุราว 20 ปีเศษ ใช้เวลาก่อเหตุเพียง 2-3 นาที ถือว่าเร็วมาก แต่ยังบอกไม่ได้ว่าเป็นมืออาชีพที่เคยก่อเหตุปล้นทองมาก่อนหรือไม่ สำหรับโฉมหน้าคนร้าย กล้องวงจรปิดจับภาพได้แต่เห็นหน้าไม่ชัด เนื่องจากเป็นกล้องรุ่นเก่าความละเอียดของภาพน้อย ต้องนำพยานไปสเกตช์ภาพคนร้ายประกอบด้วย

ส่วนคดีคนร้ายบุกเดี่ยวจี้ชิงทรัพย์ ห้างเพชรทองออโรร่า ในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาปากน้ำ อ.เมืองสมุทรปราการ เมื่อเย็นวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้ทองรูปพรรณหนักรวม 100 บาท ซึ่งตำรวจได้จับกุมคนร้าย คือ ส.ต.อ.จักรพันธ์ บุตรสเกต สังกัดกองร้อย ตชด.344 อ.ท่าสองยาง จ.ตาก แต่ยังปากแข็งให้การปฏิเสธนั้น ความคืบหน้าเมื่อเวลา 16.00 น. พ.ต.ท.ณรงค์ชัย ฉายแสง สว.สส.สภ.อ.เมืองสมุทรปราการ คุมตัว ส.ต.อ. จักรพันธ์ ผู้ต้องหา มาจาก อ.ท่าสองยาง จ.ตาก นำไปฝากขังต่อศาลจังหวัดสมุทรปราการ ก่อนนำผู้ต้องหา พร้อมรถปิกอัพอีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียนป้ายแดง ฉ-1572 กรุงเทพมหานคร ของกลางส่งให้ พ.ต.ท.สรวิศ สุขแพทย์ พนักงานสอบสวน สภ.อ.เมืองสมุทรปราการ เจ้าของคดี กับ พ.ต.ท.ศานิตย์ โพธิพรหม รอง ผกก.สส. ร่วมสอบปากคำ

"นำทองขาย ดาวน์รถให้แฟน ก่อนถูกจับกุมได้"


ส.ต.อ.จักรพันธ์ บุตรสเกต ผู้ต้องหา ได้เปิดปากรับสารภาพอย่างหมดเปลือกว่า ได้บุกชิงทองที่ห้างเพชรทองออโรร่า เพราะต้องการเงินไปดาวน์รถกระบะอีซูซุของกลาง ที่ให้ น.ส.กรกมล หฤชัยงาม อายุ 32 ปี แฟนสาว ทำงานเป็นพยาบาลประจำกองสาธารณสุขสำนักงานเทศบาลตำบลบางปู อ.เมืองสมุทรปราการ ไปจองไว้ตั้งแต่ต้นเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นได้นำทองไปขายที่ร้านทองใน อ.ท่าสองยาง จำนวน 20 บาท ได้เงิน 200,000 บาท แล้วโอนเงินไปให้ น.ส.กรกมล ในวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา และในวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตนและ น.ส.กรกมลได้ไปรับรถที่โชว์รูมย่านบางจาก กทม. ขับรถกลับ จ.ตาก ก่อนจะถูกตำรวจบุกรวบตัวดังกล่าว ส่วนทองรูปพรรณที่ชิงมาได้อีก 80 บาท ได้หล่นหายไปขณะวิ่งหนีไปขึ้นรถแท็กซี่ในวันเกิดเหตุ

ทางด้าน พ.ต.ท.ณรงค์ชัย ฉายแสง สว.สส.สภ.อ. เมืองสมุทรปราการ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดของร้านทองที่เกิดเหตุกับกล้องวงจรปิดของห้าง พบว่าก่อนเกิดเหตุ คนร้ายเดินเข้ามาทางประตูหลังห้างฯติดกับลานจอดรถ พบชายหญิงคู่หนึ่ง

"ดำเนินคดีข้อหาชิงทรัพย์"


ผู้หญิงสวมชุดข้าราชการยกมือไหว้คนร้าย ตรวจสอบทราบว่าหญิงคนดังกล่าวทำงานอยู่สำนักงานเทศบาลตำบลบางปู เชิญตัวมาสอบสวนยืนยันว่า คนร้ายเป็นแฟนของ น.ส.กรกมล ซึ่งทำงานอยู่ที่เดียวกัน

สว.สส.สภ.อ.เมืองสมุทรปราการ กล่าวต่อว่า จากนั้นได้เชิญตัว น.ส.กรกมลมาสอบสวน พร้อมนำภาพทีวีวงจรปิดขณะคนร้ายก่อเหตุให้ดู ซึ่ง น.ส.กรกมลยอมรับว่าคนร้ายคือ ส.ต.อ.จักรพันธ์ แฟนหนุ่มที่คบหากันมาตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ม.ต้น พร้อมให้การว่า ก่อนเกิดเหตุวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา ส.ต.อ.จักรพันธ์อ้างว่าลางานและขอพักค้างคืนที่บ้าน กระทั่งวันที่ 29 พ.ย. ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ ตนเลิกงานกลับถึงบ้านตอนห้าโมงครึ่ง ส่วน ส.ต.อ. จักรพันธ์กลับเข้าบ้านตอน 6 โมงเย็น มีท่าทางลุกลี้ลุกลน พอสอบถามว่าไปทำอะไรมา ส.ต.อ.จักรพันธ์บอกว่าไปซื้ออะไหล่วิทยุสื่อสารให้เพื่อนตำรวจ แล้วขอตัวเดินทางกลับ โดยบอกว่าจะโอนเงินให้ไปจ่ายค่าดาวน์รถจึงคุมตัวดำเนินคดีในข้อหาชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์