อนาจารแม่บ้าน สาวโร่จับ ปธ.กกต.ยโสธร

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 23 ม.ค. นางแป้ง (นามสมมติ) อายุ 28 ปี บ้านอยู่ ต.สำราญ อ.เมืองยโสธร

เข้ามาแจ้งความกับ พ.ต.ท.ปัญญา มงคลการ สารวัตรเวร สภ.เมืองยโสธร ให้ดำเนินคดีกับนายเสริมศักดิ์ อุปนิสากร อายุ 63 ปี ประธานกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดยโสธร (กกต.ยส.) ในข้อหากระทำอนาจาร นางแป้งให้การอ้างว่า ตนเป็นพนักงานทำความสะอาด ประจำสำนักงานกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดยโสธร สำนักงานตั้งอยู่หลังที่ว่าการอำเภอเมืองยโสธร โดยเหตุการณ์อัปยศเกิดขึ้นถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกราวปลายเดือน ธ.ค.50 ระหว่างนำกาแฟไปเสิร์ฟให้นายเสริมศักดิ์ในห้องทำงานบนชั้น 2 ของสำนักงาน กกต.ยโสธร เมื่อนำกาแฟเข้าไปให้และอยู่กันลำพัง 2 ต่อ 2 ปรากฏว่านายเสริมศักดิ์เข้ามากอด ตนตกใจแต่ไม่ได้ว่าอะไรเพราะคิดว่าเป็นอุบัติเหตุจึงพยายามเลี่ยงและหลบออกจากห้องลงมาที่ชั้นล่าง

ต่อมาเมื่อวันที่ 11 ม.ค. ที่ผ่านมา ได้นำกาแฟไปเสิร์ฟให้นายเสริมศักดิ์ในห้องทำงานอีกครั้ง และถูกนายเสริมศักดิ์เข้ามาโอบกอดอีก

ครั้งนี้ยอมรับว่าตกใจมากกว่าครั้งก่อน เพราะตนเคารพนับถือนายเสริมศักดิ์ว่าเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ ไม่น่าจะทำแบบนี้ เมื่อกลับไปบ้านได้พูดให้สามีฟังและปรึกษากับ พ.ต.อรรถพร คำศรีสุข หัวหน้างานการมีส่วนร่วม ทำหน้าที่หัวหน้างานอำนวยการ กกต.ยโสธร ซึ่งเป็นเจ้านายโดยตรงให้รับทราบแล้ว จากนั้นได้เขียนหนังสือชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ ผอ.กกต.ยโสธร ทราบ ก่อนมาแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจเพื่อให้ดำเนินคดีกับนายเสริมศักดิ์จนถึงที่สุด ถึงแม้ว่าตนจะต้องถูกไล่ออกจากงานก็ยอม เพราะถือเป็นการปกป้องรักษาศักดิ์ศรีของลูกผู้หญิง
 

หลังสอบปากคำผู้เสียหาย พ.ต.ท.ปัญญา มงคลการ พนักงานสอบสวน เจ้าของคดี กล่าวว่า ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และจะดำเนินการสืบสวนสวบสวนหาข้อเท็จจริง
 
โดยจะเชิญนายเสริมศักดิ์ อุปนิสากร ประธาน กกต.ยโสธร ผู้ถูกร้องทุกข์กล่าวโทษ มาสอบปากคำตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อขอสัมภาษณ์ นายเสริมศักดิ์ อุปนิสากร ประธาน กกต.ยโสธร ถึงกรณีที่ถูกพนักงานทำความสะอาดสาวในสำนักงาน กกต.ยโสธร แจ้งความจับในข้อหากระทำอนาจาร โดยนายเสริมศักดิ์ กล่าวว่าขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เรื่องที่นางแป้งไปแจ้งความนั้นไม่เป็นความจริง แต่จะยังไม่ดำเนินการอะไร จะรอให้พนักงานสอบสวนเรียกตัวมาก่อน ตนพร้อมจะไปให้ปากคำ ขอยืนยันด้วยเกียรติว่า ไม่เคยประพฤติปฏิบัติเสื่อมเสียเช่นนั้น ยอมรับว่ายังงงกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาก

ประธาน กกต.ยโสธร ลำดับเรื่องราวให้ผู้สื่อข่าวฟัง โดยอ้างว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะมีเงื่อนงำ

เรื่องนี้น่าจะมาจากการที่นายชาญณรงค์ เลิศบุญชู ผอ.กกต.ยโสธร ถูกคำสั่งจาก กกต.กลาง ให้ย้ายด่วนในวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา ตามคำสั่งของ กกต.ที่ 35/2551 โดยให้ไปรายงานตัวที่ กกต.กลาง ภายในวันที่ 24 ม.ค. เพื่อช่วยราชการ ซึ่งสาเหตุที่นายชาญณรงค์ถูกคำสั่งย้ายด่วนครั้งนี้ เป็นเรื่องเก่าที่เกิดขึ้นมาก่อนที่ตนจะเข้ามารับตำแหน่ง และเป็นคำสั่งของ กกต.กลาง ตนไม่ได้มีส่วนรู้เห็นแต่ประการใด สำหรับเรื่องที่ตนถูกแจ้งความจับนั้น น่าจะเกิดจากเด็กคนดังกล่าว เป็นคนที่นายชาญณรงค์เลือกเข้ามา จึงสงสัยว่าน่าจะเป็นการแก้แค้นกลั่นแกล้งตนมากกว่า อย่างไรก็ตาม จะขอต่อสู้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป