ดีเอสไอเผยหมายจับผู้ต้องหาแชร์อินเทอร์เน็ตเป็นวิศวกร

ผู้เสียหายแชร์อินเทอร์เน็ต เว็บ colonyinvest ร้องทุกข์ดีเอสไอกว่า 200 คน พบมีการยักย้ายเงินจากบัญชีตัวการใหญ่ซึ่งเป็นวิศวกรแล้ว

พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีแชร์ลูกโซ่ ทางอินเทอร์เน็ตผ่านเว็บไซต์ colonyinvest ว่า ขณะนี้ ดีเอสไอได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายกว่า 200 คน ซึ่งพบว่ามีผู้เสียหายกระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและภาคใต้ มีวงเงินความเสียหายไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท

ผู้เสียหายแต่ละรายนำเงินไปลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน

พบว่าตัวการในการหลอกลวงประชาชนผ่านเว็บไซต์ที่มีการออกหมายจับและอยู่ระหว่างติดตามตัว เป็นวิศวกรไฟฟ้า วิศวกรเครื่องกล และวิศวกรเคมี รับหน้าที่ในการบริหารจัดการเว็บไซต์ เมื่อมีการโอนเงินไปร่วมลงทุน เงินจะถูกโอนไปเข้าบัญชีของบุคคลที่ถูกออกหมายจับ และมีผู้บงการเป็นแม่ข่ายในแต่ละกลุ่มจังหวัด ซึ่งดีเอสไอ อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเพื่อขอหมายจับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด นอกจากนี้ การสอบสวนยังพบด้วยว่า มีชาวมาเลเซีย ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ด้วย ส่วนเงินในบัญชีธนาคารหลังเว็บไซต์ปิดตัว พบว่า เงินได้ถูกยักย้ายถ่ายเทไปที่อื่นแล้ว

พ.อ.ปิยะวัฒก์ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบร่วมกับสำนักคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ พบเว็บไซต์ที่มีลักษณะการระดมทุนคล้าย Colonyinvest อีกหลายเว็บไซต์

ได้แก่ เว็บ Euroempire ซึ่งเป็นการลงทุนแลกเปลี่ยนเงินยูโร และเว็บ E-capital ซึ่งขณะนี้ได้ปิดตัวลงแล้วเช่นกัน ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อนนำเงินไปร่วมลงทุน โดยเฉพาะการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงคืนทุนภายใน 30-40 วัน หลังจากนั้นจึงเป็นกำไร พ.อ.ปิยะวัฒก์ กล่าวอีกว่า การหลอกลวงผ่านเว็บไซต์ขณะนี้มีการแพร่ระบาดในหลายประเทศ ล่าสุดในประเทศเวียดนาม เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหาที่ทำการฉ้อโกงผ่านเว็บไซต์ Colonyinvest แล้ว ส่วนประเทศมาเลเซีย อยู่ระหว่างตามล่าตัวผู้ต้องหาแก๊งนี้เช่นกัน โดยเชื่อว่ากลุ่มตัวการหลอกลวงผ่านเว็บไซต์ในประเทศไทย น่าจะเชื่อมโยงกับผู้ต้องหาในมาเลเซียและเวียดนามด้วย