เครียดหนี้3แสน มัดขาโดดน้ำตาย

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 21 ม.ค. พ.ต.ต.ชยุตม์ พิพัฒน์ทวีกุล สารวัตรเวร สภ.เมืองกาญจนบุรี

รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์วิทยุมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ว่า มีเหตุคนเสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 209 ต.ปากแพรก จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้น รุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.จิรสันต์ แก้ว แสงเอก ผกก. และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง
 

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านยกพื้นสูง  ด้านหลังติดกับสระน้ำขนาดใหญ่ ภายในสระน้ำซึ่งมีน้ำลึกระดับเข่า
 
พบร่างผู้เสียชีวิต ทราบชื่อนายบุญโชติ วงษ์พัฒน์ อายุ 52ปี เจ้าของบ้าน ลักษณะศพคว่ำหน้าหัวทิ่มลงไปในสระ โดยมี เชือกไนลอนสีเขียวผูกข้อเท้าขวาโยงติดกับเสาบ้าน นุ่งกางเกงยีนขายาวสีดำ ไม่สวมเสื้อ เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5 ชม. ตรวจสอบร่างกายอย่างละเอียดไม่พบร่องรอยบาดแผล จากการถูกทำร้าย  นอกจากนี้ ในที่เกิดเหตุยังพบสุนัขเพศผู้ชื่อ  “เจ้าเม่น” นั่งเฝ้าขอบสระดูศพเจ้านายไม่ยอมห่าง ขณะเดียวกันตำรวจพบจดหมายลาตายภายในบ้าน 1 ฉบับ เขียนในทำนองทุกข์ใจที่เป็นหนี้สหกรณ์ 3 แสนบาท พร้อมกับสั่งเสียให้นำศพไปตั้งสวดบำเพ็ญกุศลที่วัดท่าล้อ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
 

สอบสวนได้ความว่า นายบุญโชติทำงานเป็นลูกจ้าง ประจำอยู่ที่ฐานปฏิบัติการป่าไม้ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี

ปัจจุบันพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวคนเดียว ส่วนลูกๆ แต่งงานแยกย้ายไปมีครอบครัวกันหมดแล้ว  ปกตินายบุญโชติเป็นคนร่าเริงเป็นที่รักใคร่ของเพื่อนบ้านละแวกใกล้เคียง ระยะหลังนายบุญโชติชอบเก็บตัวเงียบและมักบ่นให้เพื่อนบ้านฟังว่า กลุ้มใจเรื่องที่กู้ยืมเงินจากสหกรณ์ จำนวน 3 แสนบาท มารักษาตัวภรรยาที่ล้มป่วย ทำให้เป็นหนี้เป็นสิน แถมภรรยากลับล้มหายตายจากไปเสียอีก เพื่อน บ้านได้แต่ปลอบใจ แต่นายบุญโชติยังทำใจไม่ได้เคยพยายาม ฆ่าตัวตายมาแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งแรกกระโดดจากชั้น 2 รพ.พหลพลพยุหเสนา ตกลงมาเหล็กแหลมเสียบท้องสาหัส เข้ารักษาตัวที่ รพ.อยู่นาน ต่อมา เมื่อ 2 วันก่อน จบชีวิตขณะนายบุญโชติเดินทางกลับจากที่ทำงาน เกิดความเครียดวิ่งคว้ามีดทำครัวในร้านอาหารใกล้บ้าน พยายามเชือดคอตัวเอง แต่มีคนช่วยเอาไว้ได้ทัน

ตำรวจประมวลเหตุการณ์แล้วลงความเห็นเป็นการฆ่าตัวตาย

โดยก่อนเกิดเหตุนายบุญโชติอาจ จะเกิดความเครียดขึ้นมาอีก จึงคิดฆ่าตัวตายด้วยการนำเชือกไนลอนผูกข้อเท้าตัวเองโยงกับเสาบ้าน แล้วกระโดด พุ่งตัวลงไปในสระน้ำ ทำให้จมน้ำเสียชีวิต ประกอบกับ ญาติไม่ติดใจสาเหตุการตาย จึงมอบศพให้ญาตินำไปตั้ง สวดบำเพ็ญกุศลที่วัดตามความประสงค์ของผู้ตายที่ระบุไว้ ในจดหมายต่อไป


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์