ฆ่าปาดคอสาวเซเว่นฯตายคาเคาน์เตอร์

หึงโหด ฆ่าปาดคอสาวเซเว่นฯ ภูเก็ต ตายคาเคาน์เตอร์ หนุ่มแพปลาแค้นแฟนสาวขนของย้ายบ้านไปอยู่ที่ใหม่ตั้งแต่ปลายปี ตามขี่รถวนเวียนดูที่ทำงาน จนสบโอกาส บุกชักมีดฟันหัว-ปาดคอต่อหน้าเพื่อนร่วมงาน ตร.ขอหลักฐานกล้องวงจรปิดมัด คาดยังหลบหนีอยู่ในภูเก็ต


แค้นสาวเซเว่นฯ ตีจากบุกปาดคอตายรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 7 มกราคม

ร.ต.ท.สมชาย หนูบุญ ร้อยเวร สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งจากพนักงานร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น สาขา 2618 ถนนศรีสุทัศน์ ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่ามีพนักงานของร้านถูกฆ่าตาย จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุอยู่ภายในร้านดังกล่าวพบพนักงานมีสีหน้าตกใจ ด้านหลังเคาน์เตอร์เก็บเงินพบศพ น.ส.นิภาพร ยิ้มอิ่ม อายุ 26 ปี ชาวชัยนาท สภาพสวมเครื่องแบบพนักงานร้านเซเว่นอีเลฟเว่น นอนเสียชีวิตอยู่ จากการตรวจสอบของแพทย์และเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิทยาการพบว่า ถูกของมีคมปาดที่ลำคอ 1 แผล ยาวประมาณ 10 ซม. ที่ไหล่ขวา 1 แผล แขนขวา 1 แผล ท้ายทอย 1 แผล และนิ้วนางด้านซ้ายอีก 1 แผล โดยทรัพย์สินของผู้ตายยังอยู่ครบ ใกล้กันพบมีดทำครัวยาวประมาณ1 ฟุตตกอยู่ และมีเสื้อยีนแขนยาวตกอยู่ห่างจากศพประมาณ 2 เมตร
 


จากการสอบสวน น.ส.วัชรี เอกประทุม พนักงานร้านที่อยู่เวรคู่กับผู้ตาย ให้การว่า

ต้องเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่ในร้านคู่กันในช่วงเวลาเที่ยงคืนถึง 8 โมงเช้า ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 03.44 น. ขณะที่ น.ส.นิภาพร ยืนหันหลังอยู่ด้านหลังเคาน์เตอร์ มีนายหนูจันทร์ มูลมีมา อายุประมาณ 29 ปี ชาวสกลนคร แฟนเก่าของผู้ตาย เดินเข้ามาในร้าน สภาพสวมเสื้อยืดสีแดง นุ่งกางเกงยีน สะพายเสื้อยีนแขนยาวสีน้ำเงิน เดินมุ่งหน้าตรงไปยัง น.ส.นิภาพร ก่อนใช้มีดที่พกมาฟันเข้าที่ท้ายทอยและตามร่างกายหลายครั้ง เมื่อ น.ส.นิภาพร หันหน้ามา นายหนูจันทร์ก็คว้าคอแล้วใช้มีดปาดจนเสียชีวิตคาที่ ก่อนจะปล่อยร่างร่วงลงพื้นแล้ววิ่งหลบหนีไป

น.ส.วัชรี กล่าวว่า น.ส.นิภาพร เคยเล่าชีวิตส่วนตัวให้ฟังอยู่บ้างว่า

เดิมอยู่กินกับนายหนูจันทร์มาเป็นเวลานาน กระทั่งเมื่อปลายปี 2550 ที่ผ่านมา น.ส.นิภาพร ได้เก็บข้าวของออกจากบ้าน และไปเช่าบ้านพักอยู่ในซอยสุรินทร์ ขณะที่นายหนูจันทร์ทำงานอยู่ที่สะพานปลาแห่งหนึ่ง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 กม. คาดว่าอาจไม่พอใจในเรื่องนี้ จึงก่อเหตุสยองขึ้น ขณะที่ชาวบ้านใกล้เคียงระบุว่า ก่อนที่นายหนูจันทร์จะลงมือฆ่าแฟนสาว มีคนเห็นขี่รถจักรยานยนต์ 3 ล้อพ่วงข้าง วนเวียนทั้งช่วงกลางวันและกลางคืนประมาณ 2-3 รอบ มาดูว่าผู้ตายมาทำงานหรือไม่ กระทั่งทราบจึงมาก่อเหตุร้ายขึ้น
 

ต่อมาตำรวจได้ขอตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านที่ติดตั้งไว้
 
เพื่อดูลักษณะรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายและจะใช้เป็นหลักฐานประกอบคดี โดยประสานสกัดเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนีออกจาก จ.ภูเก็ต พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนออกติดตามตัวคนร้ายทั้งตามบ้านญาติและภูมิลำเนาเดิม เบื้องต้นคาดว่ายังไม่ได้หลบหนีออกจาก จ.ภูเก็ต


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์