วิสามัญฯลาว จี้แบงก์7แสน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 27 ธ.ค.

ขณะที่ ส.ต.ท.สุดจิต เรียงผา ตำรวจสายตรวจรถ จยย.สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พร้อมพวก ออกตรวจพื้นที่ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุบางใหญ่ ว่า เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนจี้ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขาบางใหญ่ เลขที่ 48/3 หมู่ 7 ถนนรัตนาธิเบศร์ ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จึงรายงานให้ พล.ต.ต. ปริญญา จันทร์สุริยา ผบก.ภ.จ.นนทบุรี พ.ต.อ.สุพจน์ เกษมชัยนันท์ รอง ผบก. พ.ต.อ.สถิตย์ ต้นสงวน รอง ผบก. พ.ต.อ.นพรัตน์ รินทพล รอง ผบก. พ.ต.อ.สำเริง งามรัตน์ ผกก.สภ.บางใหญ่ และ พ.ต.ท.ประหยัด ทัพไทย สว.สป. สภ.บางใหญ่ ทราบก่อนรีบเดินทางไปตรวจสอบ
 

เมื่อไปถึงพบชายต้องสงสัย อายุประมาณ 25-30 ปี แต่งกายในชุดเสื้อแจ็กเกตสีดำ

สวมกางเกงยีน และสวมหมวกไหมพรมสีดำแดงคล้ายหมวกซานตาคลอส มือซ้ายลากกระเป๋าเดินทางแบบมีล้อ ส่วนมือขวากำปืนพก เบื้องต้นทราบจากพยานว่าชายคนดังกล่าวเป็นคนร้ายที่เพิ่งจี้ธนาคารกรุงศรีอยุธยามาสดๆร้อนๆ จึงวิ่งไล่ตามไปติดๆ โดยคนร้ายเดินลากกระเป๋าและชูอาวุธปืนไปตามถนนตลอดทาง พร้อมกับพยายามเปิดประตูรถยนต์ที่จอด อยู่ข้างถนนประมาณ 4-5 คัน แต่เปิดไม่ได้ เนื่องจากเจ้าของรถล็อกไว้ กระทั่งคนร้ายเดินมาถึงรถปิกอัพอีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กฉ 3299 นครปฐม ของนายบุญรอด กันต่าย อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่ 9 ต.บางคูรัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ที่จอดติดเครื่องไว้ริมถนนข้างธนาคารเพื่อไปซื้อของ โดยทิ้ง น.ส.บุญทิตา กันต่าย อายุ 22 ปี ลูกสาว นั่งรออยู่ในรถ
  

ปรากฏว่าทันทีที่ น.ส.บุญทิตาเห็นคนร้ายเดินตรงมาที่รถ ได้ตัดสินใจเปิดประตูด้านซ้ายวิ่งหนีออกมา คนร้ายได้โอกาสชิงรถขับหลบหนีไปทางถนนรัตนาธิเบศร์

ฝั่งขาเข้ามุ่งหน้าไปทางสะพานพระนั่งเกล้า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่วิ่งไล่ตามไป จึงรีบโบกรถแท็กซี่ให้ขับติดตามคนร้ายไปอย่างกระชั้นชิด โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่อีกส่วนหนึ่งนั่งรถแท็กซี่และขี่รถ จยย.ไล่ตามไป และพยายามยิงยางรถของคนร้าย  กระทั่งวิ่งมาถึงบริเวณเชิงสะพานพระนั่งเกล้า นายอภิชาติ สุวรรณวงศ์ อายุ 50 ปี คนขับรถแท็กซี่ที่พบเห็นเหตุการณ์ได้ตัดสินใจหักรถปาดหน้ารถของคนร้ายจนเสียหลักชนรถแท็กซี่ขับต่อไม่ได้ นายอภิชาติ โชเฟอร์แท็กซี่ จึงรีบเปิดประตูหนีออกมา ขณะที่ คนร้ายยังคงติดอยู่ในรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตะโกนให้ วางอาวุธและมอบตัว   แต่คนร้ายขัดขืนชักปืนออกมาเตรียมยิงต่อสู้ ส.ต.ท.สุดจิต เรียงผา ตำรวจสายตรวจ กับ ด.ต.ฐาปนา เทพพานิช ตำรวจจราจร สภ.บางใหญ่ ที่ตามไปสมทบจึงใช้ปืนพกประจำกายระดมยิง เป็นเหตุให้คน ร้ายเสียชีวิตคาที่
 


ต่อมา พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชนินทร์ ปรีชาหาญ และ พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภ.1

เดินทางไปตรวจสอบพบบัตรประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าวของคนร้ายทราบชื่อนายสมชาย ลิวง สัญชาติลาว ตำแหน่งคนรับใช้ในบ้าน มีที่พักอยู่ที่บ้านเลขที่ 640/33 สุขุมวิท 55 แขวงคลองตัน-เหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ มีแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน .357 และ .38 เข้าที่ใต้กกหูขวาทะลุคาง 1 นัด และต้นคอซ้ายอีก 2 นัด นั่งฟุบคาเบาะที่นั่งคนขับลำตัวเอียงไปทางเบาะด้านข้าง ภายในรถพบกระเป๋าเดินทางแบบมีล้อลากสีดำล็อกกุญแจไว้ ตรวจสอบภายในมีเงินสดที่เพิ่งจี้ มาจากธนาคาร แยกเป็นธนบัตรฉบับละ 1,000 จำนวน 6 มัด มัดละ 100,000 บาท ธนบัตรใบละ 500 จำนวน 1 มัด มัดละ 50,000 บาท ธนบัตรใบละ 100 จำนวน 2 มัด มัดละ 10,000 บาท และธนบัตรใบละ 20 จำนวน 2,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 672,000 บาท นอกจากนี้ ยังพบปืนปลอมตกอยู่ที่หน้าตักของคนร้าย จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการ จ.นนทบุรี และแพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์เดินทางไปร่วมชันสูตรศพของคนร้าย
 

จากการสอบสวนนางกนกพันธ์ รอดแป้น เจ้าหน้าที่ ธนาคารดังกล่าว ตำแหน่งหัวหน้าการเงินธุรกิจ ที่ถูกคนร้ายใช้ปืนจี้บังคับ ให้การด้วยสีหน้ายังไม่หายตื่นเต้นว่า

ก่อนเกิดเหตุเป็นช่วงที่ธนาคารเพิ่งเปิดทำการ มีพนักงานจัดโต๊ะทำงานอยู่ประมาณ 10 คน คนร้ายแต่งกายด้วยเสื้อคลุมสีดำ สวมหมวกไหมพรมเดินลากกระเป๋าเดินทางสีดำแบบมีล้อลากเข้ามา ก่อนเดินอ้อมไปทางด้านหลังเคาน์เตอร์ที่ตนนั่งทำงานอยู่ ซึ่งอยู่ติดกับตู้เซฟเก็บเงิน จากนั้นคนร้ายได้ผลักกระเป๋าจนล้มแล้วชักปืนออกมาขู่บังคับให้ตนเปิดตู้เซฟหยิบเงินใส่กระเป๋า โดยมีนายสาโรจน์ จันทร์เจริญ พนักงานธนาคารพยายามเข้าไปเจรจาประวิงเวลาเพื่อให้ตนกดสัญญาณเตือนภัยแจ้งขอความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังคนร้ายได้เงินแล้วได้ล็อกกุญแจกระเป๋าเดินออกจากธนาคารอย่างใจเย็น โดยมี รปภ.ของธนาคารวิ่งไล่ตามไป ส่วนตนพอตั้งสติ ได้รีบโทรศัพท์แจ้งผู้บริหารระดับสูงของทางธนาคารทันที โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายได้ตั้งแต่ต้น
 

ด้าน พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา ผบก.ภ.จ.นนทบุรี กล่าวว่า

จากการตรวจสอบในเบื้องต้น ทราบว่าคน ร้ายเป็นคนสัญชาติลาว มาพักอาศัยอยู่กับแฟนสาวที่คอนโดฯ ย่านบางใหญ่ซิตี้ โดยในช่วงเช้าก่อนลงมือปล้นธนาคาร คนร้ายได้เรียกรถแท็กซี่ สีส้ม หมายเลขทะเบียน ทย 6632 กรุงเทพมหานคร ให้ไปส่งที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาบางใหญ่ พร้อมนำกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ไปด้วย เมื่อไปถึงได้สั่งให้คนขับรถแท็กซี่จอดรออยู่ที่ลานจอดรถ โดยบอกว่าจะเข้าไปฝากเงิน กระทั่งคนร้ายจี้ชิงเงินเสร็จเดินถือปืนกลับมาขึ้นรถแท็กซี่คันดังกล่าว โดยมีรปภ.ธนาคารวิ่งไล่กวดมา โชเฟอร์รถแท็กซี่เห็นท่าไม่ดีรีบล็อกประตูรถไม่ให้คนร้ายขึ้น ทาง รปภ.ที่วิ่งติดตามคนร้ายมาได้ใช้ปืนยิงลงพื้นขู่ไป 1 นัด แต่คนร้ายไม่มี ทีท่าตกใจกลัวพร้อมหันปากกระบอกปืนไปจ่อ รปภ.ขู่ว่าอยากตายหรือไง ก่อนเดินลากกระเป๋าไปตามถนนและพยายามเปิดประตูรถยนต์ที่จอดอยู่ริมถนน กระทั่งเจอรถปิกอัพจอดติดเครื่องอยู่ จึงชิงขับหลบหนี โดยเชื่อว่าคนร้ายรายนี้น่าจะวางแผนและสำรวจดูความเคลื่อนไหวธนาคารแห่งนี้มาก่อนแล้ว และเชื่อว่าหลังก่อเหตุน่าจะตั้งใจหลบหนีออกไปทางแนวตะเข็บชายแดนเพื่อหา  ทางกลับไปยังประเทศลาว  แต่มาถูกวิสามัญฯเสีย

ต่อมาเวลา 18.00 น. ร.ต.อ.สิทธิศักดิ์ พรหมหมื่น-ไว รอง สว.สส.ภ.จ.นนทบุรี นำกำลังไปตรวจค้นห้องเช่าคอนโดมิเนียม เลขที่ 294 ตลาดบางใหญ่ หมู่ 3 ต.เสา-ธงหิน อ.บางใหญ่

ซึ่งเป็นห้องพักของนายสมชาย คนร้ายจี้ธนาคาร พบ น.ส.ดวงพร บุญยศ อายุ 24 ปี ชาวลาว และเป็นแฟนสาวของนายสมชาย โดย น.ส.ดวงพรให้การว่า   ตนกับผู้ตายเข้ามาทำงานในเมืองไทยหลายปีแล้ว ปัจจุบันรับจ้างขายผักอยู่ในตลาดสดบางใหญ่   และมีกำหนดไปรายงานตัวต่อ  ตม.ของไทย  วันที่ 4 ม.ค.นี้   ที่ผ่านมาผู้ตายไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงิน แต่มาระยะหลังแม่ และพี่ชายโทรศัพท์มาขอเงิน ทำให้นายสมชายบ่นกลุ้มใจ ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้าตนกลับมาจากทำงาน พบกระเป๋าเดินทางที่เตรียมไว้ใส่เสื้อผ้ากลับบ้านช่วงปีใหม่หายไป แต่ไม่นึกว่าจะนำไปก่อเหตุจี้ธนาคาร ทั้งนี้ คงต้องแจ้งให้ญาติที่ลาวมารับศพต่อไป


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์