โจ๋ขุนแผนเดือดควงปืน 2 กระบอกถล่มอริกลางงาน

โจ๋โหดยกพวกตีกันในงานแก้บนคู่อริสู้ไม่ได้ล่าถอยกลับ แต่ไม่ยอมแพ้สวมไอโม่งกลับมาที่งานอีกรอบพร้อมลากปืน.38 และปืนลูกซองสั้นกระหน่ำยิง เพื่อนถูกลูกหลงอาการปางตาย 1 นักเรียนได้รับบาดเจ็บอีก 4 คน

เมื่อเวลา 00.20 น.วันที่ 14 ธันวาคม พ.ต.ท.เกษม ช้างเผือก สวส.สภ.สระแก้ว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี

รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ที่ถนนสายหัวโคก-วัดจำปี หมู่ 2 ต.สนามคลี หลังรับแจ้งจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.วิฑูรย์ พละสาร สวญ.กำลังฝ่ายสืบสวนและหน่วยกู้ภัยเณรแก้ว ที่เกิดเหตุอยู่หน้าบ้านพักเลขที่ 113 ซึ่งได้ทำพิธีแก้บน โดยจัดเวทีเล่นดนตรี และหนังกางแปลง 1 จอ โดยมีชาวบ้านในระแวกใกล้เคียงเดินทางร่วมงานจำนวนมาก ที่ลานกว้างหน้า พบผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 5 คน ถูกนำส่งรักษา รพ. ศูนย์เจ้าพระยายมราช ทราบชื่อ 1.นายเอกชัย ชุ่มเพ็งพันธ์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 208 หมู่ 3 ต.สนามคลี ถูกยิงด้วยอาวุธปืน .38 ซุปเปอร์ เข้าที่เบ้าตาขวา 1 นัด อกซ้าย 1 นัดอาการโคม่า 2.นายธีระพันธ์ สีสำทอง อายุ 18 ปี 3.นายธนพงษ์ น้อยพันธ์ดี อายุ 16 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.5 โรงเรียนตลิ่งชันวิทยา 4.นายอรรถพร พันธ์เผือก อายุ 15 ปี และ นายอรรถพล อุ่นวงษ์ อายุ 17 ปี โดยสี่รายหลังนี้ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองกระสุนเฉี่ยวบริเวณศีรษะ และฝ่ามือ ได้รับบาดเจ็บ ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด .38 ซุปเปอร์ 5 ปลอกตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
 

พ.ต.ท.เกษม เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ นายเอกชัย พร้อมพวกประมาณ 4-5 คน ได้มาเที่ยวดูหนังกางแปลง และดนตรี งานแก้บนที่บ้านเลขดังกล่าว

โดยมีกลุ่มวัยรุ่นที่ได้บาดเจ็บมานั่งดูอยู่ใกล้กัน ขณะกำลังนั่งชมหนังกางแปลงอยู่นั้น ปรากฏว่า ได้มีคู่อริเก่าของเพื่อนนายเอกชัย เข้ามาเที่ยวในงานด้วย เมื่อพบกันทั้งสองฝ่ายก็ได้มีเรื่องชกต่อยกันขึ้น แต่คู่อริของเพื่อนนายเอกชัยสู้ไม่ได้จึงได้กลับไปเอาอาวุธปืน 2 กระบอก คือ อาวุธปืนลูกซองสั้น และ อาวุธปืนขนาด .38 ซุปเปอร์ อีก 1 กระบอก เข้ามาภายในงาน โดยมือปืนคนดังกล่าวได้สวมไอโม่งสีดำเข้ามาด้วยและได้เปิดฉากกระหน่ำยิงเข้าไปที่เพื่อนวัยรุ่นดังกล่าว ทำให้นายเอกชัย และกลุ่มวัยรุ่นอีก 4 คนที่นั่งอยู่ใกล้ ถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บสาหัส ดังกล่าวหลังก่อเหตุมือปืนได้หลบหนี ส่วนสาเหตุคาดว่ามาจากเรื่องทะเลาะวิวาทกันมาก่อนหน้านี้ กระทั่งมาพบกันอีกที่งานแก้บนดังกล่าว จึงได้เปิดศึกล้างแค้นกันขึ้น
 

พ.ต.ท.เกษม กล่าวอีกว่า ขณะนี้ตำรวจทราบตัวคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว

แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้เนื่องจากเป็นคดีอุจอาจก่อเหตุต่อหน้าประชาชนจำนวนมากที่เข้ามาร่วมงาน อย่างไรก็ตามเบื้องต้นทางตำรวจจะได้รวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายศาลดำเนินการจับกุมกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป ในส่วนของผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 5 คนนั้น ทราบว่า แพทย์ได้ทำการผ่าตัดช่วยเหลือแล้ว และขณะได้นอนรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู และต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีอาการโคม่า ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 4 คน อาการปลอดภัย โดยแพทย์ได้อนุญาติให้ นายอรรถพร พันธ์เผือก และ นายอรรถพล อุ่นวงษ์ กลับไปรักษาตัวต่อที่บ้านได้ ส่วนอีก 2 คนที่เหลือยังคงนอนพักรักษาบาดแผลที่โรงพยาบาล