วงจรปิดพบสาวยุ่นมากับหนุ่มร่วมชาติตั้งค่าหัวมือฆ่า1แสน

วงจรปิดด่านตม.หนองคาย ชัด สาวยุ่นเดินทางมาพร้อมเพื่อนร่วมชาติ หลังเกิดเหตุหายตัวไป

นำภาพถ่ายควานหาตามเกสต์เฮ้าส์ ด้านผลตรวจศพพบแอลกอฮอล์สูงถึง 97 มิลลิกรัม แต่ไม่มีร่องรอยถูกข่มขืน ด้านผู้การสุโขทัยรับหนักใจเพราะขาดหลักฐาน ตั้งค่าหัวล่ามือฆ่า 1 แสนบาท กองปราบฯ ลุยพื้นที่ สอบนักเรียนที่ไปเที่ยวช่วงเวลาใกล้เคียง หวังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ส่วนพ่อแม่สุดเศร้ารับศพกลับบ้านเกิดแล้ว
 

ความคืบหน้าคดีฆาตกรรมที่อยู่ในความสนใจของประชาชน

กรณีคนร้ายไม่ทราบจำนวนฆ่าปาดคอ น.ส.โทโมโกะ คาวาชิตะ นักท่องเที่ยวสาวชาวญี่ปุ่น ที่เดินทางมาเที่ยวงานประเพณีลอยกระทง และเสียชีวิตในป่าละเมาะริมทางเดินขึ้นเขา วัดเขาตะพานหิน ภายในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย 

เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

โดยตำรวจได้ระดมกำลังกว่า 250 นาย เข้าตรวจค้นหาหลักฐานเพื่อสาวให้ถึงตัวคนร้ายรายนี้ เบื้องต้นพบว่า มีผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวญี่ปุ่น ที่มีพยานเป็นกลุ่มเด็กนักเรียนเห็นเดินลงมาจากวัดในช่วงเวลาใกล้เคียงกับที่ น.ส.โทโมโกะ ถูกฆาตกรรม ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามตัวมาสอบปากคำนั้น
 

ล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 29 พฤศจิกายน 

นายยาสึอากิ และนางเกโกะ พร้อมด้วย นายฮิโรชิ คาวาชิตะ บิดา มารดา และพี่ชายของ น.ส.โทโมโกะ ได้มารับศพที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อนำกลับบ้านเกิดเมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น โดยใช้เวลาทำพิธีทางศาสนาพุทธ ประมาณ 30 นาที ก่อนบรรจุศพในโลงสีขาว มีช่อดอกไม้วางด้านบน แล้วขึ้นรถตู้ไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อขึ้นเครื่องบินของสายการบินไทยเดินทางไปยังเมืองโอซากา ในเวลา 23.00 น.วันเดียวกัน
 

ทั้งนี้บรรยากาศการรับศพเป็นไปอย่างเศร้าโศก ครอบครัวคาวาชิตะได้ดูหน้า น.ส.โทโมโกะ เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนบรรจุในโลง 

โดยมีการทำพิธีทางศาสนาพุทธ นำดอกไม้มาไว้อาลัย กล่าวแสดงความเสียใจ สวดมนต์ จุดธูปเทียน ทำพิธีคารวะศพ โดยครอบครัวของ น.ส.โทโมโกะ ได้ยืนดูการบรรจุศพทุกขั้นตอนด้วยความเสียใจ และยืนสงบนิ่งร่วมกันไว้อาลัย โดยยืนก้มหน้า พนมมือ ขณะที่นางเอโกะถึงกับร้องไห้ โดยมี พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษก ตร. พล.ต.ต.ชูชาติ สุวรรณาคม ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว พล.ต.ต.สุรศักดิ์ จ้อยจำรูญ ผู้บังคับการกองนิติเวช คอยอำนวยความสะดวกต่างๆ
 

พล.ต.ท.พงศพัศกล่าวว่า 

จากการที่ได้พูดคุยกับบิดา มารดาของ น.ส.โทโมโกะ ยังมีความรู้สึกที่ดีกับคนไทย และบอกว่าได้รับการต้อนรับที่ดี ได้รับกำลังใจจากคนไทยที่พบ โดยครอบครัวจะเดินทางกลับมาประเทศไทยอีกครั้งหลังจับกุมคนร้ายได้ และจะท่องเที่ยวไปตามเส้นทางของบุตรสาวด้วย

"สำหรับผลการตรวจพิสูจน์ด้านนิติวิทยาศาสตร์ออกมาแล้ว ไม่พบอสุจิทั้งในช่องคลอดและทวารหนัก สามารถระบุได้ชัดเจนว่าไม่มีการข่มขืน ไม่มีร่องรอยการถูกทำร้าย แต่ผลตรวจพบมีเนื้อเยื่อของบุคคลอื่นที่เล็บมือด้านขวาทั้ง 5 นิ้วของผู้ตาย แต่ยังไม่สามารถระบุเพศและจำนวนของคนร้ายได้ ซึ่งต้องรอนำไปเปรียบเทียบกับกลุ่มผู้ต้องสงสัยเพื่อหาตัวคนร้ายต่อไป ส่วนความคืบหน้าคดีก็มีการเรียกผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ โดยจำแนกเป็นกลุ่ม คาดว่าจะสามารถจับกุมคนร้ายได้ในเร็วๆ นี้" พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าว
 

ด้านการสืบสวนแหล่งข่าวรายหนึ่ง กล่าวว่า 

พุ่งเป้าไปที่ช่วงเวลา 04.00-08.00 น. วันที่ 25 พฤศจิกายน ว่า น.ส.โทโมโกะ อยู่ไหน เนื่องจากผลการชันสูตรศพพบว่า ในกระเพาะอาหารมีแอลกอฮอล์อยู่ถึง 97 มิลลิกรัม โดยทราบว่าก่อนถูกฆ่าได้ไปนั่งที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ที่เจ้าของร้านยืนยันว่าไม่มีการดื่มแอลกอฮอล์ มีเพียงดื่มกาแฟ และนั่งอ่านหนังสือท่องเที่ยวเท่านั้น แต่เพราะเหตุใดเมื่อถูกฆ่ากลับมีแอลกอฮอล์อยู่ในกระเพาะ จึงเป็นข้อสงสัยของตำรวจว่าหายไปนั่งดื่มเหล้ากับใคร ที่ไหน ขณะเดียวกัน จากการสอบปากคำคนในครอบครัวระบุว่า ปกติ น.ส.โทโมโกะ ไม่ชอบดื่ม และยิ่งเป็นคนที่ไม่รู้จักยิ่งไม่ดื่มด้วย แต่หากว่าเป็นคนที่รู้จักก็อาจดื่มด้วย แต่ไม่มากนัก
 

นอกจากนี้ตำรวจกองปราบปราม นำโดย พ.ต.อ.ประยนต์ ลาเสือ รองผู้บังคับการกองปราบปราม พ.ต.อ.ประเสริฐ พัฒนาดี ผู้กำกับการ 4 กองปราบปราม ได้นำเด็กนักเรียนที่เดินสวนกับนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากการตรวจสอบการเข้ามาท่องเที่ยวของ น.ส.โทโมโกะ พบว่า ในระหว่างที่เดินทางมาจากด่าน ตม.หนองคาย ได้มากับชาวญี่ปุ่นคนหนึ่ง ซึ่งตำรวจได้นำภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดไปให้เด็กและเจ้าของเกสต์เฮ้าส์ต่างๆ ภายใน ต.เมืองเก่า ดู เพื่อสืบค้นหาหลักฐานบางอย่าง
 

ด้านตำรวจในพื้นที่พล.ต.ต.ศิรินทร์ ผดุงชีวิตร์ ผบก.ภ.จว.สุโขทัย กล่าวว่า 

คดีนี้ถือว่ามีความหนักใจมากเพราะยังขาดหลักฐานบางอย่างที่จะควานไปถึงตัวคนร้าย ทำให้คดีไม่คืบหน้าเท่าที่ควร มีเพียงหลักฐานเนื้อเยื่อในซอกเล็บของผู้ตาย ที่ถือเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญในคดีนี้เท่านั้น เพราะอาจนำไปสู่การติดตามจับกุมฆาตกรรายนี้ และจะมีการเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอที่พบในที่เกิดเหตุ ซึ่งหากตรงกันก็จะได้รับข่าวดีในเร็วๆ นี้ นอกจากนี้ ยังตั้งรางวัลสำหรับผู้แจ้งเบาะแส หากชี้ หรือให้ข้อมูลต่อตำรวจจนสามารถจับกุมคนร้ายได้ จะมีเงินรางวัลให้ 1 แสนบาท
 

ส่วนการติดตามตัวคนร้ายรายนี้ตลอดทั้งวันมีตำรวจจากภูธรจังหวัด และ สภ.เมืองเก่า พื้นที่เกิดเหตุ กว่า 100 นาย ยังคงเดินหน้ากระจายกันค้นหาหลักฐานที่จะเชื่อมโยงไปถึงตัวฆาตกรในละแวกที่เกิดเหตุ โดยขยายขอบเขตพื้นที่เพิ่มโดยรอบระยะรัศมี 5 กิโลเมตร จากจุดเกิดเหตุ เพื่อหาเบาะแสและหลักฐานเพิ่มเติม ที่อาจเป็นประโยชน์ต่อคดีได้


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์