หมอไพศาลรับข้อกล่าวหาคดีสาวหน้าเด้ง

"หมอไพศาล" โร่พบตำรวจ ปฏิเสธข้อหาใช้ซิลิโคนผิด

พ.ร.บ.ยา อ้างไม่ใช่ยาตามที่ อย.แจ้งจับ โวยถูกกลั่นแกล้ง "ผู้การวิสุทธิ์" หิ้วตัวส่งฟ้อง แนะเหยื่อหน้าเน่าออกมาสู้ด้าน อย.ยันผิดจริง โทษคุกไม่เกิน 8 ปี

เมื่อเวลา10.00 น. วันที่27 พฤศจิกายนนพ.ไพศาลหรือ กวีวัธน์ เฮงสวัสดิ์ อายุ 40 ปีเจ้าของสถานเสริมความงามไบโอคลินิก ย่านดอนเมือง พร้อมด้วย นายประวิทย์ มีสมบูรณ์ ทนายความ เข้าพบ พล.ต.ต.วิสุทธิ์วานิชบุตร ผู้บังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี (ผบก.ปศท.) เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในคดีที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ร้องทุกข์กล่าวโทษใน2 ข้อหา คือ 1.ผลิตยาโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ยาพ.ศ.2510 และ2.ผลิตยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา ตาม พ.ร.บ.ยาพ.ศ.2510
 

นพ.ไพศาลกล่าวภายหลังรับทราบข้อกล่าวหาว่า 

ขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และจะฟ้องกลับผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ อย.ในข้อหาเป็นเจ้าหน้าที่แจ้งความเท็จโดยจะมอบหมายให้ทนายความรวบรวมหลักฐานฟ้องภายในสัปดาห์หน้า 

ด้านพล.ต.ต.วิสุทธิ์กล่าวว่า แม้ นพ.ไพศาลจะให้การปฏิเสธ 

แต่วันนี้ได้นำสำนวนพร้อม นพ.ไพศาลส่งฟ้องศาลแล้ว จึงฝากบอกผู้เสียหายจากคลินิกเสริมความงามต่างๆ ให้ออกมาต่อสู้ ไม่ต้องเกรงกลัว เพราะมีเจ้าหน้าที่รัฐ ศาล อย. และสคบ. คอยตรวจสอบอยู่แล้วไม่ต้องกลัวการถูกฟ้องกลับ
 

จากนั้นพนักงานสอบสวนบก.ปศท.

นำตัวนพ.ไพศาลไปที่สำนักงานอัยการสูงสุดถนนรัชดาภิเษก พร้อมสำนวนความเห็นสั่งฟ้องส่งมอบให้นายสมศักดิ์ ติยะวานิช อัยการพิเศษฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 เพื่อพิจารณาสั่งคดีโดยพนักงานอัยการนัดฟังคำสั่งคดีในวันที่ 7 มกราคม2551

นพ.ไพศาลยังกล่าวถึงนายศักดา เฮงสวัสดิ์ น้องชาย

ที่ตกเป็นผู้ต้องหาบงการฆ่านางรวีวรรณ เสตะรัต ว่า ขณะนี้ตนและครอบครัวเสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างมาก คงต้องพิจารณาอีกครั้งว่าจะฟ้องร้องผู้ที่เกี่ยวข้องหรือไม่ อีกทั้งเชื่อว่า อีกไม่นานน้องชายที่คาดว่าจะอยู่ในต่างประเทศจะกลับมามอบตัวสู้คดี

ด้านนายจิตติญาณปัญญา นิติกร 6 ว. สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา 

กล่าวถึงกรณีที่ นพ.ไพศาล ปฏิเสธว่าซิลิโคนไม่ใช่ยาตามที่ อย.กล่าวหาว่า เมื่อ พ.ศ.2544 มีการประชุมคณะกรรมการยาว่า วัตถุใดๆ ที่นำเข้าสู่ร่างกายแล้วมีวิธีการเปลี่ยนแปลงของรูปร่างอวัยวะภายในร่างกายถือเป็นยา ตาม พ.ร.บ.ยา มาตรา 4 (4) ซึ่ง อย.เห็นว่า ซิลิโคนเม็ดนั้นเป็นยาตาม พ.ร.บ.ยา จึงมีความผิด โดยโทษของการผลิตยาโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท และโทษในข้อหาผลิตยาโดยไม่ขึ้นทะเบียนตามตำรับยา มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

"ต่อจากนี้ไปจึงเป็นเรื่องของอัยการและศาลว่าจะพิจารณาอย่างไร 

เพราะความเห็นของอัยการและศาลอาจจะมองเป็นอย่างอื่นก็ได้ แต่ในทางวิชาการ และตามความเห็นของ อย. ซิลิโคนเม็ดถือว่าเป็นยาชนิดหนึ่ง" นายจิตติ ยืนยัน