อย.ห้ามอวดอ้าง โฆษณาหน้าขาว จี้ขออนุญาต ก่อนออกฉาย

อย.ห้ามอวดอ้าง โฆษณาหน้าขาว จี้ขออนุญาต ก่อนออกฉาย / คมชัดลึก

อย.แก้กฎหมายคุมกำเนิดโฆษณาครีมหน้าขาว ป้องผู้ผลิตขาดจริยธรรมฟันกำไร คาดประกาศเป็นกฎกระทรวงได้เร็วๆ นี้ พร้อมสั่งก่อนโฆษณาเครื่องสำอางต้องขออนุญาตก่อน

อีกไม่นานโฆษณาครีมหน้าขาวทางทีวี ที่อวดอ้างสรรพคุณทำให้หน้าขาวได้ภายในไม่กี่วัน อาจจะไม่มีให้เห็นอีกต่อไป เมื่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จะออกกฎหมายไม่ให้ใช้คำอวดอ้างสรรพคุณดังกล่าวแล้ว ทั้งนี้ เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 27 เมษายน ศ.ดร.ภักดี โพธิศิริ เลขาธิการ อย.กล่าวถึงความคืบหน้าการห้ามโฆษณาครีมหน้าขาวเกินความเป็นจริง เช่น เมื่อใช้ครีมแล้วจะทำให้หน้าขาวภายใน 3-7 วัน อย่างผิดธรรมชาติ ว่า ได้ส่งหนังสือเตือนไปยังบริษัทผู้ผลิตครีมเหล่านั้นแล้ว รวมทั้งดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย ส่วนจะมีบริษัทใดบ้าง ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการดำเนินคดี

ศ.ดร.ภักดี บอกด้วยว่า นอกจากนี้ยังสั่งติดตามการออกอากาศของโฆษณาครีมหน้าขาวอย่างต่อเนื่อง เพื่อเฝ้าระวังและดำเนินคดี หากพบมีการโฆษณาเกินจริงเพิ่มเติม และหากพบ อย.จะสั่งระงับโฆษณาก่อน แล้วจะเชิญผู้ประกอบการเข้าชี้แจงเกี่ยวกับเนื้อหาข้อความเหล่านั้น ซึ่งต้องมีข้อมูลยืนยัน หากเชื่อถือได้ก็สามารถโฆษณาต่อไป แต่หากพบว่าเป็นการโฆษณาเกินจริง ผู้ประกอบการจะถูกดำเนินคดีย้อนหลังด้วย

เลขาธิการ อย.กล่าวว่า การออกประกาศฉบับที่ 2 เรื่องการห้ามโฆษณาข้อความที่ทำให้เข้าใจผิดว่าจะทำให้หน้าขาวได้ภายในเวลาที่กำหนดนั้น ขณะนี้ อย.ส่งประกาศฉบับดังกล่าวไปยังกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อให้ปลัดกระทรวงลงนาม แล้วส่งไปประกาศในราชกิจจานุเบกษา และอยู่ระหว่างการตรวจสอบของฝ่ายกฎหมาย คาดว่าคงออกประกาศได้ในเร็ววันนี้ นอกจากนี้ อย.ยังเตรียมเสนอขอแก้ไข พ.ร.บ.เครื่องสำอาง เรื่องการโฆษณา เดิมทีก่อนการโฆษณาไม่ต้องขออนุญาตจาก อย. แต่ต่อไปนี้บริษัทผู้ผลิตเครื่องสำอาง จะต้องนำโฆษณามาให้ อย.พิจารณาก่อน ป้องกันปัญหาการโฆษณาเกินจริง

"สาเหตุที่ต้องแก้ไขกฎหมาย เนื่องจากจริยธรรมการโฆษณาบ้านเรายังไม่เหมือนสากล แม้รู้ว่าไม่ถูกต้อง เป็นการโฆษณาเกินจริง ก็จงใจให้มีการโฆษณาไปก่อน เพื่อให้ได้กำไรอย่างน้อย 1 เดือน ทำให้ผู้บริโภครับทราบและหลงเชื่อโฆษณา ซื้อผลิตภัณฑ์มาใช้ เมื่อไม่ได้ผลจึงมีการร้องเรียนเข้ามาภายหลังเป็นจำนวนมาก ประกอบกับการติดตามตรวจสอบโฆษณาเมื่อออกอากาศ หรือนำเสนอทางสื่อต่างๆ ไปแล้ว เป็นเรื่องยุ่งยากมากกว่า" เลขาธิการ อย.กล่าว

พร้อมกันนี้ ศ.ดร.ภักดี ยังย้ำว่า การดำเนินการคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภค เป็นภารกิจที่สำคัญ อย.ให้ความสำคัญและไม่นิ่งเฉยต่อเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ ที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค เมื่อได้รับเรื่องร้องเรียนแล้ว อย.มีมาตรการดำเนินการอย่างครบวงจร เริ่มจากตรวจสอบตามคำร้องเรียน โดยขอให้แจ้งข้อมูล หรือแนบหลักฐาน พร้อมกับรายละเอียดอย่างชัดเจน เพื่อจะติดต่อกลับได้

ศ.ดร.ภักดี กล่าวด้วยว่า มีหลายครั้งที่ข้อมูลร้องเรียนไม่ชัดเจน หรือไม่ได้ส่งมอบตัวอย่างผลิตภัณฑ์ ที่มีปัญหาให้ตรวจสอบ อย.ก็ไม่สามารถดำเนินการได้อย่างทันท่วงที เรื่องร้องเรียนต่างๆ ที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ อย.จะใช้เวลาในการส่งเรื่องให้ผู้เกี่ยวข้องภายใน 2 วันทำการ ซึ่งเจ้าหน้าที่ อย.จะตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ ตรวจสอบสถานที่ผลิต และสถานประกอบการ รวมทั้งส่งต่อกรณีที่ผู้ร้องต้องการเรียกร้องค่าเสียหาย หรือประสานผู้เกี่ยวข้องอื่นให้อีกด้วย

ด้านความคืบหน้าการร้องเรียนของ น.ส.พรพรรณ สีดา อายุ 22 ปี ที่เข้าคอร์สนวดหน้าทำทรีตเมนต์จากสถานเสริมความงามชื่อดัง สาขาราษฎร์บูรณะ แทนที่หน้าจะขาวใสไร้สิวกลับเป็นตรงกันข้ามนั้น เลขาธิการ อย.บอกว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสถานเสริมความงามชื่อดังทั้ง 2 สาขา คือ สาขาราษฎร์บูรณะ และสาขาพระราม 2 ตามที่ผู้เสียหายร้องเรียนไว้ จากการเก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ผู้ร้องเรียนใช้ ได้แก่ ครีมแต้มสิว ครีมทาฝ้าสูตร 2 จากการทดสอบเบื้องต้นหาสารต้องห้ามไฮโดรควิโนนและกรดเรทิ-โนอิก ก็ไม่พบ

"เมื่อตรวจสอบการแสดงฉลากเครื่องสำอางที่จำหน่ายภายในร้าน พบว่า ครบถ้วนถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์ส่งตรวจวิเคราะห์ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ด้วย หากพบว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป" เลขาธิการ อย.กล่าว

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์