บุกจับ2 ชาวพม่าขณะกำลังแล่ปล้าปักเป้าทำลูกชิ้น

ตำรวจบุกจับโรงงานย่านสมุทรสาครรวบ 2 คนงานชาวพม่าขณะกำลังแล่ปลาปักเป้าทำลูกชิ้นปลารักบี้ น้ำหนัก 300 กก. สารภาพแล่ทำลูกชิ้นส่งขายกรุงเทพฯ

เหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจับโรงงานที่แล่เนื้อปลาปักเป้าทำลูกชิ้นรายนี้เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา15.00 น. วันที่24 ตุลาคมพล.ต.ต.วิสุทธิ์วานิชบุตร ผู้บังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี (ผบก.ปศท.) แถลงข่าวผลการจับกุมน.ส.สุลิ อายุ 30 ปีและนายชุละเอ อายุ 32 ปีชาวพม่า พร้อมของกลางเนื้อปลาปักเป้าที่แล่แล้วถูกดัดแปลงเป็นลูกชิ้นปลารักบี้ ลูกชิ้นปลาเส้นสำหรับใส่ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟและลูกชิ้นผสมสาหร่าย แครอท น้ำหนักประมาณ 300 กิโลกรัมโดยจับกุมได้ที่โรงงานไม่มีชื่อ ซอยสามัคคีศรัทธาราม ถนนเอกชัย ต.บางหญ้าแพรก อ.เมืองจ.สมุทรสาคร

การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากพ.ต.ท.อภิชาติอภิธานนท์ สว.กก.3 บก.ปศท. สืบทราบว่า โรงงานดังกล่าวเป็นแหล่งรับแล่เนื้อปลาปักเป้าผิดกฎหมายจึงขออนุมัติหมายศาลเข้าตรวจค้น 

จากการตรวจค้นพบว่า โรงงานดังกล่าวเป็นตึกแถวมุงหลังคาด้วยสังกะสี ภายในมีคนงานชาวพม่ากำลังแล่เนื้อปลา และนำไปดัดแปลงเป็นลูกชิ้นกันอย่างขะมักเขม้น มีกลิ่นเหม็นคาวปลาอย่างรุนแรง สภาพภายในสกปรกเลอะเทอะ มีหนูวิ่งผ่านตลอด เมื่อคนงานชาวพม่าเห็นตำรวจก็พากันวิ่งหลบหนีไปคนละทิศละทาง โดยเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ 2 คน



ผู้ต้องหาทั้งสองซึ่งเป็นชาวพม่าแต่สามารถพูดภาษาไทยได้บ้างให้การว่า 

โรงงานดังกล่าวเป็นของ "เจ๊แจ๋ว" ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจิรง โดยแต่ละวันคนงานชาวพม่าจะมีหน้าที่แล่เนื้อปลาที่นำมาส่งที่โรงงาน แล้วนำเข้าเครื่องทำลูกชิ้น โดยมีการปรุงรสต่างๆ จากนั้นจะมีคนมารับไปจำหน่ายตามตลาดสดและร้านอาหารในกรุงเทพฯ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาผิด พ.ร.บ.อาหารและจะติดตามตัวเจ้าของโรงงานมาดำเนินคดีต่อไป

สำหรับปลาปักเป้าจะมีพิษในส่วนของไข่ตับ ลำไส้ และหนัง 

ดังนั้น การแล่จึงต้องใช้ผู้มีความชำนาญเป็นพิเศษ ผู้ที่ได้รับพิษจากปลาปักเป้า ระยะแรกจะเริ่มมีอาการชาที่ริมฝีปากลิ้น บริเวณใบหน้า และปลายนิ้วมือ รวมทั้งคลื่นไส้อาเจียน จากนั้นจะมีอาการอ่อนเพลีย แขน-ขาไม่มีมีแรง กล้ามเนื้อกระตุก และอัมพาต หายใจไม่ออก จนถึงแก่ความตายในที่สุด

ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศ (ฉบับที่264) พ.ศ.2545 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่26 ธันวาคม2545
 

เรื่องกำหนดอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย โดยมีสาระสำคัญห้ามมิให้ผลิต นำเข้า หรือจำหน่ายปลาปักเป้า และอาหารที่มีปลาปักเป้าเป็นส่วนผสม รวมถึงการผลิตเพื่อส่งออกด้วย ผู้ฝ่าฝืนจะมีความผิดตามมาตรา50 แห่งพ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสองปีและปรับตั้งแต่ห้าพันบาทถึงสองหมื่นบาท

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์