หลักฐานใหม่โผล่! กุญแจรถ-เหรียญรูเผาไฟ หวั่นใช้สะกดวิญญาณ (คลิป)

จากกรณีน้องชมพู่ อายุ 3 ปี สูญหายจากบ้านพักพัก อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค.63 จนไปพบศพกลางป่าบนเขาภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้าน 5 กม. กระทั่งผลชันสูตรจาก รพ.ตำรวจ พบบาดเเผลที่อวัยวะเพศ ขณะที่ตำรวจกำลังเร่งหาหลักฐานเพื่อตรวจหาดีเอ็นเอแฝง ด้านทีมข่าวไปพบเสื้อลายพรางถูกเผา ซึ่งอยู่ห่างจากจุดพบรถแบกโฮของเล่น ประมาณ 200 เมตร นอกจากนี้ยังมีหมอธรรมออกมาทำนายจุดซ่อนหลักฐานมากมาย แต่ก็ยังหาไม่พบ

ล่าสุดวันที่ 29 พ.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้เดินทางมาที่สำนักสงฆ์แห่งหนึ่งในบ้านปากช่อง ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ซึ่งในสำนักสงฆ์แห่งนี้มีพระรูปหนึ่งชื่อ "พระอาจารย์ปลาย" ซึ่งเป็นพระอาจารย์ที่เคยเข้าไปที่บ้านน้องชมพู่ตั้งในช่วงวันที่ 12 พ.ค.63 ที่น้องชมพู่หายตัวไป โดยสำนักสงฆ์แห่งนี้ห่างจากหมู่บ้านของน้องชมพู่ ประมาณ 15 กม.

พระอาจารย์ปลาย บอกกับทีมข่าวขณะนี้อาตมาไม่สามารถทำอะไรให้ดูได้อีกแล้ว เพราะไม่ใช่กิจของสงฆ์ตั้งแต่แรก แต่ที่อาตมาไปช่วยหาน้องชมพู่วันที่หายไปนั้น เนื่องจากอาตมาขัดโยมที่เข้ามานิมนต์ไม่ได้ จึงได้ไปช่วยดูให้ว่าเด็กหายไปไหน และตั้งแต่วันนั้นอาตมาก็จบเรื่องไปแล้ว ตอนนี้อาตมาจึงไม่สามารถสื่อสารอะไรได้ อีกทั้งวันนี้เป็นวันพระ อาตมายิ่งไม่สามารถทำอะไรได้เลย

ทีมข่าวพยายามรออยู่นาน เพื่อรอพระอาจารย์เข้าทรง หรือสื่อสารกับเจ้าที่อีกครั้ง แต่พระอาจารย์ปลาย กล่าวว่า อาตมาไม่สามารถทำได้จริง ๆ และอย่าขอให้อาตมาทำอีกเลย อย่ารบกวนอาตมามากไป และไม่ควรตื๊อแบบนี้ เพราะการตื๊อโดยที่พระอาจารย์ไม่เต็มใจมันจะไม่ดี

นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้คุยกับนางทิพย์ (นามสมมติ) แม่ค้ำของสำนักสงฆ์พระอาจารย์ปลาย แม่ค้ำหมายความว่าบุคคลที่ต้องนำอาหารไปวัดทุกวัน นางทิพย์ เปิดเผยว่า วันที่ 12 พ.ค.63 ที่ผ่านมา ตอนตามหาน้องชมพู่ ตนก็ได้ไปกับพระอาจารย์ปลาย ไปถึงบ้านก็เป็นช่วงค่ำ ๆ โดยพระอาจารย์ปลาย ไปทำพิธีตรงศาลหลักบ้านและนำขันธ์ 5 ไปเพ่งจิต จากนั้นพระอาจารย์ก็บอกกับครอบครัวน้องชมพู่ว่า เดี๋ยวจะมีคนมาบอกข่าวเองว่าเด็กไปไหน

นางแคท (นามสมมติ) ลูกศิษย์ของพระอาจารย์ท่านหนึ่ง ซึ่งเดินทางมาที่เขาภูเหล็กไฟ เปิดเผยว่า ตนเดินทางมาที่นี่เนื่องจากติดตามข่าวมาสักระยะ และพบว่ายังไม่เจอหลักฐานที่เป็นเสื้อของน้องชมพู่ จึงอยากเดินทางมาค้นหา โดยก่อนเดินทางนั้นตนได้ไปคุยกับพระอาจารย์ ซึ่งให้ข้อมูลว่า น้องชมพู่ไปสู่สุขติแล้ว ไม่ได้อยู่ที่ภูแห่งนี้

ทีมข่าวเดินทางมาที่ภูเหล็กไฟ โดยวันนี้ตั้งใจขึ้นไปทำพิธีที่หน้าถ้ำ 3 ตามคำบอกเล่าของนิมิตหมอธรรม และมีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูผายล ชาวบ้าน รวมกว่า 10 คน ซึ่งชาวบ้านที่เดินทางมาด้วย บางส่วนตั้งใจเดินทางไปดูถ้ำที่พบ ระบุว่าทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เป็นทีมแรกที่เข้ามาพบถ้ำ ทำให้ชาวบ้านอยากเห็น

ทีมข่าวเลือกเดินขึ้นตามเส้นทางที่พบแหวนสแตนเลส โดยต้องเบี่ยงทางขวาของภูเหล็กไฟ เมื่อเดินขึ้นไปเรื่อย ๆ ระยะหนึ่ง ชาวบ้านบ้านกกกอกที่เดินทางมากับทีมข่าว ได้จุดธูป 3 ดอก เพื่อบอกเจ้าป่าเจ้าเขา ขอให้พบเจอเสื้อน้องชมพู่เพื่อเป็นหลักฐานคลี่คลายคดี

จากนั้นก็มีแมลงหามผี ลักษณะตัวยาว มี 6 ขา 2 หนวด มาเกาะที่ขาทีมข่าว จากนั้นทีมข่าวจึงนำมาไว้ที่ต้นไม้บริเวณที่เกิดเหตุ และเดินมุ่งหน้าขึ้นไปยังจุดพบศพน้องชมพู่

สำหรับแมลงหามผี มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Phasma (ภาษาละติน แปลว่า ผี) ชื่ออื่น ตั๊กแตนกิ่งไม้ ตั๊กแตนใบไม้ ลำตัวยาวสีคล้ายกิ่งไม้ หรือใบไม้แห้ง เปลี่ยนสีพรางตัว ล่อเหยื่อ อาศัยในประเทศเขตร้อน และเขตอบอุ่น

ทีมข่าวเดินต่อไปมุ่งหน้าไปจุดพบศพ สอบถามชาวบ้านบ้านกกกอก ที่ขึ้นมากับทีมข่าว และเป็นคนจุดธูปบอกกล่าว เปิดเผยว่า ตนก็จุดธูปบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าป่า ให้เปิดป่าเปิดเขา ให้ได้เจอเสื้อของชมพู่ เพราะตอนนี้หลายวันแล้วที่ออกค้นหากัน แต่ก็ยังหาไม่เจอ นอกจากนี้หลังจากที่ตนจุดธูปเสร็จ มีแมลงหามผี โดยชาวบ้านบางคนเขาเชื่อกันว่าแมลงพวกนี้จะพาให้เห็นร่องรอย วิญญาณน่าจะรับรู้ คาดว่าเจ้าป่าเขารับรู้แล้ว ตอนนี้ก็เดินมาสบาย ๆ ไม่มีอุปสรรคอะไร ส่วนแมลงหามผี ชาวบ้านแถวนี้ไม่ได้เจอกันง่าย ซึ่งครั้งนี้ที่ปรากฏก็น่าจะมีอะไรบางอย่าง

ทั้งนี้ในระหว่างเดินทางปรากฏ เจ้าหน้าที่อุทยานได้ชี้ให้ทีมข่าวดูบริเวณเนินหินที่อยู่ข้างทาง ปรากฏพบพวกกุญแจ 1 พวง เป็นพวงกุญแจรถจักรยานยนต์ฮอนด้า 1 ดอก กุญแจดอกเล็ก 2 ดอก คล้ายกุญแจตู้ ในพวงกุญแจมีเหรียญรูสมัยโบราณ 3 เหรียญคล้องอยู่

สภาพกุญแจดังกล่าวกึ่งเก่า กึ่งใหม่ สนิมเริ่มขึ้นบ้าง ทีมข่าวแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาเก็บไว้เป็นหลักฐานแล้ว จุดนี้อยู่ห่างจากจุดพบศพราว 200 เมตร ซึ่งอยู่เลียบทางเดินขึ้นไปพอดี หากดูตามคำสันนิษฐานของตำรวจ ทางนี้อาจเป็นทางขึ้นของคนร้าย ซึ่งเจอแหวนไปก่อนหน้านี้ จากนั้นก็ลงทางที่เจอแบคโฮของเล่น และเสื้อลายพราง

เมื่อเทียบเคียงเสื้อลายพราง กับ กุญแจ จะพบว่า ในวันที่ 24 พ.ค.63 ทีมข่าวได้เดินทางมาพบเสื้อลักษณะวางอยู่บนแผ่นดินขนาดใหญ่ ตรวจสอบถูกเผาเหลือเพียงเศษผ้าและกระเป๋าเสื้อ ห่างจากจุกที่ศพน้องชมพู่ ประมาณ 500 เมตร ส่วนในวันที่ 29 พ.ค.63 ทีมข่าวได้พบกุญแจ วางอยู่บนแผ่นดิน ห่างจากจุดพบศพน้องชมพู่ ประมาณ 200 เมตร

ทีมข่าวสอบถาม นายสมมาตร ศรีสมาจาร แฟนพันธุ์แท้รถจักรยานยนต์ ปี 2002 เทียบเคียงกุญแจรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน 125 อาร์ โฉมเก่า ของผู้ต้องสงสัย ปรากฎว่า เป็นคนละรุ่นกัน กุญแจที่พบเจอในป่ารุ่นใหม่กว่า เพราะกุญแจแบบนี้จะเป็นของรถฮอนด้าเวฟ 125 เอ็กซ์ ผลิตปี พ.ศ.2550 ดอกกุญแจจะยาวกว่า และบริเวณหัวกุญแจ ตรงพลาสติกสีดำจะมีจุดที่ใช้ไขระบบชัตเตอร์คีย์ หรือม่านปิดช่องกุญแจ

ขณะเดียวกันหากกรณีเจ้าของรถทำกุญแจหาย ช่างทำกุญแจก็จะทำดอกกุญแจแบบเดิม คือ แบบสั้น คงไม่มีใครทำกุญแจรุ่นใหม่ดอกยาว เพื่อเอาไปใช้กับรถรุ่นเก่า อย่างไรก็ตามรถจักรยานยนต์รุนเก่า มีข้อเสีย หากรูกุญแจเสียหาย หรือหลวมมาก ๆ ก็สามารถใช้กุญแจที่ขนาดเดียวกัน หรือแบบที่เสียบลงไปได้ ก็สามารถจะเปิดสวิตช์ และสตาร์ตเครื่องได้เช่นกัน

ในความเห็นส่วนตัว อยากให้เจ้าหน้าที่นำกุญแจดังกล่าว ซึ่งมีหมายเลขอยู่บนดอกกุญแจไปตรวจสอบกับทางศูนย์รถ อาจจะได้ข้อมูลเพิ่มเติม หรืออาจตรวจเช็กได้ว่ารถออกจากศูนย์ไหน ใครเป็นคนซื้อ

เณรแอร์ ยังบอกอีกว่า ที่ผ่านมาคดีอาชญากรรมที่ต้องพึ่งไสยศาสตร์ ตนก็เคยช่วยเจ้าหน้าที่มาแล้ว พร้อมบอกทีมข่าวว่า คดีข่มขืนแล้วฆ่าหากจะแก้เคล็ดให้จับคนร้ายได้ ให้นำใบบอนมาตีปาก หรือใช้กุญแจไปตีปากศพเด็ก เหมือนการเปิดปาก วิญญานก็จะช่วยไขคดี และแก้เคล็ดจนนำไปสู่การจับคนร้ายได้ แต่กรณีน้องชมพู่ น่าเสียดายที่เผาศพไปแล้ว