ด่วน!!รวบตัวแล้วโจรจี้ชิงทอง กลางห้างเดอะมอลล์บางแค

(16ตค.) เวลา 00.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีคนร้ายบุกจี้ชิงทองภายในห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์บางแค ถนนเพชรเกษม แขวงและเขตบางแค ว่า

เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.หลักสอง นำตัวพนักงานภายในร้าน เจ้าหน้าที่หน่วยอาสาสมัครภายในห้าง และคนขับรถแท็กซี่ที่คนร้ายใช้ปืนจี้เพื่อหลบหนี มาสอบสวนหารูปพรรณสันฐานคนร้าย รวมถึงสเก็ตภาพคนร้ายเรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นตำรวจได้สเก็ตภาพคนร้าย และขออำนาจศาลออกหมายจับคนร้ายรายนี้แล้ว

ต่อมาเวลา03.00 น.วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า ว่า

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.หลักสองได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบคนร้ายได้ทิ้งหลักฐานซึ่งเป็นสลิปเงินตกหล่นอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุโดยมียอดการใช้จ่ายเงิน 2 หมื่นบาท จนสามารถทำให้ทราบชื่อคนร้ายที่ก่อเหตุจี้ร้านทองรายนี้คือนายคมสัน โคตรปทุม อายุ 32 ปี พักอาศัยอยู่ย่านปากน้ำจ.สมุทรปราการ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตามจับตัวมาดำเนินคดี

ล่าสุดรายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หลักสอง ได้ทำการจับกุมนายคมสัน ผู้ต้องหารายนี้ได้แล้ว และอยู่ระหว่างการนำตัวไปสอบสวนที่เซฟเฮ้าแห่งหนึ่ง

ก่อนหน้านั้น เมื่อเวลา 19.30 น. วานนี้ (15ตค.) พ.ต.ท.สุพิศ อาละพล สารวัตรเวร สน.หลักสอง รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกจี้ชิงทองภายในห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์บางแค ถนนเพชรเกษม แขวงและเขตบางแค จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นรุดไปสอบสวน โดยมีพล.ต.ต.กฤษฎา พันธ์คงชื่น รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.)พล.ต.ต.ภานุรัตน์ มีเพียร ผบก.น.9 เดินทางไปร่วมตรวจสอบด้วย

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณชั้นจีที่ร้านขายทองชื่อร้านทองแม่ทองใบคลาสสิก ภายในร้านพบสร้อยคอทองคำจำนวนหลายเส้นตกเกลื่อนพื้น สอบปากคำน.ส.เกตุวดี แซ่ตั้ง อายุ 30 ปี พนักงานขายในร้านให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ มีลูกค้าเป็นหญิง 1 คนกำลังเลือกซื้อทอง ตนก็ต้อนรับตามปกติ

ต่อมา ได้มีชายผิดดำแดงสูงประมาณ 170 เซ็นติเมตร สวมเสื้อแจ๊คเก็ตสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์สวมหมวกคล้ายหมวกเดินป่าที่ดำ สะพายกระเป๋าเป้ 1 ใบ เดินเข้ามาภายในร้านก่อนจะกระโดดข้ามเคาน์เตอร์เข้ามาแล้วหยิบทองที่โชว์อยู่ในกระบะผนังใส่กระเป๋าเป้อย่างรวดเร็ว ตนได้เข้าห้ามและดันตัวคนร้ายออกไป ปรากฏว่าคนร้ายชักอาวุธปืนออกมาขู่จึงวิ่งหนีออกจากร้าน

ระหว่างนั้นพนักงานภายในร้านต่างวิ่งหลบหนี ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เนื่องจากคนร้ายมีอาวุธปืน จากการสังเกตุน่าเป็นอาวุธปืนออโตเมติกสีดำ หลังจากคนร้ายใช้เวลาคาดว่าประมาณ 30 วินาทีได้กวาดทองไปกว่า 300 บาท ประกอบด้วยสร้อยคอ - สร้อยข้อมือทองคำน้ำหนักเส้นละ 2 บาท จำนวน 98 เส้น และสร้อยคอทองคำน้ำหนักเส้นละ 5 บาท จำนวน 25 เส้น จากนั้นคนร้ายได้กระโดดข้ามเคาน์เตอร์ออกมาแล้ววิ่งไปทางประตูด้านหน้าห้างอย่างรวดเร็ว และระหว่างที่คนร้ายวิ่งออกไปนั้น พนักงานภายในร้านได้กดสัญญาณฉุกเฉินทำให้ระบบรักษาความปลอดภัยเตือนขึ้น ก็มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทราบเหตุร้ายจึงได้วิ่งติดตามคนร้ายออกไปแต่ก็ไม่พบ

ด้านนายนิพนธ์ ปานบุญลือ เจ้าหน้าที่หน่วยอาสาสมัครกล่าวว่า

เป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครประจำจุดหน้าห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ ทราบเหตุจากวิทยุว่า มีเหตุจี้ชิงทองภายในห้างจึงวิ่งติดตามคนร้ายก็เห็นคนร้ายวิ่งออกมาจากห้างแล้ววิ่งขึ้นสะพานลอยข้ามไปฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นถนนเพชรเกษมขาออก จากนั้นได้กระโดดขึ้นรถประจำทางแต่ไม่ทราบว่าสายอะไร เนื่องจากวิ่งตามไประยะห่าง ๆ สังเกตุว่าคนร้ายรู้ตัวว่ามีตนตาม

ขณะที่การจารจรฝั่งที่คนร้ายขึ้นรถประจำทางนั้นนั้นหนาแน่น คนร้ายจึงวิ่งลงจากรถประจำทางแล้ววิ่งข้ามถนนกลับมาฝั่งห้างและวิ่งไปขึ้นรถแท็กซี่สีเขียวเหลือทะเบียน มจ-4112 กทม.ทราบชื่อคนขับภายหลังว่านายประเสริฐ สาลิกา ตนพยายามวิ่งไล่ตามไปจนถึงรถแท็กซี่และพยายามจะเข้าไปบอกคนขับรถแท็กซี่ว่าอย่าออกรถ ทำให้คนร้ายใช้อาวุธปืนจี้บังคับให้คนขับรถแท็กซี่ให้ออกรถไป พวกตนจึงแจ้งวิทุยสกัดจับคนร้าย แต่ก็คลาดกันบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าโลตัสบางแค ทำให้คนร้ายหลบหนีไปด้

พล.ต.ต.ภานุรัตน์เปิดเผยว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดต่อนายประเสริฐ คนขับรถแท็กซี่ได้แล้วก็ได้ทำการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า

หลังจากคนร้ายจี้บังคับให้ออกรถจากหน้าห้างก็ให้ไปส่งบริเวณวัดศรีเอี่ยม ถนนศรีนครินทร์ จากนั้นคนร้ายก็วิ่งหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว