จับ3โจ๋วัย15-ลวงอุ้มฆ่ารองผอ.โรงเรียน

สารภาพ! นำทำแผน ตร.ลุยต่อ จับเพิ่มแน่


ตร.รวบตัว 3 โจ๋เหี้ยม อายุแค่ 15-16 ปี ร่วมกันก่อคดีฆ่าโหดรองผอ.โรงเรียนลำพูน รับสารภาพสิ้นวางแผนล่วงหน้า ลวงมาฆ่าชิงทรัพย์เป็นเงิน 8 หมื่น นำตร.ทำแผนประกอบคำรับสารภาพทุกขั้นตอน ใช้มีดที่เตรียมมาจี้ให้บอกรหัสเอทีเอ็ม พอเพื่อนแยกไปกดได้เงินแล้ว ก็แทงตายทันทีคารถ แล้วนำศพไปทิ้งริมแม่น้ำปิง ส่วนรถไปจอดทิ้งอีกจุด เผยเบื้องหลังการสืบ วงจรปิดตู้เอทีเอ็มจับภาพเด็กวัยรุ่นเป็นคนมากดเงินผู้ตาย ขณะที่เบอร์โทร.ติดต่อกันกลับเป็นของแม่เด็ก 1 ใน 3 ผบช.ภาค 5 เผยเร่งขยายผลจับเพิ่มอีก 1-2 คน

จากกรณีคนร้ายอุ้มนายบุญรัตน์ ณะพรหม รองผอ.โรงเรียนทาขุมเงินวิทยาคาร อ.แม่ทา จ.ลำพูน หายตัวไปนานหลายวัน

จนญาติเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่สภ.ต.ทากาศ ซึ่งตำรวจตามจนพบรถเก๋งโตโยต้าโคโรลล่าของนายบุญรัตน์ ถูกจอดทิ้งไว้ที่ด้านหลังห้างสรรพสินค้าคาร์ฟูร์ โครงการบิซิเนสพาร์ค ต.หนองป่าครั่ง อ.เมือง เชียงใหม่ โดยมีคราบเลือด ร่องรอยการต่อสู้และเศษหินดินทรายในรถ ต่อมาพบศพนายบุญรัตน์ถูกฆ่าทิ้งไว้ริมแม่น้ำปิง บ้านร้องขี้ควาย ต.สันผีเสื้อ อ.เมืองเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา พร้อมจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งมาสอบสวน ตามที่เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 3 ต.ค.

พล.ต.ต.สุวัจน์ กรึงไกร รองผบช.ภาค 5 พร้อมด้วย พ.ต.อ.มนตรี สัมบุณณานนท์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พ.ต.อ.อุดม พรหมสุรินทร์ รองผบก.กลุ่มงานสืบสวนภาค 5 พ.ต.อ.กฤษณพล ยี่สาคร ผกก.สภ.ต.แม่ปิง เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสภ.ต.แม่ปิง และกลุ่มงานสืบสวนภาค 5 ควบคุมตัว นายเอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี นายบี (นามสมมติ) อายุ 15 ปี และนายซี (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุ หลังจากที่ผู้ต้องหาทั้ง 3 ให้การรับสารภาพว่า ร่วมกันฆ่านายบุญรัตน์เสียชีวิต เมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา พร้อมของกลาง มีดปลายแหลมทำครัว 1 เล่ม เชือกไนลอน 1 เส้น แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ ก 6705 ลำพูน 2 แผ่น คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก และเงินสด 55,000 บาท

จากนั้นควบคุมตัวทั้ง 3 คนมาทำแผน 2 จุด

จุดแรกที่พบศพนายบุญรัตน์ และจุดที่สองซึ่งคนร้ายนำรถมาจอดทิ้งไว้หลังห้างสรรพสินค้าคาร์ฟูร์ โดยจุดแรกนายเอลงไปทิ้งศพผู้ตายเพียงคนเดียว ก่อนจะย้ายไปทำแผนยังจุดที่จอดรถทิ้งไว้ในเวลาต่อมา จากการสอบสวนผู้ต้องหาทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ 3 วัน ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ร่วมกันวางแผนเพื่อชิงทรัพย์ของผู้ตาย โดยได้จัดเตรียมมีด ถุงมือผ้า 2 คู่ และเชือกไนลอน 1 เส้นไว้ จากนั้นวันที่ 28 ก.ย. ได้นัดผู้ตายมารับประทานอาหารที่ร้านหมูกระทะซุ้มสบาย ถ.นิมมานเหมินท์ หลังจากผู้ตายเลิกจากงานศพที่จ.ลำพูน ในเวลา 18.30 น.ผู้ตายจึงแวะมารับกลุ่มผู้ต้องหาที่ห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส สาขาตลาดคำเที่ยง เมื่อผู้ตายมาถึงได้รับนายเอและนายบีขึ้นรถ โดยนายเอนั่งด้านหน้า ส่วนนายบีนั่งเบาะหลัง ส่วนนายซีขี่รถจักรยานยนต์ตามมาด้านหลัง

ต่อมานายเอบอกให้ผู้ตายไปรับเพื่อนอีก 1 คน ใกล้โรงเรียนพายัพเทคโนโลยี ผู้ตายจึงขับไปจนถึงทางแยกวงแหวนรอบที่ 3 ถนนไปอ.แม่ริม


ได้ให้ผู้ตายจอดรถข้างทางที่มืด จากนั้นทั้งสองได้ใช้มีดที่เตรียมมาจี้บังคับเอากระเป๋าเงินของผู้ตายซึ่งมีเงิน 2,100 บาท และบังคับให้ผู้ตายข้ามไปนั่งเบาะหลังพร้อมกับนายเอ ส่วนนายบีมาขับรถแทน นายบีได้ขับพากันมาตามเส้นทางเชียงใหม่-แม่โจ้ ก่อนจอดรถที่ว่างหลังโรงเรียนพายัพเทคโน และใช้มีดจี้ผู้ตายให้มอบบัตรเอทีเอ็มพร้อมรหัสของธนาคารกสิกรไทย สาขารวมโชค

จากนั้นนายซีซึ่งขี่รถจักรยานยนต์ตามมานำบัตรเอทีเอ็ม ไปยังธนาคารกสิกรเพื่อไปกดเอทีเอ็มทันที

ส่วนผู้ต้องหาทั้งสอง ยังคงจอดรถรออยู่ที่เดิม กระทั่งโทรศัพท์ติดต่อกับนายซีว่าสามารถกดเงินได้แล้วจำนวน 78,000 บาท ผู้ต้องหาทั้งสองจึงใช้มีดแทงผู้ตายบริเวณเบาะหลัง จนถึงแก่ความตาย ส่วนนายซีหลังจากกดเงินได้แล้ว ขี่รถจักรยานยนต์มารออยู่หลังห้างสรรพสินค้าคาร์ฟูร์ ส่วนผู้ต้องหาทั้งสองหลังจากสังหารผู้ตายเสร็จแล้ว ได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวนำศพผู้ตายมาทิ้งบริเวณที่เปลี่ยวริมแม่น้ำปิงซึ่งเป็นท่าทราย ใกล้กับร้านอาหารบ้านสวนสันผีเสื้อ ก่อนจะขับรถไปจอดไว้ที่หลังห้างสรรพสินค้าคาร์ฟูร์ แล้วถอดป้ายทะเบียนออก จากนั้นขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนสามพากันไปแบ่งเงินที่บ้านนายซี ส่วนคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กนายเอเป็นผู้เอาไป แต่ฝากไว้บ้านนายซีก่อน

รายงานข่าวแจ้งว่า เบื้องหลังการสอบสวนครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ของผู้ตายครั้งสุดท้าย จนทราบว่า

ผู้ตายนั้นได้ติดต่อทางโทรศัพท์มือถือกับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งผู้หญิงคนดังกล่าว ตอนแรกทางตำรวจจะเชิญตัวมาสอบปากคำ แต่เมื่อทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบวงจรปิดตู้เอทีเอ็มที่ผู้ต้องหาไปกดเงินบัตรของผู้ตาย ได้เห็นชายวัยรุ่นเป็นผู้กด จึงได้ตรวจสอบประวัติของผู้หญิงคนดังกล่าว ทราบว่าเป็นแม่ของนายเอ ทางตำรวจจึงได้เชิญตัวนายเอมาสอบปากคำคนแรก ซึ่งนายเอให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือสังหารผู้ตาย และมีผู้ร่วมกระทำผิดอีก 2 คน ตำรวจจึงติดตามจับกุมบุคคลทั้งสองในเวลาต่อมา ในที่สุดทั้งหมดก็ยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

พล.ต.ท.ธีระศักดิ์ ชูกิจคุณ ผบช.ภาค 5 เปิดเผยว่า

คดีนี้จะมีใครอยู่เบื้องหลังหรือชักจูงให้เด็กทั้งสามก่อคดี ทางตำรวจได้ขยายผลอย่างต่อเนื่อง เพราะเชื่อว่าจะต้องมีเหตุให้เป็นสาเหตุเชื่อมโยงกัน ลำพังเด็กทั้งสามคนไม่น่าที่จะมีพฤติการณ์ก่ออาชญากรรมชนิดรุนแรงแบบนี้ น่าเชื่อว่าจะมีสิ่งจูงใจอยู่เบื้องหลัง ซึ่งตนได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจขยายผลสาวไปถึงตัวผู้บงการ ซึ่งจะมีผู้ต้องหาในคดีนี้เพิ่มแน่นอนอาจจะมีเพิ่ม 1-2 คน

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์