แก๊งโจ๋ปาหินใส่รถไฟ-เจาะหน้าผากหนุ่มซี6

โจ๋กรุงเก่าปาก้อนหินใส่รถไฟ ขบวนกรุงเทพฯ มุ่งหน้าแพร่ ขณะใกล้ถึงสถานีพุดทรา คนร้ายปาหินก้อนยักษ์ใส่ทางหน้าต่าง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขแพร่โดนก้อนหินกระแทกหน้าผากจนหมดสติ ตาแทบมองไม่เห็น ต้องเย็บ 30 เข็ม แฉเคยเกิดเหตุมือมืดปาก้อนหินใส่ขบวนรถไฟมาแล้วหลายครั้ง แต่ ตร.ยังจับกุมไม่ได้ ผกก.สั่งระดมหาตัวคนร้าย

เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 1 ต.ค. ร.ต.ท.ฉัตรชัย ใบใหญ่ ร้อยเวร สภ.อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา

รับแจ้งมีเหตุคนร้ายใช้ก้อนหินปาใส่ขบวนรถไฟสายเหนือ วิ่งระหว่าง กทม.-แพร่ มีผู้บาดเจ็บสาหัส ถูกนำส่งร.พ.ศูนย์พระนครศรีอยุธยาแล้ว เหตุเกิดช่วงระหว่างสถานีรถไฟเชียงรากน้อย สถานีรถไฟบ้านพุดทรา ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน

ผู้บาดเจ็บชื่อนายสงค์โก สุขทรัพย์ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/23 ต.ในเวียง อ.เมือง จ.แพร่ เป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับ 6 นอนรักษาตัวอยู่ที่ชั้น 3 ศัลยกรรมชาย ตึกศรีสรรเพชญ ที่บริเวณหน้าผากมีร่องรอยถูกก้อนหินปาเข้าใส่เป็นแผลลึก 1 นิ้ว ปากแผลกว้าง 3 นิ้ว แพทย์ทำการเย็บจำนวน 30 เข็ม ที่บริเวณเบ้าตาและดวงตาซ้ายแรงกระแทกทำให้นัยน์ตาแตก พร่ามัว มองไม่เห็น ล่าสุดอาการอยู่ในขั้นปลอดภัย แพทย์เป็นห่วงเฉพาะดวงตาที่ได้รับบาดเจ็บเท่านั้น

จากการสอบสวนนายสงค์โก พอให้การได้ทราบว่า

โดยสารมากับขบวนรถไฟขบวนดังกล่าวออกจากสถานีรถไฟหัวลำโพง เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. มุ่งหน้าสู่ จ.แพร่ โดยนั่งโดยสารมาในโบกี้ที่ 5 ที่นั่งแถวซ้ายติดกับห้องน้ำ เมื่อขบวนรถไฟวิ่งออกจากสถานีรถไฟบ้านเชียงรากน้อย ใกล้จะถึงสถานีบ้านคลองพุด ทรา ขณะนั้นเวลาประมาณ 21.30 น.ในคืนวันเดียวกัน มีก้อนหินขนาดใหญ่ปามาจากด้านนอกรถ ถูกบริเวณหน้าผากอย่างจัง จนหน้ามืดหมดสติ มารู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อถูกนำตัวมารักษาที่ร.พ.แล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือกลุ่มพวกวัยรุ่นบริเวณดังกล่าวปาก้อนหินใส่ด้วยความคึกคะนอง ขณะนี้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจออกติดตามแล้ว และที่ผ่านมามีกลุ่มวัยรุ่นใช้ก้อนหินปาขบวนรถไฟในบริเวณดังกล่าวบ่อยครั้ง แต่ยังไม่สามารถจับคนร้ายได้

ด้านพ.ต.อ.สมหมาย ประสิทธิ์ ผกก.สภ.อ. บางปะอิน กล่าวว่า

เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร และไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นกลุ่มวัยรุ่นหรือไม่ เพราะไม่มีพยานหลักฐาน เนื่องจากเหตุเกิดขณะที่รถไฟวิ่งอยู่ คาดว่าน่าจะเกิดจากความคึกคะนองของคนร้าย แต่เนื่องจากทางรถไฟไม่มีการแจ้งมาในขณะที่เกิดเหตุ กระทั่งญาติของผู้บาดเจ็บมาแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้การติดตามสอบสวนหาคนร้ายค่อนข้างยาก ตนสั่งเจ้าหน้าที่ลงไป 2 ชุด เพื่อติดตามว่าเคยเกิดเหตุอย่างนี้บ่อยครั้งหรือไม่ และให้ดำเนินการสอบสวนในพื้นที่อย่างเร่งด่วน