รวบแล้ว2รุ่นพี่รับน้องโหดขอหมายจับเพิ่มอีก5ราย

หลังออกหมายจับไป 3 รายข้อหาทำร้ายร่างกาย ผู้ต้องหารับร่วมรับน้องจริง แต่อ้างเมาไม่รู้ใครออกคำสั่งใช้วิธีรุนแรง แถมไม่มีการขู่เข็ญบังคับ ตร.จ่อขอหมายจับเพิ่มอีก 5 ราย ความคืบหน้ากรณีรุ่นพี่โรงเรียนไทยวิจิตรศิลป นำรุ่นน้องไปรับน้องที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และบังคับให้รุ่นน้องกลิ้งตัวบนกองไฟที่ยังไม่มอดสนิทจนทำให้นายนิพนธ์ โตสิงห์ อายุ 17 ปี นายภาณุ บูชาตระกูล อายุ 15 ปี และนายนัด อายุ 16 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยเฉพาะนายนิพนธ์ ซึ่งอาการหนักสุดถึงขั้นต้องผ่าตัดสมอง ล่าสุดตำรวจออกหมายจับผู้ต้องหา 3 รายแล้ว

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 26 กันยายน

พ.ต.ท.สมบัติ มาลัย พงส. (สบ 3) กลุ่มงานสอบสวน บก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.อาณุ ปิ่นทอง รอง ผกก.หน.สภ.ต.ธงชัย อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นำพยานหลักฐานไปยังศาลอาญาเพื่อขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาที่ร่วมกันทำร้ายร่างกายนักเรียนไทยวิจิตรศิลป ได้รับบาดเจ็บสาหัสในช่วงรับน้อง ซึ่งศาลพิจารณาพยานหลักฐานแล้ว อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส จำนวน 3 คน ได้แก่ นายกิตติพงษ์ หาญพนาวาทย์ หรือกิต อายุ 19 ปี ปวช.ปี 3 โรงเรียนไทยวิจิตรศิลป อยู่บ้านเลขที่ 215/132 ถนนประชาราษฎร์ 1 แขวงและเขตบางซื่อ กทม. ตามหมายจับเลขที่ 2955/2550 นายพิเชษฐ์ คงรำพึง หรือเอ อายุ 23 ปี นักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ อดีตรุ่นพี่โรงเรียนไทยวิจิตรศิลป อยู่บ้านเลขที่ 214 หมู่ 6 ต.บางเดื่อ อ.เมือง จ.ปทุมธานี ตามหมายจับเลขที่ 2956/2550 และนายชิษณุพงศ์ สมเสียง หรือเอ็ม อายุ 21 ปี ปวช.ปี 3 โรงเรียนไทยวิจิตรศิลป อยู่บ้านเลขที่ 230/3505 หมู่ 2 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. ตามหมายจับเลขที่ 2957/2550

เพื่อจัดชุดสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับทั้งสามคนแล้ว และหากจับกุมผู้ต้องหาได้แล้วก็จะส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.ต.ธงชัย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ดำเนินคดีต่อไป มีรายงานว่า นอกจากรุ่นพี่ที่ถูกออกหมายจับแล้ว ยังมีอดีตรุ่นพี่อีกประมาณ 5 คน ทราบเพียงชื่อเล่น คือ นายโบ้ นายบัง นายหนุ่ม และไม่ทราบชื่ออีก 2 คน ซึ่งเข้าข่ายกระทำความผิดด้วย แต่อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานของพนักงานสอบสวน

ต่อมาเมื่อเวลา 20.00 น. พ.ต.อ.พรศักดิ์ พ.ต.ท.สมบัติ พ.ต.ท.จอม สิงห์น้อย สว.กก.5 บก.ป. พร้อมกำลังเข้าจับกุม นายกิตติพงษ์

ที่บ้านพักเลขที่ 215/132 ถนนประชาราษฎร์ 1 แขวงและเขตบางซื่อ กทม. ขณะที่กำลังอีกชุดหนึ่งเข้าจับกุมตัวนายพิเชษฐ์ ได้ที่บ้านเลขที่ 214 หมู่ 6 ต.บางเดือ อ.เมือง จ.ปทุมธานี จึงควบคุมตัวทั้งสองคนมาสอบสวนที่กองปราบปราม จากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้งสองคนยังให้การคลุมเครือ อ้างว่าเมาสุราและไม่รับทราบเรื่องที่เกิดขึ้น โดยนายกิตติพงษ์ กล่าวว่า ในวันที่เกิดเหตุเดินทางไปรับน้องร่วมกับผู้เสียหายจริง แต่เมาสุราจึงจำไม่ได้ว่าเดินทางไปทั้งหมดกี่คน จำชื่อคนที่ไปร่วมได้เพียง 2 คน คือ โบ้ กับ บัง ส่วนคนอื่นจำไม่ได้

นายกิตติพงษ์ กล่าวว่า ไม่ได้เป็นคนออกคำสั่งให้รับน้องด้วยวิธีการรุนแรง และไม่ทราบว่าใครเป็นคนสั่งจนทำให้ได้รับบาดเจ็บ

อย่างไรก็ตาม สมัยที่ตนถูกรับน้องก็ถูกทำอย่างที่เป็นข่าวเหมือนกัน และมีบาดแผลเช่นกันแต่หายไปแล้ว ส่วนการใช้ส้อมรนไฟแล้วจี้ตามร่างกายที่เรียกว่าทำบาร์โค้ดนั้นในรุ่นตนยังไม่มีการทำแบบนี้แต่อย่างใด ทั้งนี้หลังจากตกเป็นข่าวแล้วก็ไม่ได้หลบหนีไปอยู่ที่ไหน แต่อยู่ที่บ้านตลอด โดยโรงเรียนมีคำสั่งให้หยุดเรียนจึงไม่ไปโรงเรียนอีกเลย และไม่ได้ไปสมัครเรียนหนังสือที่ไหน

เช่นเดียวกันนายพิเชษฐ์ ที่ยืนยันว่าตอนที่เดินทางไปรับน้องทุกคนเต็มใจไปด้วยกันทั้งหมด และทุกคนก็เมาสุรา

ไม่ได้มีการบังคับขู่เข็ญรุ่นน้องแต่อย่างใด ส่วนตอนที่ตนถูกรับน้องก็โดนกระทำเช่นนี้เหมือนกัน ทั้งกลิ้งในกองทรายและทิ้งดิ่ง แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรง พ.ต.อ.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ รักษาการ ผบก.ป. กล่าวว่า หลังจากจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว รู้สึกเสียใจกับผู้ปกครองทั้งฝ่ายผู้เสียหายและฝ่ายผู้ต้องหา อย่างไรก็ตาม ต้องให้ทั้งสองฝ่ายไปสู้คดีกันตามกฎหมาย พนักงานสอบสวนจะรวบรวมหลักฐานตามความเป็นจริงและส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.ต.ธงชัย อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เจ้าของคดีรับตัวไปดำเนินการ สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับอีก 1 คนนั้นได้กำชับให้ชุดสืบสวนติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป ส่วนกรณีที่จะมีการออกหมายจับใครเพิ่มเติมนั้นขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานหากมีพยานเชื่อมโยงไปถึงก็จะออกหมายจับมาดำเนินคดีเช่นเดียวกัน