ครูแค้นผัวมีกิ๊ก กรอกพิษ ฆ่าลูกชาย4ขวบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 25 ก.ย. พ.ต.ท.เทพฤทธิ์ ชาวนาวิก สารวัตรเวร สภ.อ.เมืองนครปฐม รับแจ้งจากโรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียนนครปฐม ว่า มีคนกินยาฆ่าแมลงแล้วญาตินำส่งโรงพยาบาล แต่เสียชีวิตก่อน ขอให้ไปสอบสวนด้วย หลังรับแจ้งรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วไปตรวจสอบ พบศพนางชาดา พลพฤกษ์ อายุ 32 ปี กับลูกชายชื่อ ด.ช.ณภัทร พลพฤกษ์ อายุ 4 ขวบ อยู่บ้าน เลขที่ 59 หมู่ 6 ต.ตาก้อง อ.เมืองนครปฐม สภาพศพตัวเขียวน้ำลายฟูมปากทั้งสองคน ไม่มีบาดแผลตามร่างกาย จึงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และส่งศพไปตรวจชันสูตรที่สถาบันนิติเวช

จากนั้นพนักงานสอบสวนไปที่บ้านของนางชาดาเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น

ซึ่งอาศัยอยู่กับมารดาและพี่สาว โดยนางชาดาอยู่กับลูกชายที่ห้องชั้นล่าง ส่วนมารดากับพี่สาวพักอยู่ชั้นบน ทุกคนในบ้านต่างโศกเศร้าเสียใจ สอบสวนทราบว่านางชาดาเป็นครูสอนอยู่ที่โรงเรียนวัดหนองบัวแดง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ส่วน ด.ช.ณภัทร ลูกชาย เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนบำรุงวิทยา ซอย 2 เขตเทศบาลนครนครปฐม

โดยจะเดินทางไปๆมาๆระหว่างกาญจนบุรีกับนครปฐม ต่อมาเริ่มไม่กลับบ้านอ้างว่าไปค้างบ้านเพื่อนหรือไม่ก็บ้านญาติ เลยระแวงว่าสามีไปมีหญิงอื่น ทำให้ทะเลาะกันเป็นประจำ นางชาดามักปรับทุกข์กับมารดาและพี่สาว ก็ได้แต่ปลอบใจ ช่วงหลังสามีไม่กลับบ้านติดต่อกัน 3 วัน ทำให้นางชาดาเครียดจัด
 

เมื่อเช้าที่ผ่านมานางชาดาไปสอนหนังสือตามปกติ

ตอนเย็นพี่สาวไปรับ ด.ช.ณภัทรกลับมาบ้าน เมื่อนางชาดากลับจากโรงเรียน ลูกชายวิ่งไปรับหน้าประตูบ้านพร้อมกับเข้ากอด และพูดด้วยความไร้เดียงสาว่าพ่อไม่กลับบ้านแล้ว ทำให้นางชาดาถึงกับซึมเศร้าร่ำไห้ จูงลูกเข้าบ้านและไม่พูดจากับใคร หลังจากกินข้าวเสร็จก็พาลูกเข้าห้องนอนล็อกประตู
 

กระทั่งเวลา 21.00 น. พี่สาวและมารดาตะโกนเรียกให้ออกมาดูละครโทรทัศน์

แต่ไม่มีเสียงตอบ เคาะประตูเรียกก็เงียบ เลยเอะใจว่าจะเกิดเหตุร้าย รีบตะโกนเรียกเพื่อนบ้านมาช่วยกันพังประตูเข้าไป ทันทีที่ประตูเปิดออก ทุกคนก็พบภาพสลดใจ สองแม่ลูกนอนน้ำลายฟูมปากอยู่บนที่นอน มีขวดยาฆ่าแมลงตกอยู่ที่พื้น จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลแต่เสียชีวิตก่อน ขณะเดียวกันมีคนโทรศัพท์ไปบอกสามีของนางชาดาที่ จ.กาญจนบุรี พอทราบเรื่องก็ช็อกแทบหมดสติ หลังจากนั้นไม่นานพยายามจะผูกคอตายแต่ญาติช่วยไว้ทัน