โจรเขมรจับลูกเรียกค่าไถ่

หลังตั้งใจข้ามไปเข้าบ่อนฝั่งปอยเปตกับเพื่อนรุ่นพี่ แต่ดันไม่มีพาสปอร์ต จังหวะนั่งรออยู่ในร้านอาหารฝั่งไทย ก่อนถูกแก๊งโจรหลอกพาตัวไปเรียกค่าไถ่ได้เงินไป 2 รอบ แต่ไม่ส่งตัวคืน พ่อเลยแจ้นแจ้งความ แฉคดีกลิ่นทะแม่งๆ เจ้าหน้าที่เร่งสืบ หากจริงประสานกัมพูชาหาทางช่วย

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 24 ก.ย.

นายนวล พรมลา อายุ 49 ปี ชาว จ.หนองคาย ทำงานเป็น รปภ.บริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ พร้อมนายทรงศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี เข้าร้องเรียนขอความช่วยเหลือจาก ร.อ.ธรรมศักดิ์ ถ้วยทอง  รอง ผบ.ร้อยทหารพรานที่ 1207 จุดตรวจ อ.05 บ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว อ้างว่านายนิรุตต์ พรมลา อายุ 17 ปี ลูกชาย ทำงานอยู่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านอนุสารีย์ชัยสมรภูมิ กรุงเทพฯ ถูกแก๊งโจรชาวกัมพูชาลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่ ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา หรือเมื่อ 3 วันก่อน  นายนวลให้การว่า เมื่อช่วงเย็นวันเกิดเหตุ ลูกชายเดินทางไปกับนายทรงศักดิ์ ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นพี่ รู้จักสนิมสนมกันที่กรุงเทพฯ เพื่อตามนายทรงศักดิ์ไปเข้าบ่อนกาสิโนแห่งหนึ่ง ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา แต่ลูกชายไม่มีหนังสือเดินทาง เจ้าหน้าที่ด่านจึงไม่อนุญาตให้ข้ามฝั่งไป  นายทรงศักดิ์จึงขึ้นรถทัวร์ปรับอากาศที่ทางบ่อนกาสิโน่มารับข้ามไปเข้าบ่อนคนเดียว ส่วนลูกชายนั่งรออยู่ที่ร้านอาหารในตลาดโรงเกลือ

โดยคนร้ายแกล้งมาตีสนิทแล้วบอกว่าจะพาเข้าไปในกัมพูชา แต่ต้องยอมจ่ายเงิน 1,000 บาท เป็นการตอบแทน ลูกชายอยากเข้าไปดูบ่อนการพนันว่าเป็นอย่างไร จึงหลงเชื่อถูกหลอกพาเล็ดลอดเข้าไปฝั่งปอยเปต สุดท้ายคนร้ายบังคับให้โทรฯ ไปขอเงินค่าไถ่ตัวจากนายทรงศักดิ์ 1-2 ครั้ง ได้เงินไปประมาณ 2,000 บาท โดยคนร้ายตัวแทนมารับเงินไป แต่กลับไม่ยอมส่งมอบตัวลูกชายตนให้ กระทั่งเมื่อช่วงเย็นวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา คนร้ายให้ลูกชายโทรฯ ไปให้นายทรงศักดิ์ขอเงินค่าไถ่อีก 4,500 บาท โดยให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่งในตลาดโรงเกลือ นายทรงศักดิ์จึงโทรฯ มาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ตนฟัง ตนจึงเดินทางมา แต่ทั้งตนและนายทรงศักดิ์ ดันจำหมายเลขบัญชีธนาคารที่คนร้ายให้โอนเงินเข้าไม่ได้ และติดต่อกับคนร้ายไม่ได้ เลยตัดสินใจมาร้องเรียนขอความช่วยเหลือ 

ต่อมา ร.อ.ร.อ.ธรรมศักดิ์ รายงานให้ พ.อ.ไชยชัยยันห์ โสธรชัย ผบ.หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 12 รับทราบและพาทั้งคู่เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ต.คลองลึก

จากนั้นเดินทางไปที่สำนักงานประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อสืบสวนหาข้อเท็จจริง แต่เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังรู้สึกว่าคดีนี้มีข้อพิรุธสงสัยหลายอย่าง จึงจะสืบสวนให้แน่ชัดอีกครั้งเพื่อป้องกันความผิดพลาด และหากพบว่าเป็นเรื่องจริง จะได้ประสานฝ่ายเจ้าหน้าที่กัมพูชาที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางช่วยเหลือเหยื่อโจรเรียกค่าไถ่ต่อไป