ขวัญใจจะขาดขอกอดลาไอ้หมอกครั้งสุดท้ายก่อนแยกกันเข้าคุก

เหตุสลด ! น.ส.ขวัญ พี่สาว อายุ 15 ปีร่วมกันวางแผนกับ นายหมอก แฟนหนุ่ม อายุ 19 ปี ข่มขืนน้องสาวอายุ 12 ปี ป่วยเป็นออทิสติก และมีกระแสข่าวว่า น.ส.ขวัญ ท้องกับแฟนหนุ่ม ด้านพ่อยังไม่ทราบเรื่อง ขณะที่ น.ส.ขวัญ เข้าสวมแฟนหนุ่มครั้งสุดท้ายก่อนแยกกัน

มีรายงานว่าก่อนคุมตัว น.ส.ขวัญ ฝากขังต่อศาลเยาวชนและครอบครัว จังหวัดสงขลา หญิงสาวได้ขอเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าไปสวมกอดลา นายหมอก แฟนหนุ่มเป็นครั้งสุดท้ายก่อนต้องแยกจากกัน เนื่องจากนายสัณห์พิชย์ ต้องถูกคุมตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนาทวี หลังจากถูกสอบสวนอย่างหนัก นอกจากนี้ น.ส.ขวัญ ยังมีอาการเวียนศีรษะ อยากอาเจียนอยู่ตลอดเวลา บ่นว่าเหม็นกลิ่นน้ำหอมทำให้ตำรวจเฝ้าสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด เพราะก่อนหน้านี้ น.ส.ขวัญ เคยอ้างว่าขณะนี้ท้องอ่อนๆ กับแฟนหนุ่ม

ขณะที่ทีมข่าวภูมิภาคสอบถามไปยังบิดา และลุง ของน.ส.ขวัญ เปิดเผยว่า ยังไม่ทราบข่าวเรื่องการตั้งครรภ์ของบุตรสาว หรือหลานสาวคนโต โดยลุงของน.ส.ขวัญ บอกว่า พอจะทราบพฤติกรรมของน.ส.ขวัญ เป็นเด็กใจแตก ไม่เรียนหนังสือ ชอบเที่ยว และมีพฤติกรรมมั่วสุม แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าหลานสาวท้องกับนายหมอก หรือชายหนุ่มคนอื่นๆ

ด้านพันตำรวจเอก อนุรุธ อิ่มอาบ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ระบุยังไม่รู้ว่าน.ส.ขวัญ ท้องหรือไม่ 

ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น.พนักงานสอบสวน สภ.สะเดา ควบคุมตัวนายหมอก หรือ นายสัณห์พิชย์ ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนาทวีผลัดแรก โดยวันนี้นายหมอก เริ่มมีท่าทางที่อิดโรยและสีหน้าเคร่งเครียด แต่ยังคงยืนกรานปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ได้เป็นคนข่มขืนน้องสาวของแฟน เพราะตอนนั้นนอนหลับอยู่ไม่รู้เรื่อง ยืนยันว่าน้องขวัญพี่สาวเป็นคนทำเองทั้งหมด

นอกจากนี้ นายหมอก ยังบอกไม่ทราบเรื่องแฟนสาวท้อง ส่วนหลังจากเสร็จสิ้นคดีจะไปขอขมาครอบครัวของฝ่ายหญิงหรือไม่นั้นค่อยว่ากันอีกที แต่บอกว่าเมื่อจบเรื่องนี้แล้วจะกลับมาใช้ชีวิตคู่อยู่กับแฟนสาวอีกครั้ง

ขณะที่นายเก่ง ซึ่งเป็นน้าของเพื่อนสนิทผู้ต้องหา เดินทางมาที่ สภ.สะเดา เพื่อเยี่ยมนายหมอก และมาติดตามเรื่องนี้ บอกว่าขวัญและหมอก เคยไปที่บ้านเป็นประจำ เนื่องจากทั้งคู่เป็นเพื่อนกับหลานชาย โดยส่วนตัวไม่เชื่อว่านายหมอก จะเป็นคนข่มขืนน้องสาวของแฟน เพราะปกตินิสัยก็เหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วๆไปแต่พอทราบว่าเสพยาแต่ไม่ได้ติดถึงขั้นรุนแรง ส่วนน้องขวัญเป็นเด็กผู้หญิงวัยรุ่นที่ร่าเริงไม่เชื่อเหมือนกันว่าจะทำเรื่องแบบนี้

ขอบคุณ news.ch3thailand.com