เครียดเมียหนี คลั่งยิงดะ4ศพ

แจ้งเหตุยิงกันตาย เนื่องจากทางบ้านแฟนเก่าเอาก้อนหินมาปาใส่บ้าน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 19 ก.ย. พ.ต.ต.อำนาจ แก้วขาว สารวัตรเวร สภ.อ.สอยดาว จ.จันทบุรี รับแจ้งเหตุยิงกันตายที่บ้านเลขที่ 150/5 หมู่ 1 ต.ปะตง จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ประการ ประจง ผกก. พ.ต.ท.วิฑูล ขุนบุญจันทร์ รอง ผกก. (ป.) หน่วยกู้ภัยสว่างกตัญญูสอยดาว แพทย์เวร รพ.สอยดาว และกำลังตำรวจจำนวนหนึ่ง ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ภายในบ้านพบผู้เสียชีวิต 2 ราย
โดยรายแรกนอนตายอยู่หน้าประตูห้องนอน  ทราบชื่อ  นางผกามาศ ผาสุข อายุ 22 ปี เจ้าของบ้าน สภาพศพนอนหงาย สวมชุดนอนลายการ์ตูนสีขาว มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 9 มม. เข้าที่ลำตัว ศีรษะ กลางหลัง ขาและแขน รวมกว่า 10 นัด อีกรายนอนตายอยู่หลังบ้านทราบชื่อนายเฉลิมโชค เพชรเจริญ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 150/10 หมู่ 1 ต.ปะตง อ.สอยดาว สวมเสื้อกีฬาสีเหลือง กางเกงขาสั้นสีกรมท่า มีแผลถูกยิงด้วยกระสุน ปืนชนิดเดียวกันเข้าที่ลำตัว ศีรษะและหลัง กว่า 10 นัด

นอกจากนี้ บริเวณหลังบ้านยังพบขวดเหล้า จานกับแกล้ม และแก้วน้ำล้มกระจัดกระจาย โดยมีปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกกระจายอยู่ในบ้าน หลังบ้าน และหน้าบ้านรวม 37 ปลอก


ขณะเดียวกันทราบจากชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ว่า ยังมีเหยื่อกระสุนถูกยิงได้รับบาดเจ็บอีก 3 ราย ถูกนำส่ง รพ.สอยดาว ไปก่อนหน้าแล้วและเสียชีวิตเวลาต่อมาอีก 1 ราย ทราบชื่อนายจินดา ปทุมทอง อายุ 25 ปี เป็นสามีของนางผกามาศ มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนบริเวณลำตัวและศีรษะ 2 นัด ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย ทราบชื่อนายกีรติ อ่อนโคกสูง อายุ 24 ปี อยู่หมู่บ้านเดียวกัน ถูกยิงเข้าที่ลำตัว อาการสาหัส ถูกส่งต่อไปรักษาที่ รพ.พระปกเกล้าจันทบุรี และนายปรีชา สะพานแก้ว อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 214/12 หมู่ 1 ต.ปะตง ถูกยิงที่หน้าท้อง แพทย์ได้ส่งต่อไปรักษาที่ รพ.ศิริเวช อ.เมืองจันทบุรี ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบที่เกิดเหตุอยู่นั้นได้รับแจ้งเหตุยิงกันที่บ้านเลขที่ 66 หมู่ 10 ต.ทับช้าง อ.สอยดาว เป็นเขตติดต่อกัน จึงรีบไปตรวจสอบ พบผู้เสียชีวิตนอนตายอยู่ในบ้าน 1 ราย ทราบชื่อนางสายบัว คำภีระ อายุ 45 ปี เป็นเจ้าของบ้าน สภาพศพมีแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืน 9 มม. บริเวณศีรษะ 1 นัด บาดเจ็บอีก 1 ราย ชื่อนายจำเนียร คำภีระ อายุ 50 ปี สามีของนางสายบัว มีแผลถูกยิงด้วยกระสุนขนาดเดียวกันบริเวณต้นขาขวา มีชาวบ้านช่วยนำส่ง รพ.สอยดาว ไปก่อนหน้าแล้ว 


ส่วนมือปืนที่ก่อเหตุทราบว่าชื่อนายจักรกริช หรือช่างพัน ศิวะพรรังสรรค์ อายุ 35 ปี


อยู่บ้านเลขที่ 154 หมู่ 1 ต.ปะตง อ.สอยดาว มีอาชีพเปิดร้านซ่อมรถจักรยานยนต์อยู่บ้านติดกับบ้านที่เกิดเหตุหลังแรก หลังก่อเหตุขับรถปิกอัพโตโยต้าไทเกอร์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บน 8789 จันทบุรี หลบหนีเข้าไปในพื้นที่ ต.ทุ่งขนาน อ.สอยดาว ตำรวจวิทยุสกัดจับ ระหว่างนั้น ส.ต.ท.นนทวัฒน์ สายยศ กับ ด.ต.วาเรศ ทองชนม์ สายตรวจรถจักรยานยนต์ สภ.ต.สะตอน อ.สอยดาว พบนายจักรกริชจอดรถอยู่หน้าบ้านของนายสมเกียรติ ทองอินทร์ อายุ 45 ปี เลขที่ 54 หมู่ 6 ต.ทุ่งขนาน อ.สอยดาว จึงแสดงตัวเข้าจับกุม แต่นายจักรกริชขัดขืนต่อสู้ ใช้ปืนพกยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นเหตุให้ ด.ต.วาเรศ ถูกยิงที่ต้นขาซ้ายทะลุ 1 นัด ส่วน ส.ต.ท.นนทวัฒน์ ถูกยิงที่หน้าท้อง 1 นัด บาดเจ็บสาหัส ก่อนนายจักรกริชจะถือปืนวิ่งหลบหนีเข้าในป่า กำลังตำรวจอีกชุดที่ตามไปสมทบรีบนำร่างตำรวจทั้ง 2 นายส่ง รพ.สอยดาว ตรวจค้นในรถปิกอัพพบปืนลูกซองยาว 5 นัด และกระสุนจำนวนหนึ่ง 


ต่อมา พ.ต.อ.อังกูร พูลเจริญ รอง ผบก.ภ.จ.จันทบุรี รับรายงานนำกำลังตำรวจเข้าปิดล้อมตรึงพื้นที่เอาไว้ตลอดทั้งคืน

จนกระทั่งถึงเวลา 07.00 น. ของวันใหม่ นายจักรกริช เห็นท่าไปไม่รอดโผล่ออกมาจากที่ซ่อนใช้ปืนพกจี้จับนายประสิทธิ์ แก้วโอ่ง อายุ 65 ปี บ้านเลขที่ 162/6 หมู่ 6 ต.ทุ่งขนาน อ.สอยดาว บริเวณสามแยกหน้าวัดทุ่งขนาน หมู่ 6 ต.ทุ่งขนาน ขณะขับรถกระบะไปรับญาติที่ปฏิบัติ ธรรมอยู่ที่วัดทุ่งขนานเป็นตัวประกัน โดยใช้ปืนพกจี้ศีรษะนายประสิทธิ์ไว้ตลอดเวลาและห้ามไม่ให้ใครเข้าใกล้ ตำรวจพยายามเกลี้ยกล่อมอยู่นานแต่ไม่เป็นผลจึงไปตาม 


นางสมลักษ์ ศิวะพรรังสรรค์ อายุ 57 ปี พี่สาวของนายจักรกริชมาช่วยเจรจาอีกแรง 

ทำให้นายจักรกริชจากเดิมที่อยู่ในอาการคลุ้มคลั่งตาขวางมีท่าทีอ่อนลง และยอมปล่อยตัวประกันเมื่อเวลา 10.15 น.  พร้อมกับวางปืนมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจท่ามกลางความโล่งใจของบรรดาไทยมุง ตำรวจจึงควบคุมตัวไปสอบสวน สอบสวนเบื้องต้นนายจักรกริช ให้การว่า เคยแต่งงานมีครอบครัว  โดยยึดอาชีพเป็นช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ เปิดร้านอยู่ติดกับบ้านเกิดเหตุหลังแรก  ต่อมาแยกทางกับภรรยา แล้วไปมีภรรยาใหม่ แต่หลังอยู่กินกันได้ไม่นาน ภรรยาหอบเสื้อผ้าหนีออกจากบ้านไปอีกคน ทราบเพียงว่าไปทำงานอยู่ที่พัทยา ทำให้เกิดความเครียด ก่อนก่อเหตุนายจินดาหนึ่งในผู้เสียชีวิตพาพรรคพวกมาตั้งวงดื่มเหล้าเปิดเพลงเสียงดังโดยไม่เกรงใจ  ขอร้องให้เบาเสียงลง  แต่นายจินดาไม่สนใจและยังพูดจาท้าทาย  ทำให้เกิดบันดาลโทสะ ประกอบกับมีความเครียดเรื่องปัญหาครอบครัวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว คว้าปืน 9 มม. และลูกซองยาว 5 นัด บุกเข้าไปยิงนายจินดาและพวก ก่อนจะขับรถไปยิงอดีตพ่อตากับแม่ยายที่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อนเป็นรายที่ 2 แล้วขับรถไปที่บ้านนายสมเกียรติพ่อตาคนปัจจุบัน ถามหาภรรยาที่หอบเสื้อผ้าหลบหนี  โดยตั้งใจว่าจะยิงนายสมเกียรติอีกคน  แต่ระหว่างนั้นตำรวจติดตามไปทันพอดี  เกรงว่าจะถูกจับกุมก่อเหตุยิงตำรวจบาดเจ็บ 2 นาย แล้วหนีไปจับชาวบ้านเป็นตัวประกัน หลังสอบปากคำ ตำรวจแจ้งข้อหาดำเนินคดี สำหรับผู้เสียชีวิตรวมทั้งหมด 4 ราย บาดเจ็บ 5 ราย


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์