คุมตัวผัว-เมียทำแผนนาทีฆ่าเผานั่งยางอิตาลี! เผยปมสุดเศร้า

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 30 ม.ค. พ.ต.อ.ชัยเสถียร มณีจักร ผกก.สภ.บึงนาราง จ.พิจิตร พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้รับเงินรางวัลนำจับ 10,000 บาท จากนายสมบัติ พุทธสอน คณะกรรมการตำรวจ สภ.บึงนาราง จ.พิจิตร พร้อมเปิดเผยว่า ในพื้นที่อ.บึงนาราง ไม่เคยเกิดเหตุอุกฉกรรจ์แบบนี้เลย ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกของอำเภอที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ตนในฐานะคณะกรรมการโรงพัก ได้นำเงินสดส่วนตัวมามอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บึงนางราง เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ ซึ่งก็มีอีกหลายท่านที่จะมอบเงินรางวัลนำจับให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ

จากนั้น เมื่อเวลา 10.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้นำตัวนางรุจิรา และนายฮาโมรี ผู้ต้องหาฆ่าเผายางนายจูเซปเปไปสอบปากคำเพื่อขยายผลและไปชี้จุดเกิดเหตุ พร้อมทั้งทำแผนประกอบคดี 5 จุด คือ ที่ม.3 ต.แหลมรัง เป็นจุดเผานั่งยาง จุดที่ 2 ที่บริเวณหมู่บ้านแหลมรัง ซึ่งจุดนี้นางรุจิรา และนายฮาโมรี ได้ไปซื้อน้ำมันเบนซิน จุดที่ 3 ที่บริเวณคันคลองชลประทาน ม.6 ต.แหลมรัง เป็นจุดที่นายจูเซปเป รวมทั้งนายฮาโมรีและนางรุจิรา ไปพูดคุยและตกลงกัน และเป็นจุดที่ใช้มีดฟัน

จุดที่ 4 คือ ที่บ้านเลขที่ 134 ซึ่งเป็นบ้านของนางรุจิรา ซึ่งจุดนี้นายฮาโมรีได้นำรถเก๋งที่ใช้ก่อเหตุนำไปล้างคราบเลือด และจุดที่ 5 คือที่บ้านเช่าของนายฮาโมรี ที่ตำบลทุ่งใหญ่ ซึ่งนางรุจิรา ไปรับนายฮาโมรี ซึ่งทั้ง 5 จุด มีประชาชนให้ความสนใจเกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก

พ.ต.อ.ชัยเสถียร กล่าวว่า จากการสอบสวนในเบื้องต้นนางรุจิรา ให้การรับสารภาพว่า วันที่เกิดเหตุ คือวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา นางรุจิราพร้อมนายฮาโมรีได้ขับรถไปรับนายจูเซปเปที่บ้านของนางรุจิรา ที่บ้านเลขที่ 134 เพื่อตกลงกันระหว่างนายจูเซปเป และนางรุจิรา แต่นายจูเซปเปไม่ยอม โดยพูดว่า ซื้อนางรุจิรามาแล้ว 1 แสนบาท จะทำอะไรกับนางรุจิราก็ได้

นางรุจิรา ให้การรับสารภาพว่า คนที่ลงมือฆ่านายจูเซปเป คือ นายฮาโมรี เพราะทนเห็นนายจูเซปเปตบตีตนไม่ไหว จึงใช้มีดฟันนายจูเซปเปที่ศีรษะจนแน่นิ่งและเสียชีวิต ซึ่งวันที่เกิดเหตุนายจูเซปเปได้เรียกให้ตนไปรับที่บ้านเพื่อตกลงกันว่าจะเลือกใคร จากนั้น ได้มีปากเสียงกันระหว่างตนกับนายจูเซปเป ซึ่งนายจูเซปเปได้ลงมือตบตีตนจนนายฮาโมรีทนไม่ได้และก่อเหตุดังกล่าว

นางรุจิรา กล่าวว่า อดีตที่ผ่านมา นายจูเซปเปอดีตสามี อยากมีลูกกับตน เพราะที่ผ่านมา นายจูเซปเปมีลูกชายที่เกิดจากภรรยาเก่าที่ประเทศอิตาลี คือนายลูก้า จนตนตั้งท้องได้ 4 เดือน นายจูเซปเปจึงได้โทรศัพท์ไปเล่าเรื่องที่ตนท้องกับนายลูก้า แต่นายลูก้า ซึ่งเป็นลูกชายของผู้เสียชีวิตไม่รับเด็กในท้องเป็นน้อง จนตนและนายจูเซปเปมีปากเสียงกันรุนแรง และนายจูเซปเปได้ขอเลิกกับตนและบินกลับประเทศ ตนจึงได้ไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่สงเคราะห์ที่กรุงเทพฯ เพื่อเอาเด็กออก

นางรุจิรา กล่าวต่อว่า จากนั้น ตนได้คบหากับนายฮาโมรี และอยู่กินกันแบบสามีภรรยา ซึ่งก็ไม่ทราบว่านายฮาโมรีติดแบล็คลิสต์เข้าประเทศไทยไม่ได้ จนกระทั่ง นายจูเซปเปได้ติดต่อกลับมาเพื่อขอคืนดีและส่งเงินมาให้ใช้หลังจากที่เลิกกันไปแล้ว ซึ่งตนก็ไม่ได้บอกกับนายจูเซปเปว่ามีสามีใหม่ จนกระทั่งนายจูเซปเปได้บินกลับมาที่เมืองไทย และเห็นตนกับนายฮาโมรีอยู่ด้วยกัน จึงมีปากมีเสียงกัน ซึ่งตนได้หนีไปอยู่บ้านอีกหลังกับนายฮาโมรี จนกระทั่ง นายจูเซปเปได้โทรศัพท์มาขอพูดคุยและเจรจาเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น จนกระทั่งเกิดเหตุดังกล่าว

นางรุจิรา กล่าวว่า ที่ผ่านมา ตนทรมานเป็นอย่างมาก เนื่องจากนายจูเซปเปมีพฤติกรรมชอบใช้ความรุนแรงทางเพศ ส่วนสาเหตุที่เลิกกันนั้น มีหลายสาเหตุ คือทนพฤติกรรมที่ชอบใช้ความรุนแรงของนายจูเซปเปไม่ไหว และนายจูเซปเปไม่รับผิดชอบที่ตนท้อง และบินกลับประเทศโดยไม่รับผิดชอบอะไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมา นายลูก้า เดอ สเตฟานี อายุ 33 ปี ลูกชายของนายจูเซปเปได้เดินทางมาดูศพและข้าวของเครื่องใช้ของนายจูเซปเป ซึ่งได้ใส่อารมณ์เกรี้ยวกราดใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจและนักข่าว โดยหาว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานล่าช้า จับกุมตัวคนร้ายไม่ได้ นอกจากนี้ ยังพูดจาหยาบคายใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ อีกทั้ง นายลูก้าได้ยืมรถตำรวจ สภ.บึงนาราง ไปที่ร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้อของบางอย่าง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจแอบตามไป ซึ่งเมื่อนายลูก้าเห็นถึงกลับทุบกระจกรถตำรวจที่ยืมไปซื้อของ จนกระจกรถแตก ซึ่งนายลูก้าได้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 6,000 บาท ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ติดใจเอาความ เพราะเห็นว่านายลูก้าอยู่ในอาการแค้นและเศร้าที่พ่อถูกฆ่าเสียชีวิตในครั้งนี้

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกำลังขยายผลการสืบสวน ว่า เบื้องหลังการฆาตกรรมนายจูเซปเปในครั้งนี้มีผู้ร่วมกระทำความผิดอีกหรือไม่ ซึ่งนางรุจิรายังปิดปากเงียบ และรับสารภาพว่า นายฮาโมรีเป็นผู้ลงมือฆ่าเพียงคนเดียว