แจ้ง 3 ข้อหานายก อบจ.ยโสฯ

รอง ผบช.ภ.3 ลุยแหลกแจ้งข้อหาหนัก นายก อบจ.ยโสฯ อ่วม 3 ข้อหารวด ในฐานความผิดอาญา ใช้ จ้างวานผู้อื่นทำร้ายเจ้าพนักงาน ข่มขืนใจ และหมิ่นประมาท หลังนำชุดสอบสวนข้อเท็จจริง ส.ต.อ.ยโสธรถูกกระทืบคาโรงพัก ได้หลักฐานมัดแน่น พร้อมฟันธง ทำคดีตรงไปตรงมาไม่มีมวยล้มต้มคนดูแน่นอน  ขณะที่นายกฯ ปฏิเสธทุกข้อหา ด้านรักษาการ ผบก.ภ.จ.ยโสธร เดินเครื่องปรับระบบการทำงาน ตร. สั่ง นปพ. ออกกวาดล้างผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ 

กรณี ส.ต.อ.อาทิตย์ แดงดี ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.อ.เมืองยโสธร ถูกนายอุดร สาระคำ และนายวิโรจน์ ใจพรมเมือง กระโดดเตะก้านคอจนสลบเหมือด ต่อหน้าผู้บังคับบัญชา

ในขณะเจราจาตกลงปัญหากับลูกชาย นายก อบจ.ยโสธร สร้างความไม่พอใจต่อผู้ใต้บังคับบัญชาในสังกัด จึงรวมตัวประท้วง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา ภายหลัง พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร. เซ็นคำสั่งย้ายนายตำรวจผู้รับผิดชอบไปเข้ากรุ และสั่งสอบสวนข้อเท็จจริงภายใน 15 วัน พร้อมสั่งการให้ปราบปรามผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ให้หมดสิ้น
  
เกี่ยวกับความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 ก.ย. ที่ สภ.อ.เมืองยโสธร

พล.ต.ต. อำนวย มหาผล รอง ผบช.ภ.3 ประธานสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว  ได้เชิญตัว นายสถิรพร  นาคสุข  อายุ 50 ปี นายก อบจ.ยโส ธร เข้าสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา โดยมีสื่อมวลชนไปรอเสนอข่าวจำนวนมาก ซึ่งนายสถิรพร พร้อมทนายความ ได้เดินทางเข้าพบทีมพนักงานสอบสวน โดยมีสมาชิก อบจ.เดินทางมาให้กำลังใจ ใช้เวลา 5 ชั่วโมง จึงเสร็จสิ้นการสอบสวน ภายหลังนายสถิรพร พร้อมทนายความ ได้เดินทางกลับหลังมารับทราบข้อกล่าวหาโดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด ซึ่งนายสถิรพรได้ใช้ต่ำแหน่ง นายก อบจ.ยโสธร ประกันตัวออกไป

มีหลักฐานเกี่ยวพันโยงใยไปถึง นายสถิรพร ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหานายสถิรพร ในคดีอาญา ที่ 947/50 และ 950/50 ใน 3 ข้อกล่าว หา คือ 1. ฐานเป็นผู้ใช้ จ้างวาน หรือตัวการร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติราชการตามหน้าที่ หรือเพราะเหตุได้ปฏิบัติราชการตามหน้าที่ 2. ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ และ 3. หมิ่นประมาทหรือดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือเพราะได้กระทำการตามหน้าที่
 
พล.ต.ต.อำนวย กล่าวต่อไปว่า

พฤติการณ์ที่เกิดขึ้นตามวันเวลาเกิดเหตุ นายสถิรพร ได้เป็นผู้ใช้หรือเป็นตัวการร่วมกับ นายวิโรจน์ ใจพรมเมือง นายอุดร สาระคำ และนายไพโรจน์ โคตรสมบัติ ร่วมกันทำร้ายร่างกาย ส.ต.อ.อาทิตย์ แดงดี ขณะปฏิบัติหน้าที่ราชการ ในเครื่องแบบราชการตำรวจ หรือเหตุได้ปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย ในการเข้าระงับเหตุวัยรุ่นก่อการทะเลาะวิวาท ในงานแสดงคอนเสิร์ต ที่บริเวณสวนสาธารณะพญาแถน เขตเทศบาลเมืองยโสธร โดยใช้กำลังชกต่อยและเตะทำร้าย ส.ต.อ.อาทิตย์  บน สภ.อ.เมืองยโสธร กระทำการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น ส.ต.อ.อาทิตย์
 
ขณะที่ปฏิบัติราชการตามหน้าที่ด้วยถ้อยคำหยาบคาย ต่อหน้า พ.ต.อ.โรจน์วัฒน์  รัตน์เรืองภิญโญ ผกก.สภ.อ.เมืองยโสธร รวมทั้งบุคคลอื่น ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ นอกจากนี้พวกของผู้ต้องหายังได้ด่าทอ ส.ต.อ.อาทิตย์ ด้วยถ้อยคำที่ดูหมิ่น ในขณะเข้าชกต่อยและทำร้ายร่างกาย ทำให้ ส.ต.อ. อาทิตย์ ได้รับความเสียหาย ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง เสื่อมเสียเกียรติยศ ซึ่ง ส.ต.อ.อาทิตย์ ได้ยืนยันแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายสถิรพรกับพวก
  
ประธานสอบสวนข้อเท็จจริง กล่าวต่อไปว่า

สำหรับ นายสถิรพร ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ปล่อยตัวชั่วคราวเนื่องจากเป็นผู้มีชื่อเสียง และดำรงตำแหน่งนายก อบจ.ยโสธร ส่วนการดำเนินคดีอาญากับนายวิโรจน์ ที่รับสารภาพไปก่อนหน้า พนักงานสอบสวน ได้สรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการแล้ว ส่วนนายอุดร ที่ปฏิเสธข้อกล่าวหา อยู่ในระหว่างการสอบสวนของพนักงานสอบสวน ซึ่งถ้าหากผลการสอบสวนโยงใยไปถึงใครอีก ก็ต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายทุกกรณี ส่วนนายไพโรจน์ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคนที่ 3 ในคดีร่วมกันทำร้ายร่างกาย ส.ต.อ.อาทิตย์ ได้เข้ามามอบตัวกับพนักงานสอบสวนเช่นกัน คาดว่าคดีทั้งหมดจะเสร็จสิ้นก่อน 15 วัน ตามที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร. กำหนดให้ ส่วนความเชื่อมั่นของประชาชนต่อรูปคดีนั้นขอยืนยันว่า ได้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีมวยล้มแน่นอน
 
ที่ห้องประชุม โรงเรียนยโสธรวิทยาคม  จ.ยโสธร

พ.ต.อ.สมหมาย กองวิสัยสุข รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น รักษาราชการแทน ผบก.ภ. จว.ยโสธร ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นประทวน สภ.อ.เมืองยโสธร กว่า 100 นาย เพื่อปรับระบบการทำงานและเพิ่มประสิทธิภาพของตำรวจ ให้มีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ ในขณะเดียวกันได้สั่งการให้หน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ. ยโสธร) ดำเนินการออกกวาดล้างสิ่งผิดกฎหมาย และมิจฉาชีพอย่างต่อเนื่อง รวมถึงผู้มีอทธิพลในพื้นที่.