สาวใบ้ฮึดสู้โจร บุกปล้ำถึงบ้าน มีดแทง-กระเจิง

คนร้ายลงมือกลางวันแสกๆ ฉวยจังหวะเหยื่ออยู่บ้านลำพังสวมหมวกไอ้โม่งบุกเข้าหา พยายามปล้ำขืนใจ แต่เหยื่อดิ้นสู้จนดึงหมวกไหมพรมออกจนเห็นใบหน้า ก่อนคว้ามีดปอกผลไม้แทงสวนจนคนร้ายเผ่นกระเจิง ทิ้งไว้แค่รอยเลือด ตร.รุดตรวจถึงกับมึนเพราะเจ้าทุกข์พูดไม่ได้ ให้ตามสามีมาปรากฏว่าเป็นใบ้อีก แต่โชคดีที่เขียนหนังสือได้ จึงให้เป็นล่ามช่วยสอบปากคำ เร่งล่าตัวตามร.พ.และคลินิกที่สงสัยไปรักษาตัว เชื่อเป็นคนในละแวกที่เกิดเหตุ

โจรกามบุกปล้ำสาวใบ้ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 10 ก.ย.

ขณะที่พ.ต.ท.ภัทรชัย กอสนาน รองผกก.ป.สภ.อ.เมืองกาญจนบุรี นำตำรวจสายตรวจออกปฏิบัติหน้าที่ในเขตรับผิดชอบ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่า มีคนร้ายก่อเหตุพยายามข่มขืน แต่เจ้าทุกข์ต่อสู้จึงหลบหนีเข้าป่าละเมาะหลังบ้าน เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 12/5 หมู่ 3 ต.หนองหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี จึงรีบนำกำลังเดินทางไปตรวจสอบและปิดล้อมบริเวณใกล้เคียงติดตามคนร้าย

พร้อมกับเพื่อนบ้านกว่า 10 คน โดยนางสุวานิจ มีอาการหวาดผวาและตัวสั่นตลอดเวลา แต่ไม่สามารถพูดจาสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ได้เนื่องจากเป็นคนใบ้ เจ้าหน้าที่จึงให้เพื่อนบ้านติดต่อนายบุญส่ง พุกนิลฉาย อายุ 44 ปี สามีนางสุวานิจมาช่วยเป็นล่ามสื่อสาร เมื่อมาถึงปรากฏว่านายบุญส่งก็เป็นคนใบ้เช่นกัน แต่สามารถเขียนหนังสือได้ เจ้าหน้าที่จึงให้สื่อสารภาษาใบ้กับภรรยาแล้วเขียนข้อความเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ภายในบ้านยังพบมีดปอกผลไม้เปื้อนเลือดวางทิ้งอยู่ โดยมีหยดเลือดเป็นทางอยู่ในบ้าน เบื้องต้นทราบว่าเป็นเลือดของคนร้าย

ภายหลังสื่อสารภาษาใบ้กันแล้ว นายบุญส่ง เขียนบรรยายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า
 
ก่อนเกิดเหตุนางสุวานิจ อยู่ในบ้านเพียงลำพัง เข้าห้องน้ำแต่เมื่อกลับออกมาพบคนร้ายสวมหมวกไหมพรมแบบไอ้โม่ง กระโจนเข้าหาพยายามปลุกปล้ำขืนใจ โดยใช้มือบีบคอขณะที่นางสุวานิจ พยายามต่อสู้ขัดขืนจนสามารถดึงหมวกไหมพรมคนร้ายออกมา ทำให้เห็นหน้าตา เป็นชายสูงประมาณ 170 ซ.ม. ผมบาง หวีผมแสกกลาง สวมเสื้อยืดคอกลมสีดำ สวมกางเกงขายาวลายพราง ไว้หนวด

นายบุญส่ง เขียนบรรยายเหตุการณ์ตาามที่คุยภาษาใบ้กับภรรยาอีกว่า

ระหว่างต่อสู้กับคนร้าย นางสุวานิจคว้ามือเปะปะกระทั่งหยิบมีดปอกผลไม้ที่วางอยู่ แทงเข้าท้องของคนร้ายเต็มแรง 2 ครั้ง ทำให้คนร้ายร้องด้วยความเจ็บปวดใช้มือกุมท้องวิ่งหนีออกไปทางป่าละเมาะหลังบ้าน นางสุวานิจ วิ่งออกมาขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านให้โทรศัพท์แจ้งตำรวจดังกล่าว

ภายหลังรับทราบข้อมูลคนร้าย พ.ต.ท.ภัทรชัย กอสนาน สั่งเจ้าหน้าที่ทั้งสายตรวจและสายสืบออกติดตามตัวคนร้ายอย่างกระชั้นชิด

ตามสถานพยาบาลต่างๆ ทั่วจังหวัด และนำนางสุวานิจ หญิงใบ้ใจเด็ด และนายบุญส่ง สามีใบ้ ไปสอบสวนเพิ่มเติมที่สภ.อ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อสเกตช์ภาพคนร้ายต่อไป เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นคนในละแวกเดียวกัน และอาจจะเคยเห็นหน้าค่าตากันอยู่จึงต้องสวมหมวกไหมพรมอำพรางใบหน้า